AVG Thailand ชูบริการใหม่ “Social Commerce" ดันการขายให้เกิดประสิทธิภาพ

25 มิ.ย. 2562 | 22:38 น.
636

AVG Thailand ชูบริการใหม่ “Social Commerce" ดันการขายให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น  แนะผู้ประกอบการไทยมองหาโอกาสทางธุรกิจในเมืองกลุ่ม New Tier One

 

นางชฎากร ธนสุวรรณเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอวีจี ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ AVG Thailand มี 2 อาวุธลับที่จะนำมาเสริมการสร้างแบรนด์ในตลาดจีน นั่นคือ Influencers Marketing และ Social Commerce สำหรับInfluencers Marketing นั้น ผู้บริหาร AVG Thailand  ระบุว่า Influencer Marketing กลายเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญในกลยุทธ์ทางการตลาดประเทศจีน เพราะจากข้อมูลของฟรอสต์และซูลิแวน แสดงให้เห็นถึงยอดขายที่เกิดจาก Influencer คนจีน ที่สูงถึง 32.9 พันล้านหยวน (4.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

 

และในปี 2560 คาดว่าจะสร้างอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่มั่นคงได้ถึง 40.4% ในอีก 5ปีข้างหน้า อีกทั้ง 80% ของแฟนคลับที่ติดตาม Influencer นั้นเป็นกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียมหรือคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1981 ถึง 1996 (อายุ 23-38 ปี) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงที่สุดในประเทศจีน

 

“การวางกลยุทธ์การตลาดในประเทศจีนของ AVG Thailand จะไม่ใช่เพียงการเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีแฟนๆ มากมายเพียงอย่างเดียว แต่ AVG จะเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงกับกลยุทธ์ที่วางแผนไว้ ด้วยการสร้างแรงจูงใจให้อินฟลูเอนเซอร์กับแบรนด์หรือสินค้านั้นๆ เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ในรูปแบบของพวกเขาเอง แทนการยัดเยียดข้อมูลอย่างจงใจ”

 

ขณะที่บริการใหม่ที่น่าจับตามอง คือ Social Commerce เป็นการต่อยอดจาก Influencer marketing ที่ได้ผลตอบรับที่ดี ในการสร้างการรับรู้แบรนด์ นั่นคือ เป็นการตลาดที่ผสมผสานระหว่าง Social media และ e-commerce เพื่อตอบโจทย์ความต้องการให้กับสินค้า

 

นอกจากนี้ในด้านของธุรกิจไทยควรปรับตัวในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวอันเนื่องจากข้อพิพาทจีน-สหรัฐ ในช่วงนี้ ผู้ประกอบการควรมองหาโอกาสทางธุรกิจในเมืองกลุ่ม New Tier One คือ เมืองที่มีศักยภาพการเติบโตที่ขึ้นไปอยู่กลุ่มเมืองที่เจริญแล้ว (Tier One) ในจีน รวมทั้งควรศึกษาเรื่องข้อได้เปรียบที่ได้จากข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียนจีน (ACFTA) เนื่องจากในปีที่ผ่านมามีสินค้าไทยทั้งหมดที่ส่งออกไปจีนเพียง 68.4% ที่ได้รับอานิสงค์จากข้อตกลงนี้ ดังนั้นควรจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศจีนเพื่อปกป้องสิทธิของเจ้าของแบรนด์ไทย และเลือกช่องทางในการทำดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งให้ถูกทาง ที่เหมาะสมกับงบประมาณและเจาะได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย