ไตรมาส1ทีวีดิจิทัลวืดเป้า‘เลือกตั้ง’ไร้อานิสงส์เม็ดเงินโฆษณาติดลบ

23 เม.ย. 2562 | 16:46 น.
1.1 k

ทีวีดิจิทัลไตรมาส 1ไม่สดใส เม็ดเงินโฆษณาติดลบ 3.58% “นายกสมาคมมีเดียและเอเยนซี” คาดทั้งปีนี้โต 2-3% บิลลิ่งกระจุกช่องทีวีที่มีเรตติ้งติด 1 ใน 10 “โมโน 29” สวนกระแสซุ่มปรับค่าโฆษณาช่วงไพรม์ไทม์เพิ่ม 40-50% จับตา “โฮมช้อปปิ้ง” แรงทุกช่อง

ถูกจับตามองว่าเส้นทางของทีวีดิจิทัลเมืองไทยในไตรมาสแรกที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด การควักเงินก้อนโตขนคอนเทนต์ท้าชนแบบช็อตต่อช็อต รวมถึงการมีปัจจัยบวกก้อนโตอย่าง “เลือกตั้ง” ที่เชื่อว่าจะเป็นกำลังขับเคลื่อนสร้างเม็ดเงิน ให้ทะลักเข้ามาอย่างมหาศาล แต่ล่าสุดผลสำรวจเม็ดเงินโฆษณาของนีลเส็น ประเทศไทย ที่ออกมาพบว่าภาพรวมของตลาดทีวีดิจิทัล ในไตรมาส 1 /2562 มีมูลค่า 6,084 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีก่อน มีมูลค่า 6,310 ล้านบาท ลดลง 3.58% ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาส่วนใหญ่ยังคงเป็นของช่องทีวี ที่มีเรตติ้งติดอันดับ 1 ใน 10 เช่นเดิม

นายไตรลุจน์ นวะมะรัตน นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (Media Agency Association of Thailand: MAAT) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สำหรับภาพรวม ตลาดโฆษณาในไตรมาสแรกยังคงทรงตัวสื่อที่ยังครองสัดส่วนสูงอันดับ 1 ยังเป็นสื่อโทรทัศน์ ที่เป็นสื่อหลักครองกลุ่มผู้ชมตลาดแมส แม้ในช่วงที่ ผ่านมาสื่อออนไลน์จะเติบโตอยู่มากก็ตาม อย่างไรก็ตามส่วนตัวเชื่อว่าสื่อโทรทัศน์จะยังคงเป็นสื่อหลักไปอีกนานเกือบ 10 ปี

ทั้งนี้เมื่อย้อนไปช่วงต้นปีแม้จะมีช่วงการเลือกตั้งเกิดขึ้น และหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีเม็ดเงินโฆษณาต่างๆ เพิ่มขึ้น แต่ล่าสุดไม่เป็นไปตามที่คาดเนื่องจากระเบียบการเลือกตั้งไม่อนุญาตให้ใช้งบเพื่อการโฆษณาบนสื่อโทรทัศน์ได้

ไตรมาส1ทีวีดิจิทัลวืดเป้า‘เลือกตั้ง’ไร้อานิสงส์เม็ดเงินโฆษณาติดลบ

“แม้วันนี้สื่อออนไลน์จะเติบโตมากก็ตาม แต่การรับชมคอนเทนต์ของกลุ่มคนทั่วไปยังคงให้ความสำคัญกับสื่อโทรทัศน์อยู่ แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาคือการรับชมคอนเทนต์ผ่านอุปกรณ์การรับชมที่เปลี่ยนไปจากบนโทรทัศน์สู่สมาร์ทโฟน”

นอกจากนี้สิ่งที่น่าจับตามองหลังจากนี้คือการแข่งขันของธุรกิจทีวีดิจิทัลที่จะรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในแง่ของคอนเทนต์ เผื่อหวังชิงเรตติ้ง เพราะช่องทีวีที่สามารถทำคอนเทนต์ได้ดี และมีผู้ชมติดตามจำนวนมากย่อมส่งผลให้เรตติ้งดีขึ้นตามลำดับ ขณะที่ในภาพรวมของเม็ดเงินโฆษณาในปีนี้เชื่อว่าจะยังคงเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อนราว 2-3%

นายนวมินทร์ ประสพเนตร ผู้ช่วยประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.โมโน เทคโนโลยีและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด เปิดเผยว่า เรตติ้งโมโนในไตรมาสแรกยังเติบโตในทิศทางที่ดี ส่งผลให้รายได้โฆษณาในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเติบโต 15-20% ทั้งในด้านของรายได้และเรตติ้งเป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรก ขณะเดียวกันจากเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปีก่อน ล่าสุดบริษัทได้ขยับราคาโฆษณาเพิ่มขึ้นอีก 20-30% โดยในช่วงไพรม์ไทม์ขยับขึ้น 40-50% จากเดิมมีอัตรา 1-1.5 แสนบาทต่อนาที ขณะที่ใน ช่วงเวลาปกติปรับราคาขึ้น 10-15%

ไตรมาส1ทีวีดิจิทัลวืดเป้า‘เลือกตั้ง’ไร้อานิสงส์เม็ดเงินโฆษณาติดลบ

“บริษัทมองว่ารายได้โฆษณาที่เข้ามายังคงอิงกับเรตติ้งโฆษณา ซึ่งที่ผ่านมาโมโนทำเรตติ้งที่ดีมาต่อเนื่อง ทำให้สามารถเพิ่มราคาค่าโฆษณาได้ ขณะที่รายได้รวมในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 25-30% หรือกว่า 2,300 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 1,800 ล้านบาท”

ด้านการแข่งขันของทีวีดิจิทัลในปัจจุบันมองว่าเริ่มนิ่ง และรายได้ที่เข้ามายังคงเป็นช่องทีวีที่มีเรตติ้งติดอันดับ 1 ใน 5 ขณะเดียวกันโมโน ไม่ได้มุ่งเน้นแค่แพลตฟอร์มของทีวีเท่านั้น แต่ในช่วงที่ผ่านมาโมโนยังได้สร้างแอพพลิเคชัน “โมโนแม็กซ์” (Monomax) เพื่อรองรับกลุ่มผู้ชมที่ชอบรับชมคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ด้วย ทั้งนี้ในปัจจุบัน เชื่อว่าทีวีดิจิทัลเริ่มเข้าใจพฤติกรรมผู้ชมมากขึ้นรวมทั้งเริ่มสร้างแพลตฟอร์มต่างๆ ออกมารองรับผู้ชมมากขึ้นด้วย

ไตรมาส1ทีวีดิจิทัลวืดเป้า‘เลือกตั้ง’ไร้อานิสงส์เม็ดเงินโฆษณาติดลบ

อย่างไรก็ดีจะพบว่าวันนี้ทีวี ดิจิทัล กลายเป็นช่องทางสื่อสารและ ขายสินค้าหลักให้กับธุรกิจโฮมช้อปปิ้งไปแล้ว และอยู่ในสถานการณ์น่านนํ้าสีชมพู ที่ยังไม่ถือเป็นตลาด Red Ocean มากนักแต่ในเร็วๆ นี้กำลังจะก้าวสู่ตลาด น่านนํ้าสีแดงแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาเริ่มสังเกตเห็นหลายช่องเข้ามาลุยธุรกิจโฮมช้อปปิ้งมากขึ้น อาทิ อาร์เอส , ช่องวัน 25, โมโน29, สปริงนิวส์, ช่อง 3 เป็นต้น โดยช่องที่กำลังเป็นที่จับตามองของนักธุรกิจคงจะหนีไม่พ้น ช่อง อาร์เอส ที่ในปีนี้เดินหน้าเต็มที่กับธุรกิจ MPC ล่าสุดจับมือกับโรงงานผู้ผลิตเพื่อรับ OEM ให้กับแบรนด์สินค้าต่างๆ พร้อมตั้งเป้าภายใน 3 ปีมีรายได้ไม่ตํ่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ด้าน โมโน 29 ได้เปรยว่าเคยทดลองออกอากาศคอนเทนต์ ธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง ซึ่งหลังจากทดลองออกอากาศไป พบว่ามียอดราย ได้เข้ามากว่า 1 แสนบาทต่อวันในช่วงเวลาเพียง 2-4 นาทีเท่านั้น ซึ่งในอนาคตบริษัทมอง ว่ากลุ่มธุรกิจนี้อาจจะขยับรายได้ขึ้นมาเป็นอันดับ 2-3 รองจากกลุ่ม รายได้โฆษณาและโมโนจะเพิ่มช่วงคอนเทนต์โฮมช้อปปิ้งมากขึ้น

ยังต้องจับตาดูต่อไปว่าคอนเทนต์ “โฮมช้อปปิ้ง” จะเข้ามาช่วยเสริมทัพสร้างรายได้ให้กับทีวีดิจิทัลได้มากน้อยแค่ไหนและหลังจากที่คสช. ออกม.44 ต่อลมหายใจผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล จะสร้างปรากฏการณ์อะไรขึ้นในวงการทีวีดิจิทัลบ้าง 

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3463 ระหว่างวันที่ 21-24 เมษายน 2562

ไตรมาส1ทีวีดิจิทัลวืดเป้า‘เลือกตั้ง’ไร้อานิสงส์เม็ดเงินโฆษณาติดลบ