'แดรี่ควีน' เปิดแผนรุกตลาดไอศกรีม พร้อมชู 3 กลยุทธ์ "พันธมิตร-โลเกชัน-สร้างความพึงพอใจ" วางเป้าสยายปีกครบ 1,000 สาขา ใน 3-5 ปีข้างหน้า
นายนครินทร์ ธรรมหทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ดีคิว จำกัด บริษัทในเครือไมเนอร์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจร้านไอศกรีม
'แดรี่ควีน' เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมงบการทำตลาด 100 ล้านบาท เพื่อรักษาตำแหน่งผู้เล่นหลักในกลุ่มไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ควบคู่กับการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้น ผ่านการนำเสนอความหลากหลายของเมนูให้มากขึ้น โดยเน้นสร้างความแปลกใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์กลุ่มฮอตดอกและเครื่องดื่มที่มีรสชาติถูกปากคนไทย ขณะเดียวกันจะให้ความสำคัญกับการนำกลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบต่าง ๆ มาใช้เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่บริษัท
ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น โดยในปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 40 แห่ง ผ่านรูปแบบการบริการที่หลากหลาย ทั้งบริการ
"โมบาย ยูนิต" หรือ
"ฟู้ดทรัก" เข้าไปจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในงานอีเวนต์ต่าง ๆ เป็นต้น พร้อมกับการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และการจัดกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะสามารถขยายสาขาให้ครบ 1,000 สาขาทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 500 แห่ง
"ปัจจุบัน เทรนด์การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มของคนไทยในยุคดิจิตอล ที่นอกจากจะเลือกแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์ตรงตามความต้องการของตนเองแล้ว ยังมองหาผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกระแส มีการนำเสนอเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ เหมาะกับการแชร์ลงบนโซเชียลมีเดียของตนเอง ในขณะเดียวกัน ต้องเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงได้ง่าย ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย ตอบทุกความต้องการของตนเองได้ภายในที่เดียว จากเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคต่าง ๆ เหล่านี้ บริษัทมองว่าจะเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยผลักดันให้เกิดการแข่งขันในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และแคมเปญส่งเสริมการขายจากผู้เล่นในตลาดจนกลายเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการบริโภคต่อเนื่องตลอดทั้งปี"
อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ยอดขายของบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย 2 ปัจจัยหลัก คือ 1.จากไลฟ์สไตล์การกินดื่มของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป นิยมรับประทานของว่าง เช่น ขนม หรือ ของหวานกันมากขึ้น และ 2.การวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนสอดรับกับความต้องการของตลาด โดยเน้นการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ กลยุทธ์
"Strategic Partner" การจับมือกับพันธมิตรกลุ่มธุรกิจค้าปลีก และผู้ซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ กลยุทธ์
"Strategic Location" เลือกโลเกชันที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย และกลยุทธ์
"Customer Satisfaction" การสร้างความพึงพอใจในทุกความต้องการให้แก่ลูกค้า รวมถึงการนำเสนอจุดแข็งของแบรนด์ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพผลิตจากนมโค มีความหลากหลายและมีนวัตกรรม โดยเฉพาะซิกเนเจอร์
"อัพไซด์ ดาวน์" ในเมนูบลิซซาร์ดที่ผู้บริโภคมีการจดจำได้ดี โดยทั้ง 3 กลยุทธ์ดังกล่าว ได้ถูกนำมาใช้เพื่อการเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ทั้งความสะดวกในการซื้อและการเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค ส่งผลให้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แดรี่ควีนมีรายได้เติบโตต่อเนื่องตลอด 5 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 4%
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,437 ระหว่างวันที่ 20-23 มกราคม 2562