"ชไนเดอร์ อิเลคทริค" คว้าท็อป 10 ซัพพลายเชนยุโรป 4 ปีซ้อน

19 ต.ค. 2561 | 09:30 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ต.ค. 2561 | 01:23 น.
"ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" โชว์กลยุทธ์ เคล็ดไม่ลับ สู่ท็อปซัพพลายเชนในยุโรป 2018 เผย ผงาดอยู่ในท็อป 10 ถึง 4 ปีซ้อน จากการจัดอันดับท็อป 15 ในยุโรปของการ์ทเนอร์

"ชไนเดอร์ อิเล็คทริค"
ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น เผยถึงการก้าวกระโดดข้าม 2 อันดับ จนขึ้นแท่นผู้นำอันดับที่ 5 ในทำเนียบ 15 ท็อปซัพพลายเชนในทวีปยุโรป โดยได้มีการประกาศการจัดอันดับดังกล่าวในงานประชุมผู้นำด้านซัพพลายเชน ซึ่งเป็นงานประจำปีที่จัดโดย 'การ์ทเนอร์' ที่ลอนดอน


881A5EFC-8926-4742-9A15-0E7AD3A9D34F

นายมัวราด ทามัวด์ รองประธานบริหาร การดำเนินงานโกลบอลซัพพลายเชน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ชไนเดอร์ปฏิรูปสู่ดิจิทัลที่เข้มข้น โดยเฉพาะการเร่งปฏิรูปด้วยการปรับใช้ระบบโรงงานอัจฉริยะในยุโรปและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางไปสู่ซัพพลายเชน 4.0 ที่เชื่อมต่อและมอบความยั่งยืนในแบบที่ตรงต่อความต้องการเฉพาะของชไนเดอร์ ซึ่งรางวัลนี้เป็นผลมาจากความพยายามอย่างไม่หยุดหย่อนของพนักงานที่ดูแลด้านซัพพลายเชนทั่วโลก รวมถึงการมีส่วนร่วมของพนักงานในการมอบคุณภาพและความเป็นเลิศด้านซัพพลายเชนให้กับลูกค้า

การติดตั้งโซลูชัน EcoStruxure™ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ไซต์งาน แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จภายในองค์กร ในการริเริ่มปฏิรูประบบดิจิทัลให้กับลูกค้า และจะยังคงเดินหน้าติดตั้งระบบดิจิทัลในทั่วโลก เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ สร้างผลกระทบในเรื่องของประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านซัพพลายเชนของชไนเดอร์ เพื่อให้เกิดความเป็นเลิศในการดำเนินงาน พร้อมสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของกลุ่มชไนเดอร์จะยังคงเดินหน้าด้วยความรวดเร็วและสร้างนวัตกรรม เพื่อนำคุณค่ามามอบให้กับลูกค้าในโลกอุตสาหกรรมยุคดิจิทัลนี้

ตามรายงานของ 'การ์ทเนอร์' มีแนวโน้มหลักอยู่ 3 ประการ ที่บรรดาผู้นำด้านซัพพลายเชนในยุโรปต่างมีเหมือนกัน

การขยายความสามารถด้านดิจิทัลของซัพพลายเชน – โดยใช้ระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ (Robotic Automation) ใช้เซ็นเซอร์เป็นฐานในการมอนิเตอร์ เทคโนโลยีเสริมจริง (AR) และโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการมอบบริการที่ดีเลิศให้กับลูกค้า โดยมีการขยายจากโรงงาน คลังสินค้า และแบ็คออฟฟิศ นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการประสานงานได้อย่างสอดคล้องครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง (end-to-end) ตั้งแต่เรื่องของอุปสงค์ ย้อนกลับไปยังอุปทานทั้งในเรื่องการผลิตและการจัดหา

มีการประสานความร่วมมือที่ดีกับลูกค้า ทั้งการให้บริการและมอบประสบการณ์ที่ดี – มุ่งเน้นที่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในภาพรวม ด้วยความเข้าใจถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ของลูกค้า คาดการณ์ความต้องการในอนาคตได้ อีกทั้งตอบสนองต่อปัญหาได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น กระทั่งก่อนที่ปัญหานั้น ๆ จะเกิดขึ้น

มีความสามารถในการดูแล สอดส่อง และติดตามการดำเนินการได้อย่างครบวงจร ตลอดทั่วทั้งซัพพลายเชน – มีการดำเนินงานในระบบนิเวศธุรกิจ ด้วยมุมมองเชิงลึกในแบบเรียลไทม์ ไม่ใช่แค่ตอบสนองเพื่อให้งานราบรื่นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สามารถคาดการณ์ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

โดยในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการยกย่องให้อยู่ในทำเนียบท็อป 25 ซัพพลายเชนทั่วโลก ของการ์ทเนอร์ ประจำปี 2018 โดยได้รับการจัดอันดับสูงขึ้นถึง 5 อันดับ ให้อยู่ในอันดับที่ 12 จากการผลการสำรวจบริษัททั่วโลก ซึ่งได้มีการประกาศในงานประชุมผู้นำด้านซัพพลายเชนในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการจัดอันดับประจำปีของการ์ทเนอร์นั้น จะให้การยกย่องผู้นำทางด้านซัพพลายเชน โดยเน้นที่แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดขององค์กรเหล่านั้น

ตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา การดำเนินงานด้านซัพพลายเชนทั่วโลกของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประกอบไปด้วย โรงงานผลิต 27 แห่ง ใน 44 ประเทศ และมีศูนย์การกระจายสินค้า 98 แห่ง มีบุคลากรที่แข็งแกร่งกว่า 86,000 คน ที่คอยบริหารจัดการสายผลิตภัณฑ์ที่มีมากกว่า 260,000 ผลิตภัณฑ์ พร้อมดำเนินงานตามรายการสั่งซื้อมากกว่า 150,000 รายการในแต่ละวัน

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว