กนอ.เตรียมทำสัญญาจีทูจี "เอ็นอีซี"ดึงอัจฉริยะปั้นนิคมสมาร์ทปาร์ค ถอด “โอตะโมเดล” สู่มหานครผลไม้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงโตเกียว 19 มีนาคม 2561- นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ทาง กนอ. จะทำสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ หรือแบบจีทูจี กับ NEC Corporation เร่งเดินเครื่องพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์คอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง
"กนอ.ได้นำคณะผู้ดำเนินงานด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นเพื่อมาศึกษาเทคโนโลยี การคิดค้นนวัตกรรม รูปแบบในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ทันสมัย รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำไปปรับใช้กับการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวรวมถึงนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ในพื้นที่ EEC ที่กำลังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของประเทศและภูมิภาค สำหรับการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม Smart Park ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมใหม่ตามเป้าหมายของรัฐบาล "
เช่น อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมอากาศยาน และจะขับเคลื่อนด้วยยุทธศาสตร์ 9 Smart นั้น กนอ.ได้เริ่มศึกษาเทคโนโลยีและแนวทางที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Smart Security (ความปลอดภัยสาธารณะและการคมนาคมขนส่ง) จาก NEC Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับจากหลายๆอุตสาหกรรมทั่วโลก ทั้งในเรื่องของการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาธุรกิจ ทั้งในด้านเครือข่ายระบบโทรศัพท์และโครงข่ายการติดต่อสื่อสาร ระบบปฏิบัติการไอที ระบบการรักษาความปลอดภัย รวมถึงด้านระบบโลจิสติกส์
นอกจากนี้ NEC ยังมีนวัตกรรมที่ช่วยสร้างเมืองที่ชาญฉลาดทั่วโลก (Smart City) โดยเฉพาะเทคโนโลยีการรู้จักใบหน้า NeoFace ที่มีความถูกต้องในการตรวจสอบสูงสุดของโลก มีฟังก์ชั่นในการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เมื่อระบบสามารถตรวจจับได้ว่าใบหน้าของคนที่กำลังเข้ามาในพื้นที่ของกล้อง ตรงกับใบหน้าของคนในฐานข้อมูลลิสต์ของคนที่ควรเฝ้าระวัง หรือที่อยู่ในความสนใจ ซึ่งจะช่วยให้ระบบการเฝ้าระวังอาชญากรรม มีความถูกต้องและรวดเร็ว ทั้งเมื่อรวมกับความสามารถในการทำงานร่วมกับกล้องแบบพกพาได้ยิ่งทำให้การตอบสนองสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงเป็นไปอย่างทันท่วงทีอีกด้วย
นายวีรพงศ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในการจัดตั้งโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (Eastern Fruit Corridor : EFC) ภายในนิคมอุตสาหกรรม Smart Park กนอ. ยังได้ ร่วมศึกษาต้นแบบการบริหารจัดการจาก Ota Wholesale Market หรือที่รู้จักกันในชื่อตลาดกลางโอตะ ซึ่งเป็นตลาดค้าส่ง ผัก ผลไม้ และไม้ดอกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และมีระบบการประมูลที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยการเข้ามาศึกษาตัวอย่างการดำเนินงานในครั้งนี้ จะนำประโยชน์จากระบบตลาดประมูลมาประยุกต์ใช้ในการซื้อขายผลไม้ในโครงการจัดตั้งระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก
โดยเชื่อว่าจะช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออก จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการต่อรองราคา ต่อเนื่องถึงการจัดทำห้องเย็นขนาดใหญ่สำหรับกักตุนผลผลิตที่รวบรวมได้จากเกษตรกร ก่อนกระจายสินค้าไปยังตลาดต่างๆ โดยจะมีการศึกษา 4 ขั้นตอนที่สำคัญ คือ
1.การตรวจสอบสินค้าก่อนประมูล (Inspection prior to auction) ขั้นตอนที่ผู้รับช่วงค้าส่งและผู้มีสิทธิ์ซื้อ จะตรวจสอบสินค้าก่อนการประมูล เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะนำไปขายต่อในราคาเท่าไหร่
2.การเริ่มประมูล (Start of the auction) ขั้นตอนที่สินค้าทั้งหมดจะถูกนำมาประมูล โดยผู้ที่ให้ราคาที่สูงที่สุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล โดยการประมูลนั้นจะผ่านระบบคอมพิวเตอร์ และผู้มีสิทธิ์ร่วมประมูลจะประกอบด้วย ผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต และพ่อค้าคนกลาง เท่านั้น
3.การตรวจสุขอนามัยของสินค้า (Hygiene Checks) เมื่อการประมูลเสร็จสิ้นลงจะมีการตรวจเช็คคุณภาพของสินค้า โดยจะมีหน่วยงานตรวจสอบสุขอนามัย ในสถานที่ประมูล สถานที่จำหน่าย และตรวจสอบมาตรฐาน คุณภาพ ความปลอดภัยของสินค้า ซึ่งหากตรวจพบว่าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน จะถูกระงับไม่ให้จำหน่ายทันที และ
4)การกระจายสินค้า (Distribution) โดยผู้รับช่วงค้าส่ง จะนำสินค้าที่ประมูลได้ออกจำหน่ายให้ผู้ซื้อในเวลาที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ ระบบการประมูลสินค้าเกษตรในรูปแบบนี้ จะช่วยให้เกิดการรวบรวมสินค้าในปริมาณที่มากและหลากหลาย จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เกิดความต้องการซื้อสินค้าต่างๆ เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้สามารถควบคุมราคา โดยอาศัยหลักพื้นฐานของการประมูลผู้ให้ราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล เพื่อสร้างราคาที่เป็นธรรมให้กับเกษตรกร สามารถตรวจสอบคุณภาพ และมาตรฐานของผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างทั่วถึง มีข้อมูลที่สามารถตรวจเช็คได้ว่าเป็นสินค้าจากที่ไหนจำนวนเท่าใด ถูกส่งขายไปจำหน่ายต่อยังที่ใดบ้าง และราคาขายส่ง ณ วันนั้น อยู่ที่เท่าใด
สำหรับประเทศไทยถือเป็นผู้นำด้านการผลิตผลไม้เมืองร้อน ทั้งผลไม้สดและแปรรูป ส่งผลให้ไทยเป็นประเทศถือครองส่วนแบ่งตลาดผลไม้เมืองร้อนของโลกมากที่สุด สามารถคุมกลไกการค้าผลไม้เมืองร้อนได้ และ ทำให้เกิดการสร้างแบรนด์ประเทศไทยกับผลไม้ ให้ผู้บริโภครับรู้ว่าผลไม้ไทย เป็นผลไม้เมืองร้อนที่ดีที่สุด