รถไฟทางคู่ หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เปิดประตูศก.สู่แดนใต้เชื่อมมาเลเซีย

07 ธ.ค. 2560 | 13:08 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ธ.ค. 2560 | 20:08 น.
1.6 k
นอกจากรัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมจะเร่งผลักดันมอเตอร์เวย์สายหาดใหญ่-ชายแดนมาเลเซีย โดยกรมทางหลวงแล้ว หลายคนคงจะได้เคยเห็นภาพรถไฟของมาเลเซียที่ใช้ระบบไฟฟ้าจอดเทียบกับรถไฟระบบดีเซลของไทยไปเมื่อไม่นานมานี้ จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์กันบนโลกออนไลน์ถึงความทันสมัยด้านการพัฒนาระบบรางของประเทศมาเลเซียกับความล่าช้าของการพัฒนาวงการระบบรางของไทย

แม้ว่าสถานการณ์การค้าชายแดนของพื้นที่ชายแดนใต้อย่างปาดังเบซาร์จะมีความหนาแน่นด้านรถบรรทุกแต่ปรากฏว่ามาเลเซียจะมีการพัฒนาระบบรางมาเชื่อมถึงด่านชายแดนได้เร็วกว่าไทยในปัจจุบันโดยเฉพาะระบบรางคู่และใช้ระบบไฟฟ้า ดังนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) จึงเร่งศึกษาและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะได้รับการผลักดันที่ล่าช้าทั้งๆที่การค้าชายแดนในพื้นที่ดังกล่าวมีตัวเลขรายได้นำเข้า-ส่งออกที่สูงมาก ดังจะเห็นได้จากขบวนรถบรรทุกติดยาวนับสิบกิโลเมตรจึงน่าจะดึงดูดใจให้รัฐบาลเร่งผลักดันโครงการให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

tp12-3319-1c ระบบรถไฟทางคู่เส้นทางนี้ถือได้ว่าเป็นเส้นทางเปิดประตูเศรษฐกิจแดนใต้เชื่อมสัมพันธ์ไทย-มาเลเซีย ได้อย่างลงตัว ออกแบบรถโดยสารมีขนาดความ เร็ว 120 กม./ชม. ส่วนขบวนรถสินค้า ใช้ความเร็ว 90 กม./ชม. (เมื่อใช้งานจริง) ระยะทาง 48 กิโลเมตร ผ่าน 3 สถานีหลัก ได้แก่ ชุมทางหาดใหญ่ สถานีคลองแงะ และที่หยุดรถฝั่งไทยเชื่อมต่อไปยังสถานีปาดังเบซาร์ ใช้เวลาประมาณ 26 นาที โดยรถไฟทางคู่เส้นทางนี้สามารถเชื่อมต่อระบบรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสายปาดังเบซาร์-อิโปห์ ของมาเลเซียได้อีกด้วย ตามผลศึกษารองรับจำนวนผู้โดยสารได้ 3.5 ล้านคนต่อปี ขนสินค้าได้ 1.5 ล้านตันต่อปี

ทั้งนี้ในเบื้องต้นแม้กระทรวงคมนาคมจะมีแผนพัฒนาโครงการมอเตอร์เวย์เพื่อรองรับรถบรรทุก แต่โครงการรถไฟทางคู่เส้นทางนี้ยังได้รับการบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการ(แอกชันแพลน) ระยะที่ 2 แม้จะลงทุนราว 1 หมื่นล้านบาท แต่คงต้องลุ้นว่ารัฐบาลคสช.และกระทรวงคมนาคมจะสนใจเร่งผลักดันโครงการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้ในเร็วๆนี้หรือไม่??ก่อนที่งบประมาณจะบานปลายเพิ่มสูงกว่านี้อีกหลายเท่าตัวหากยังล่าช้าเช่นที่ผ่านมา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,319 วันที่ 3 - 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว