อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) ประกาศต่อยอดในปี 2560 นำเสนอโซลูชันใหม่ เน้น Location Analytics เจาะกลุ่ม Retails & Franchising โดยเฉพาะ ผลักดันการดำเนินธุรกิจของบริษัทค้าปลีกและแฟรนไชส์ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ความเชื่อมั่นในข้อมูลโลเคชั่นและข้อมูลพื้นที่ เผยเป็นสุดยอดข้อมูลประกอบการรับมือ Disruptive Trends เพิ่มศักยภาพในการตัดสินใจของผู้ประกอบการ ปฏิวัติรูปแบบการซื้อขายสินค้าและบริการ ตอบคำถามธุรกิจยุคดิจิทัลได้ตรงจุด
ธนพร ฐิติสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการเกิดขึ้นของ Disruptive Trends ในประเทศไทยว่าไม่ต่างจากประเทศอื่นในเอเชียและทั่วโลก วันนี้ Disruptive Trends ทำให้ธุรกิจไทยมีตลาดใหม่หรือเครือข่ายใหม่ที่วิ่งแรงแซงตลาดเดิมหรือร้านค้าเดิมซึ่งกำลังเสื่อมความนิยมไป ภาวะนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัท สินค้าและบริการดั้งเดิมที่เคยครองตลาดอยู่ก่อน หลายบริษัทต้องปรับตัวด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน
“เทคโนโลยีใหม่เหล่านี้ครอบคลุมเรื่องเทรนด์ Big DATA การวิเคราะห์ข้อมูลให้เกิดประโยชน์ที่สุด สำหรับเราคือการทำ location analytics เราเชื่อว่า GIS technology เป็น key technology ข้อมูลโลเคชั่นและข้อมูลพื้นที่ คือสุดยอดข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ที่สามารถตอบคำถามในธุรกิจได้ ด้วยการนำเสนอมุมมองใหม่ๆ เพื่อการเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และการแก้ปัญหาที่ตรงจุดยิ่งขึ้น”
อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) เป็นบริษัทเอกชนไทยที่ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายและให้บริการโซลูชั่นระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ หรือที่เรียกว่า GIS อย่างครบวงจร เพื่อสนับสนุนงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา บริษัทยังเป็นผู้บุกเบิกบริการจีไอเอสในประเทศไทยเป็นรายแรกและได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท อีเอสอาร์ไอ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ชั้นนำของโลกภายใต้แบรนด์สินค้า ArcGIS ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรายเดียวของประเทศอย่างเป็นทางการ
ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา บริษัทปรับนโยบายหันมารุกตลาดเอกชนหรือ Private Sector มากขึ้น โดยปัจจุบันเน้นวางเป้าหมายเปลี่ยนจากสัดส่วนลูกค้าภาครัฐและเอกชน 90/10 มาเป็น 70/30 แนวโน้มการตอบรับจากลูกค้าดีเกินคาดหมาย ในปี 2016 เติบโต 13% เป็นผลจากการวางแผนและกลยุทธ์ในการรุกตลาดกลุ่ม private sector โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยได้นำเสนอโซลูชัน asset valuation หรือการประเมินที่ดิน คาดว่าปีหน้า 2560 จะเติบโต 15% ด้วยการวางกลยุทธ์เพื่อรุกหนักภาคค้าปลีกและแฟรนไชส์ (Retails and franchising) เพราะเล็งเห็นโอกาสทางการตลาดที่สำคัญ ซึ่ง GIS Technology สามารถตอบโจทย์ได้ดี
โซลูชันใหม่ในปีนี้ เน้นบุกตลาด 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1. Healthcare 2. SLG (Smart Local Government) และ 3. Private Sector โดย 2 โซลูชันแรกเป็นการตอบสนองภาครัฐ ในขณะที่โซลูชันที่ 3 ออกแบบมาสำหรับภาคเอกชน เน้นภาคธุรกิจค้าปลีกและแฟรนไชส์เป็นหลัก