รัฐมนตรีโลกลืม “หนาว” พ.ค.ปรับใหญ่ครม.

02 มี.ค. 2567 | 07:07 น.
1.1 k

รัฐมนตรีโลกลืม “หนาว” พ.ค.ปรับใหญ่ครม. คอลัมน์ฐานโซไซตีหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับ 3,971 ระหว่างวันที่ 3-6 มีนาคม 2567 โดย...กาแฟขม

เขย่าข่าว เขย่าขวด เผลอแพ็พเดียวล่วงเข้าเดือนมีนาคมแล้ว สถานการณ์เศรษฐกิจ เหมือนจะซึมๆ ขมุกขมัว ดูจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ก็พอแลเห็น คงต้องดูบทบาทของ พิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคนใหม่ เข้าไปดำเนินการอะไร อย่างไรให้ตลาดฯของไทยกลับมาเซ็กซี่ สดใส ได้ยินแว้บๆ วันก่อนๆ บอกที่ตื้อๆ แบบนี้ เพราะไม่มีโปรดัคส์ใหม่ๆ มาให้เล่น ดูว่าจะหาอะไรใหม่ๆ มาเล่นกันอย่างไร แต่ที่แน่ๆ มาตรการคุมพวกหุ้นปั่น หุ้นซิ่ง หรือ กระทั่งโปรแกรมเทรด หรือการทำเน็กเก็ตชอร์ต (Naked Short) ประเภทขายหุ้นโดยไม่มีหุ้นในพอร์ต จะเข้มข้นขึ้นอย่างแน่นอน

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ถูกปรามาสอย่างหนักขณะนี้ว่าสูญเสียพลังอำนาจในฐานะผู้บริหารสูงสุดของประเทศไปแล้ว กำลังเร่งมืออย่างหนักในการบริหารพลิกฟื้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการสานฝันการท่องเที่ยว ให้เป็นตัวดันอย่างแท้จริงกับเศรษฐกิจ จัดเวลาเดินสายต่างประเทศถี่ยิบ เสร็จจาก ออสเตรเลีย บินต่อไป เยอรมนี ฝรั่งเศส คุยเป็นจริงเป็นจังดึงนักท่องเที่ยวยุโรปเข้ามา ภายในก็สั่งการไปแล้วให้การท่าอากาศยาน การบินไทยขยับให้เร็วขึ้นในการปรัปรุงที่ทางอำนวยความสะดวก เอาเศรษฐีเข้ามาเที่ยว เข้ามาอยู่ เข้ามาใช้เงินในประเทศไทยให้ยาวๆ

ต้องเตือนไว้ตรงนี้ ศึกนี้ใหญ่หลวงนักกับภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นทั่วประเทศ ไปไหน มาไหน ช่วงนี้ต้น มี.ค.อากาศเริ่มร้อนระอุ แน่นอนเมื่อภัยแล้งมา การบริหารจัดการนํ้าก็จะถูกพูดถึงกระหนํ่าซํ้าๆ แต่การบริหารจัดการเราไปไม่ถึงไหน การควบคุมการเพาะปลูกพืชตามลุ่มนํ้า การบริหารการเพาะปลูกพืชใช้นํ้าน้อย ชาวนาภาคกลางไม่ได้สนคำเตือน คำขอ ปลูกนาปรังไปแล้ว ภาพเหล่านี้มักเกิดขึ้นทุกปี บางปีที่นํ้าพอก็ไม่เป็นปัญหา แต่ปีไหนนํ้าน้อยจะเกิดศึกแย่งนํ้าเกิดขึ้น ก็เตือนกันไว้ให้ระมัดระวัง อันที่จริง “นายกฯเศรษฐา” เข้ามาใหม่ๆ ก็พูดเรื่องนํ้าเป็นลำดับแรกว่าต้องบริหารจัดการ ก็เข้าใจได้ว่าต้องใช้เวลา แต่ว่าก็ว่าแผนระยะยาวก็ต้องคิด ก็ต้องสร้าง ต้องตัดสินใจลงทุนหากจำเป็น 
 
ว่าก็ว่าปัญหานํ้าแล้งจะไปพันกับอีกอย่าง คือ นํ้าทะเลหนุนสูง นํ้าเค็มทะเลจะไล่ขึ้นไปพ้นปากแม่นํ้าเจ้าพระยา ความจริงแผน วิธีการจัดการ พวกนี้มีคนคิด นักวิชาการคิด คนไทยเก่งเยอะแยะ อยู่ที่การลงมือปฏิบัติมากกว่า แน่นอนรัฐต้องเป็นตัวนำ แต่พอลงไปดูหน่วยงานจัดการนํ้ามีเยอะแยะมากมาย การประสานการทำงานให้เป็นเอกภาพหามีไม่ ทุกอย่างมันจึงไปไม่ถึงไหน ...นี่หล่ะหน่วยราชการไทย การทำงานแบบไทยๆ

เลี้ยวไปเรื่อง “การเมือง” สักนิด บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ ปรับครม.ใหญ่แน่ หลังสภาฯ ปิด เดือน พ.ค. โดยเฉพาะหลายตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย แกนนำรัฐบาล ที่บางตำแหน่งก็ถือว่าได้ตอบแทนบุญคุณกันแล้ว ครม.หลายตำแหน่งควรปรับจริงๆ เนื้องานไม่เห็น เป็นรัฐมนตรีโลกลืม ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีผลงาน 
แต่ที่โดดเด่นนับนิ้วได้ หนึ่งในนั้นมีชื่อ ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินสายสร้างสัมพันธ์ทางการทูต กอบกู้ภาพลักษณ์ประเทศไทยให้ยืนหยัดขึ้นมาอีกครั้ง แถมพ่วงด้วยเรื่องเศรษฐกิจการค้า ล่าสุดไปเยือนอินเดีย ประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-อินเดีย ชักชวนมาลงทุนแลนด์บริดจ์ การท่องเที่ยว แผนอำนวยความสะดวกวีซ่า 2 ฝ่าย 

ว่าที่จริงอินเดียมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในโลก เป็นตลาดที่ทุกประเทศให้ความสนใจ ตั้งเป้าหมายส่งเสริมการค้าและการลงทุนให้ได้มูลค่าถึง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2570 และยังสนับสนุนไทยไปลงทุนในอินเดีย โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งก็ได้ไปเยี่ยมชมโครงการลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในโลกที่ บริษัท GPSC ของไทยไปร่วมลงทุน...