วิชาโลกวิทู สร้างทรัพย์เศรษฐี 2

21 ต.ค. 2566 | 07:40 น.

วิชาโลกวิทู สร้างทรัพย์เศรษฐี 2 คอลัมน์ Cat out of the box โดย พีรภัทร์ เกียรติภิญโญ

(ต่อ)
 
หลวงพ่อมีพื้นฐาน โลกธาตุ หลายคราวท่านสังเกตการวางตัวของแนวสันเขา การเกิดขึ้นของแพหญ้าในเดือนแล้ง ความเปนปูนเปนด่างของพื้นที่ ท่านก็สามารถ “บอก” อะไรต่างๆได้
 
แต่โดยความเชื่อส่วนตัวแล้ว ขอบังอาจฟันธงลงไปเลยว่า จากการศึกษาชีวิตจากข้อเขียนของหลวงพ่อแล้วถอดรหัส ท่าน ‘ดู’ ให้มากกว่า ‘ดู’ โดยมีวิชาโลกะวิทู_ฮวงจุ้ยมอญเปนฐานเปนพื้น วิธี ‘ดู’ ของหลวงพ่อ อาจพอจะสรุปเรียบเรียงตามเบาะแสได้เปนขั้นๆเล่าสู่ท่านฟังได้ดังนี้
 
1. ท่านจะทำสมาธิก่อน จนเมื่อจิตว่างดีแล้วท่านจะ
 
2. ตั้งอธิษฐานขอถาม ขอทราบว่า... เรื่องนี้อย่างนี้ .... ตรงนี้เปนอย่างไรๆ
 
3. พิสูจน์คำตอบที่ได้รับระหว่างเข้าสมาธิ ด้วยการลงมือทำ

วิธีการนี้หลวงพ่อใช้ในคราวไปตามหาพระตะเคียนลอยน้ำที่มะละแหม่ง ท่านกระทำ ขั้นตอนหมายเลข 1.ตอนหัวค่ำ และขั้นที่ 2. ท่านได้รับคำตอบจาก‘ที่ไหน’ สักที่ในเวลาเมื่อเลยสองยามไปแล้ว และท่านได้พิสูจน์คำตอบนั้นในทันที ด้วยการเดินออกตามหาตะเคียนตามคำตอบนั้นในเวลาราวตีสอง
 
จะเห็นได้ว่า หลายครั้งที่มีการพิสูจน์สายแร่ในทันทีหลังจากที่ท่านออกจากสมาธิข้อ 2. แล้ว ท่านให้พิสูจน์ทันทีด้วยการฉีดแร่บ้าง ระเบิดหินบ้าง ทุกคราวไปก่อนนี้ครอบครัวได้สัมปทานภาคตะวันตกทำการบุกเบิกเหมืองแร่อย่างที่เรียกให้เข้าอารมณ์ว่าบุกเบิกกันอย่างภาพยนต์ชื่อ how the west was won  ขุดหากันขึ้นมาขายส่งทอดตลาดอย่างเปนล่ำเปนสัน สำคัญตรงที่ว่าในเวลาไกลปืนเที่ยงบ้านเมืองมีขื่อแปอยู่แต่ในเมืองหลวงและตัวจังหวัด พื้นที่ห่างไกลชายเหมืองที่ทรัพย์ในดินหยิบคว้าแปรเปนเงินทองได้เพียงมือฉวยกลับระอุด้วยควันปืน และศาลเตี้ย
 
สัมปทานเปนแผ่นกระดาษที่ไร้ความหมายในดินแดนแหล่งนั้น พละกำลัง เดชอำนาจ และเหลี่ยมเล่ห์ถึงเลือดถึงเนื้อต่างหากจึงมีค่าและมีความหมาย

สำนักงานในกรุงเทพจัดการสนธิกำลังตามสูตร นายทุน-นายทัพ-เทคนิฆ จัดสรรหุ้นลมแก่ประดานายธนาคาร นายพลทหารบก อธิบดีกรมสำคัญ เข้าเปน บริคณฑ์สนธิ 
 
วันเปิดเหมืองก็ปิดโรงแรมปิดสายการบินจัดการเช่าเหมาลำบรรทุกแขกผู้มีเกียรติทุกสารทิศมาร่วมยินดีทำข่าวประชาสัมพันธ์ เฉลิมฉลอง ตัดแพรคลุมป้าย และเดินเครื่องจักร
 
อนิจจา สายวิชาทรัพยากรธรณีที่ว่าแน่ๆ สายแร่ทำไมมันหดสั้นนัก! เดินเครื่องต่อไปนายแบงค์คงผูกคอตาย!! จำจะต้องพึ่งพาสายตาทิพย์ของหลวงพ่อชี้แหล่งแร่ใต้พิภพด้วยประการ ฉะนี้


 
อนึ่ง ยังมีข้อน่าสังเกตบางประการถึงวิธีการ ‘ดู’ ทรัพย์ในดินของหลวงพ่อ ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แต่เพียงสินแร่เท่านั้นหรอก น้ำพุร้อนก็ยังมีเศรษฐีใจบุญมาอาราธนาพาท่านไปสำรวจธรณีวิทยาเสียทั่วภาคเหนือ ถามว่าเอาไปทำไรน้ำพุ? 
 
ประดาผู้มั่งมีก็อยากจะใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพไปปั่นไฟ ท่านเจ้าคุณพระอุดมสังวรเถรในเวลานั้นเมตตาอธิบายว่า ความร้อนอ่อนไป ไม่เพียงพอ หากจะพอจับเค้าจากคำบอกเล่าความเก่งกาจสามารถของหลวงพ่อได้ก็จะพบว่า อารมณ์ที่ท่านจับภาวนาลงไปด้วยคาถาประจำตัวนั้นเปนกรรมฐาน 32ซึ่งพิจารณาลงทุกชั่วขณะจิตตั้งเค้ามาแต่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ภาษาพระฝรั่งย่อมว่า from earth to earth-ดินสู่ดินณ จุดนี้จึงตอบตัวเองได้ว่า co relation ของท่านกับทรัพย์ในดินนั้นย่อมเปนการสะดวกที่ท่านจะจับอารมณ์เข้าพิจารณา และจากข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ทั้งหลาย ย่อมแสดงในเห็นว่าในประดากสิณสี่กองนั้น อย่างน้อยท่านจะต้องสำเร็จฝ่ายดินเปนพื้นฐานอย่างแม่นมั่น
 
ป.ล. หากประสงค์อยากจะพบปะรู้จักกับประดาท้าวพระยามหาเศรษฐีผู้ตีใจบุญเหล่านี้ว่าเปนใคร ก็ขอให้ดูงานทำศพของท่านว่าใครเปนผู้ แบกแคร่ หามร่างของท่านยามมรณสังขารมาเยือนดูเถิด ที่เคยเร้นกายอยู่ก็รู้เฉลยเอาในนาทีนี้@ เหตุใดหลวงพ่อจึง connect กับ server ธรรมชาติซึ่งเปนเหล่งรวมข้อมูลมหาศาลไร้กาลเวลาได้เร็ว?
 
ตรงนี้ก็ขอบังอาจฟันธงต่อไปว่า ด้วยอำนาจสัจจะอธิษฐานแรงกล้าของตัวท่านเองที่ปฏิบัติห่อหุ้มตนมาโดยตลอดอาจเปนเหตุให้การไหลFlow ของชุดข้อมูลลึกๆที่มี ‘ใคร’ หรือ’อะไร บางอย่างกักเก็บไว้อยู่ตามระดับการเข้าถึงชั้นความลับ ได้แลเห็นและมั่นใจว่าบุคคลผู้นี้มีสัจจะมาก ถ้าว่า ‘ดีล’ อะไรกันแล้วไม่ผิดคำจึง ‘ปล่อย’ ชุดข้อมูลออกให้ท่านผ่านชั้นความลับชนิดว่า stamp ตรา “ผ่าน” เรื่องให้อย่างรวดเร็ว


 
นอกจากนี้ความสามารถในการเข้า_ ออกฌาณต่างๆ ย่อมเปนเครื่อง encrypt และ decrypt ได้ในกลบทอัตโนมัติ ข้อยืนยันสัจจะอธิษฐานมั่นคงของหลวงพ่อนั้น เช่นว่า
 
-1- การธุดงควัตรผ่านเขตอันตรายดงโจร ดงสงคราม ท่านตอบแก่ผู้ทัดทานว่า “อันตรายยังไม่เกิด แต่อธิษฐานเกิดแล้วอาตมาจำต้องไปเพราะจะไม่เสียอธิษฐานอันตรายใดจะเกิดแก่อาตมาก็ขอให้เปนไปตามบุญกรรมของอาตมาเถิด”
 
-2- การรับสัจจะโจร ในยุคกองกำลังติดอาวุธหลายฝ่ายระส่ำระสายออกเพ่นพ่านตามตะเข็บชายแดน ท่านถูกกองกำลังกะเหรี่ยงจับตัวไว้ ขณะที่ออกธุดงค์จากมะละแหม่งมุ่งหน้าไปเขาพระวิหาร บริเวณซอกเขาตะไลอ่อง ชายแดนกาญจนบุรี ด้วยกองโจรกะเหรี่ยงสำคัญว่าท่านเปนสายลับพม่าปลอมตัวมา จับท่านมัดมือไพล่หลังลากท่านไปยังน้ำตก จะนำท่านไปยิงทิ้ง โดยบังคับให้ท่านปืนขึ้นนั่งร้านไม้ไผ่ข้างน้ำตก กะว่าพอท่านถูกกระสุนแล้วศพจะหงายหลังตกลงน้ำไปเอง ไม่ต้องยุ่งยากจัดการ เพียงแต่รอเวลาให้สงัดเท่านั้นโจรจึงจะลงมือว่าแล้วก็สั่งให้ท่านนั่งยองๆรอความตาย ท่านรับคำแล้วโจรก็กลับไป ท่านได้เริ่มภาวนาปลงสังขาร ว่าถึงคราวตายในพรรษาที่ 17 นี้คงไม่เสียดายชีวิตเพราะอธิษฐานออกเดินทางไว้มั่นคงแล้ว ชั่วแต่ว่าการสละชีพให้โจรนี้จะเปนกุศลสักแค่ไหนท่านยังลังเลสงสัยอยู่
 
หลังสวดภาวนาได้ชั่วยามหนึ่ง จู่ๆเถาวัลย์มัดมือท่านก็คลายลงจนท่านสะบัดออกได้สำเร็จพ้นพันธนาการแล้วใจท่านก็คิดหนี แต่ท่านตอบตัวท่านได้เองว่า
 
“เรารับคำเขาไปแล้วจะอยู่ที่นี่ ถ้าหนีก็เท่ากับขโมยตัวของตัวเองไป นอกจากผิดศีลแล้วยังเสียสัจจะ เสียสัจจะแล้วชีวิตข้างที่เหลือไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว”
 
ท่านจึงยังรอความตายอยู่ตรงนั้นด้วยใจแผ้วการณ์จะเปนอย่างไรในสถานการณ์ลมหายใจแห่งมรณะนี้จะนำไปเฉลยในภาคอื่นต่อไป

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 หน้า 18 ฉบับที่ 3,933 วันที่ 22 - 25 ตุลาคม พ.ศ. 2566