SHR...ความหวังได้ลงดอย

03 มิ.ย. 2565 | 05:25 น.
1.9 k

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ By…เจ๊เมาธ์

*** การปลดล็อคให้ “กัญชา” หลุดออกจากการเป็นยาเสพติดในเดือนมิถุนายน ทำให้หุ้นหลายตัววิ่งแรงขึ้นมา โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้อย่าง TIPCO และ MALEE ปรับราคาขึ้นมาอย่างโดดเด่น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วน้ำผลไม้ถือว่า เป็นผลิตภัณฑ์ปลายน้ำที่ได้รับประโยชน์จากกัญชาน้อยมาก ที่ผ่านมาพบว่าเครื่องดื่มผสมสารสกัดจากกัญชง-กัญชา ไม่ว่าจะเป็นของยี่ห้อใด ต่างก็ไม่ได้สร้างยอดขายที่เป็นสาระแต่อย่างใดเลย ดังนั้น เจ๊เมาธ์จึงมองว่า การขยับราคาหุ้นของทั้ง TIPCO และ MALEE ต่างก็เป็นไปแค่ลูกเล่นทางการตลาด หรือ อย่างเก่ง ก็เป็นได้แค่การจุดพลุเพื่อออกของเท่านั้นเอง
 

*** บอกตรงๆ ว่า เจ๊เมาธ์ยังคงไม่เข้าใจกับมาตรฐานในเรื่องการติดแคชฯ เช่นกรณีล่าสุดที่หุ้นตัวแรงอย่าง MOONG ได้ลากเอานักลงทุนรายย่อยขึ้นไปทิ้งบนดอย โดยอาศัยแค่ประเด็นการแตกพาร์ เพื่อสร้างสภาพคล่องจาก 1 เป็น 2 ก็ทำให้ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นไปเกือบ 100% ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ เพราะนอกจากการแตกพาร์แล้ว ก็ไม่พบว่ามีปัจจัยพิเศษอื่นใดที่พอจะผลักดันราคาหุ้นตัวนี้ขึ้นไปได้เลย 
 

สิ่งที่ทำให้เจ๊เมาธ์แปลกใจมากคือ ทั้งที่เป็นการลากราคาโดยที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ แต่หุ้นตัวนี้กลับไม่ถูกจับจ้อง หรือถูกจับติดแคชฯ ขณะที่พบว่าหุ้นที่ถูกจับติดแคชฯ ก่อนหน้านี้หลายตัว มีพื้นฐานรองรับที่ดีกว่าหุ้นตัวนี้ตั้งเยอะ จะต่างกันอยู่บ้างก็เพียงแต่หุ้นเหล่านั้นอาจจะติดแคชฯ หลังจากที่เป็นข่าวดังจนเป็นที่สนใจของนักลงทุนขึ้นมาแล้วเท่านั้นเอง  
 

*** ถึงแม้ผลการดำเนินงานจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่ดูเหมือนว่า SHR บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) กำลังจะพานักลงทุนลงจากดอย ซึ่งติดดอยที่ราคา IPO = 5.20 บาท มานานเกือบ 3 ปี...ความหวังที่ว่าในปี 65 ผลการดำเนินงานอาจจะกลับเป็นบวกขึ้นมาได้แล้ว   อย่างไรก็ตาม สำหรับเจ๊เมาธ์ เรื่องผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะดีขึ้นที่ว่านี้ ยังจำเป็นที่จะต้องรอให้มีตัวเลขที่สัมผัสได้ซะก่อนน่าจะดีกว่า  
 

อย่าลืมว่าการที่ SHR สามารถเข้าตลาดฯ เมื่อปี 62 เป็นการเข้ามาโดย “เกณฑ์มาร์เก็ตแคป” ทั้งที่มีผลการดำเนินงานขาดทุนโดยทั้งผู้บริหารและที่ปรึกษาทางการเงินในตอนนั้น ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บริษัทฯ จะมีกำไรแน่นอน แต่จนแล้วจนรอดนี่ก็ผ่านมาแล้ว 3 ปี ก็ยังไม่เห็นว่า SHR จะกำไรออกมาแต่อย่างใด ดังนั้น ถ้าจะเล่นเก็งกำไรก็อาจจะต้องดูทางลมให้ดีนะคะ แต่ถ้าจะถือยาวก็อาจจะต้องถือยาวจนถึงยาวมากเหมือนเดิมเจ้าค่ะ
 

*** จังหวะนี้หุ้นที่ทำธุรกิจโรงไฟฟ้าเป็นหลักอย่าง GPSC BGRIM และ RATCH อาจจะจะยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม เนื่องจากต้นทุนพลังงานอย่างน้ำมันเชื้อเพลิง ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติยังอยู่ในช่วงที่เป็นขาขึ้น แต่ในส่วนของหุ้นโรงไฟฟ้าที่มีการกระจายแหล่งที่มาของรายได้ออกไปอย่าง GULF กับ EA ดูจะแตกต่างออกไป ในส่วนของ GULF ที่ถึงแม้จะมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากการขายไฟฟ้าเป็นหลัก แต่ก็ยังมีรายได้ที่มาจากการเข้าไปลงทุนอื่น ไม่ว่าจะในส่วนของ INTUCH หรือการเข้าไปลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน และอื่นๆ อีกหลายอย่างเข้ามาเสริม 
 

*** ขณะเดียวกันฟากของ EA เองนอกจากจะมีรายได้หลักจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ก็ยังเพิ่มเติมในส่วนของระบบ ECO Systems ของระบบไฟฟ้าซึ่งมีทั้งโรงไฟฟ้า โรงงานแบตเตอรี่ เรือไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้ารวมถึงสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นกระแสธุรกิจในอนาคตเข้ามาเป็นจุดขาย ดังนั้น จึงอย่าได้แปลกใจที่ทั้ง GULF และ EA เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่แทบจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,789 วันที่ 5 - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2565