thansettakij
ดาวอังคารคือเป้าหมาย NASA ในมือมหาเศรษฐี จาเร็ด ไอแซกแมน

ดาวอังคารคือเป้าหมาย NASA ในมือมหาเศรษฐี จาเร็ด ไอแซกแมน

13 เม.ย. 2568 | 06:00 น.

หลังได้รับการเสนอชื่อจาก โดนัลด์ ทรัมป์ "จาเร็ด ไอแซกแมน" มหาเศรษฐีจากสายธุรกิจอวกาศ ท่ามกลางคำถามถึงงบประมาณ ความเป็นกลางทางวิทยาศาสตร์ อนาคตของโครงการ Artemis

จาเร็ด ไอแซกแมน มหาเศรษฐี ซีอีโอ และผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การ NASA คนต่อไป เผชิญกับการซักถามจากสมาชิกคณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านพาณิชย์ วิทยาศาสตร์ และการขนส่ง เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2025 ระหว่างการไต่สวนเพื่อยืนยันการแต่งตั้งเขาเข้าดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยเขาส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะมุ่งเน้นไปที่การสำรวจดาวอังคารเป็นหลัก

ปัจจุบัน NASA ยังไม่มีแผนที่ชัดเจนในการส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคาร แม้ว่าหน่วยงานจะเคยกล่าวเป็นประจำว่า NASA ถือว่าการสำรวจดวงจันทร์เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของภารกิจไปยังดาวอังคารก็ตาม

หากวุฒิสภายืนยันการแต่งตั้ง ไอแซกแมนจะกลายเป็นมหาเศรษฐีคนแรก แต่ไม่ใช่นักบินอวกาศคนแรก ที่ได้เป็นหัวหน้า NASA ยิ่งไปกว่านั้น เขาจะเป็นผู้อำนวยการ NASA คนแรกที่มีความเชื่อมโยงอย่างมีนัยสำคัญกับอุตสาหกรรมอวกาศเชิงพาณิชย์

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายอวกาศ ดร. เวนดี้ เอ็น. วิทแมน ค็อบบ์ เป็นศาสตราจารย์ด้านกลยุทธ์และการศึกษาความปลอดภัยที่โรงเรียนการศึกษาทางอากาศและอวกาศขั้นสูง (SAASS) ระบุ ว่าผู้นำของ NASA มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะตำแหน่งนี้สามารถกำหนดทิศทางของภารกิจที่หน่วยงานจะดำเนินการ งานวิทยาศาสตร์ที่เลือกทำ และท้ายที่สุด ผลลัพธ์ของการสำรวจอวกาศของสหรัฐฯ ทั้งหมด

ประวัติ จาเร็ด ไอแซกแมน

เมื่ออายุ 16 ปี ไอแซกแมนลาออกจากโรงเรียนมัธยมและเริ่มต้นธุรกิจรับชำระเงินในห้องใต้ดินของบ้าน บริษัทนี้ประสบความสำเร็จและต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อ Shift4 ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1999 คาดว่าเขามีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ

แม้ประสบความสำเร็จทางธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย ไอแซกแมนก็ยังมีความรักในด้านการบิน ในปี 2009 เขาสร้างสถิติบินรอบโลกด้วยเครื่องบินเจ็ตขนาดเล็ก ทำลายสถิติเก่าไปได้มากกว่า 20 ชั่วโมง

ขณะดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Shift4 ได้ก่อตั้งบริษัทอีกแห่งชื่อ Draken International ซึ่งในที่สุดกลายเป็นผู้ครอบครองฝูงบินเครื่องบินขับไล่ส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีบทบาทในการฝึกนักบินกองทัพอากาศสหรัฐฯ

ปี 2019 ไอแซกแมนขายหุ้นใน Draken International และในปี 2020 นำบริษัท Shift4 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐี

เขายังขยายธุรกิจไปสู่วงการอวกาศ โดยเริ่มทำงานร่วมกับ SpaceX ตั้งแต่ปี 2021 ได้ซื้อเที่ยวบินพร้อมนักบินในจรวด Falcon 9 ซึ่งภารกิจนี้ในภายหลังมีชื่อว่า Inspiration4 ซึ่งเป็นภารกิจนักบินอวกาศเอกชนครั้งแรกของ SpaceX โดยมีผู้ร่วมภารกิจ 4 คนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านอวกาศอย่างเป็นทางการมาก่อน

หลังจากความสำเร็จของ Inspiration4 ไอแซกแมนได้ร่วมมือกับ SpaceX เพื่อพัฒนาโครงการ Polaris Program ซึ่งเป็นชุดภารกิจ 3 ครั้งเพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านการบินอวกาศของ SpaceX สำหรับมนุษย์ ในปี 2024 ภารกิจแรกในโครงการนี้ที่ชื่อ Polaris Dawn ได้ออกเดินทาง

Polaris Dawn ได้เพิ่มผลงานสำคัญให้กับประวัติของไอแซกแมน เขาและเพื่อนร่วมภารกิจ ซาราห์ กิลลิส ทำการเดินในอวกาศครั้งแรกของเอกชน ตัวแคปซูล SpaceX Dragon ของ Polaris Dawn ยังเดินทางออกจากโลกไกลกว่า 850 ไมล์ (1,367 กิโลเมตร) ซึ่งไกลที่สุดที่มนุษย์เคยไปตั้งแต่ยุคภารกิจ Apollo

ภารกิจต่อไปของ NASA

เดือนธันวาคม 2024 รัฐบาลทรัมป์ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งประกาศเจตนารมณ์ที่จะเสนอชื่อไอแซกแมนให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ NASA

หากได้รับการแต่งตั้ง ไอแซกแมนจะต้องกำกับดูแลกิจกรรมทั้งหมดของ NASA ในช่วงเวลาวิกฤตในประวัติศาสตร์ของหน่วยงาน โดยเฉพาะโครงการ Artemis ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2017 และมีแผนภารกิจหลายอย่างในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รวมถึงภารกิจ Artemis II ในปี 2026 ที่จะส่งนักบินอวกาศ 4 คนโคจรรอบดวงจันทร์ และ Artemis III ในปี 2027 ที่มีเป้าหมายจะลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์

หากไอแซกแมนได้รับการยืนยัน การดำรงตำแหน่งของเขาจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีคำถามสำคัญมากมายต่อโครงการ Artemis รวมถึงขอบเขตที่ NASA ควรพึ่งพาบริษัทอวกาศเอกชนอย่าง SpaceX ขณะเดียวกัน หน่วยงานยังอาจเผชิญกับการลดงบประมาณ

บางฝ่ายในแวดวงอวกาศเสนอให้ยกเลิกโครงการ Artemis แล้วหันไปเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางไปดาวอังคารแทน ในกลุ่มนี้รวมถึงผู้ก่อตั้ง SpaceX คือ อีลอน มัสก์

คนอื่นเสนอให้ยกเลิกโครงการ Space Launch System (SLS) ซึ่งเป็นจรวดขนาดยักษ์ที่ใช้ใน Artemis และหันไปใช้ระบบของเอกชน เช่น Starship ของ SpaceX หรือ New Glenn ของ Blue Origin แทน

ไอแซกแมนยังต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาว่าใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมอวกาศเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะกับ SpaceX เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน เมื่อพิจารณาจากบทบาทของมัสก์ในรัฐบาลทรัมป์ และแนวโน้มในการลดงบประมาณของรัฐบาล นักวิจารณ์บางคนกังวลว่ามัสก์อาจมีอิทธิพลต่อ NASA มากยิ่งขึ้นหากไอแซกแมนได้รับการยืนยัน

ตั้งแต่ได้รับการเสนอชื่อ ไอแซกแมน ยุติความร่วมมือกับ SpaceX ในโครงการ Polaris แล้ว และยังได้แสดงความสนับสนุนต่อบริษัทอวกาศเอกชนอื่น ๆ อีกหลายแห่งแต่ความสำเร็จของแผนใด ๆ ของ NASA จะขึ้นอยู่กับงบประมาณและทรัพยากรที่เพียงพอในการดำเนินการ

แม้ NASA จะยังไม่ถูกตัดงบประมาณอย่างหนักจนถึงขณะนี้ แต่เช่นเดียวกับหน่วยงานรัฐบาลอื่น ๆ NASA กำลังวางแผนเตรียมรับมือกับการลดงบและการเลิกจ้างจำนวนมาก ซึ่งเป็นแนวทางคล้ายกับที่กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ ได้ดำเนินการไปแล้ว

ไอแซกแมนกล่าวว่าเขาเชื่อว่า NASA มีทรัพยากรเพียงพอสำหรับทั้งสองเป้าหมายในเวลาเดียวกัน แต่ความไม่แน่นอนของงบประมาณอาจทำให้สิ่งนั้นเป็นไปไม่ได้

ความสัมพันธ์ของของ มัสก์-ไอแซกแมน

เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับมัสก์ ไอแซกแมนกล่าวว่าเขาไม่ได้พูดคุยกับมัสก์ตั้งแต่ได้รับการเสนอชื่อในเดือนพฤศจิกายน และความสัมพันธ์กับ SpaceX จะไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจของเขา นอกจากนี้ ยังให้คำมั่นว่าจะดำเนินภารกิจด้านวิทยาศาสตร์อวกาศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “การส่งกล้องโทรทรรศน์ หุ่นยนต์สำรวจ และยานสำรวจเพิ่มขึ้นอีก”

แต่เนื่องจาก NASA กำลังเตรียมรับการตัดงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์อย่างรุนแรง จึงมีการคาดการณ์ว่าอาจต้องยุติโครงการวิทยาศาสตร์บางอย่าง เช่น กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล อย่างถาวร

อนาคตของไอแซกแมน

ไอแซกแมนได้รับการสนับสนุนจากชุมชนอวกาศอย่างกว้างขวาง นักบินอวกาศเกือบ 30 คนร่วมลงนามในจดหมายสนับสนุนการเสนอชื่อของเขา อดีตผู้อำนวยการ NASA รวมถึงสมาคมอุตสาหกรรมรายใหญ่หลายแห่งก็แสดงความประสงค์ให้เขาได้รับการยืนยันด้วย

เขายังได้รับการสนับสนุนจาก วุฒิสมาชิกเท็ด ครูซ ประธานคณะกรรมาธิการ ซึ่งเน้นย้ำต่อสาธารณะถึงมุมมองของเขาว่า NASA จะต้องมุ่งเน้นไปที่การสำรวจดวงจันทร์ต่อไป

ภารกิจไปดวงจันทร์จะต้องเกิดขึ้นภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่เช่นนั้นจีนจะเอาชนะเราที่นั่นและสร้างฐานทัพดวงจันทร์แห่งแรก

 

 

หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไอแซกแมนจะได้รับการยืนยันจากวุฒิสภาให้เป็นผู้อำนวยการ NASA ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า คณะกรรมาธิการด้านพาณิชย์ วิทยาศาสตร์ และการขนส่ง จะกลับมาพิจารณาหลังจากช่วงหยุดพักสองสัปดาห์ในปลายเดือนเมษายน และการลงมติเต็มของวุฒิสภาจะมีขึ้นภายหลังจากนั้น

อ้างอิงข้อมูล 

  • fastcompany
  • CNN