"DeepSeek" AI น้องใหม่จากจีนทุบหุ้นเทค "Nvidia" วูบ 5.9 แสนล้านดอลลาร์

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ตลาดหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง หลังสตาร์ทอัพจีน DeepSeek เปิดตัวแอปพลิเคชัน AI ต้นทุนต่ำที่แซงหน้า ChatGPT บนแอปสโตร์ ส่งผลให้หุ้น Nvidia ร่วงลง 17% สูญเสียมูลค่าตลาดมากถึง 592,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการสูญเสียมูลค่าตลาดในวันเดียวที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

DeepSeek สร้างความตื่นตระหนกให้วงการเทคโนโลยีด้วยการพัฒนา AI โมเดลที่ใช้ชิป H800 ของ Nvidia ในการฝึกฝน โดยใช้งบประมาณเพียง 6 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รุ่นล่าสุด DeepSeek-R1 มีต้นทุนการใช้งานถูกกว่าโมเดล o1 ของ OpenAI ถึง 20-50 เท่า Marc Andreessen นักลงทุนเทคโนโลยีชื่อดังถึงกับเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าเป็น "ช่วงเวลาสปุตนิก" ของวงการ AI

ผลกระทบลุกลามไปทั่วตลาดหุ้นเทคโนโลยี ทำให้ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.1% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ฟิลาเดลเฟียดิ่งลง 9.2% หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายสำคัญปรับตัวลดลงตาม ได้แก่ Broadcom (-17.4%), Microsoft (-2.1%), Alphabet (-4.2%), SoftBank Group (-8.3%) และ ASML (-7%)

ความกังวลยังส่งผลกระทบถึงหุ้นกลุ่มพลังงานที่เคยได้ประโยชน์จากความต้องการไฟฟ้าสำหรับศูนย์ข้อมูล AI โดย Vistra Corp. ร่วงลงมากที่สุดในดัชนี S&P 500 ที่ 28.3% ตามด้วย Constellation Energy (-20.8%) และ NRG Energy (-13.2%)

เหตุการณ์นี้ยังส่งผลกระทบต่อมูลค่าทรัพย์สินของผู้บริหารเทคโนโลยีรายใหญ่ โดย Larry Ellison ซีอีโอ Oracle สูญเสียมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 27.6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia สูญเสีย 20.8 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม Daniel Morgan ผู้จัดการกองทุนอาวุโสที่ Synovus Trust Company มองว่าตลาดตอบสนองเกินควร เนื่องจาก DeepSeek เน้นการใช้งานบนอุปกรณ์พกพา ไม่ใช่ศูนย์ข้อมูลซึ่งเป็นตลาดหลักของ Nvidia และมองว่านี่คือโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นเทคคุณภาพดีในราคาที่ถูกลง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศแผนการลงทุนภาคเอกชนมูลค่า 500 พันล้านดอลลาร์ในโครงการ Stargate ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง OpenAI, Oracle และ SoftBank เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI

หุ้น Nvidia ซึ่งเพิ่มขึ้น 239% ในปี 2023 และ 171% ในปี 2024 ปิดตลาดที่ 118.42 ดอลลาร์ ลดลง 24.20 ดอลลาร์ ทำให้ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 2025 ติดลบ 11.8%