ChatGPT มีหนาว! DeepSeek สตาร์ทอัพจีนมาแรงแซงหมด ครองแชมป์ตลาด AI

สัปดาห์นี้เกิดปรากฏการณ์ที่ทำให้วงการเทคโนโลยีโลกต้องจับตามอง เมื่อ DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จากประเทศจีนได้แซงหน้า ChatGPT ขึ้นเป็นแอปพลิเคชันฟรียอดนิยมอันดับ 1 บน Apple Store ในสหรัฐอเมริกา การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความสามารถของจีนในการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งจากฝั่งตะวันตกได้อย่างเต็มตัว

DeepSeek เปิดตัว AI Assistant เมื่อวันที่ 10 มกราคม โดยใช้โมเดลที่เรียกว่า "DeepSeek-V3" ซึ่งนักวิจัยของบริษัทอ้างว่าเป็นโมเดล AI โอเพนซอร์ซที่สามารถแข่งขันกับโมเดลที่ล้ำสมัยจากบริษัทชั้นนำระดับโลกได้

ความสำเร็จของ DeepSeek ไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัท แต่ยังส่งผลกระทบต่อตลาดการลงทุน AI ทั่วโลก ดัชนี Nasdaq 100 ร่วงลงถึง 2.6% ในขณะที่หุ้นของ Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำด้านชิป AI ลดลงกว่า 11% นักวิเคราะห์คาดว่าความสำเร็จของ DeepSeek อาจเปลี่ยนวิธีการลงทุนในเทคโนโลยี AI โดยเน้นต้นทุนที่ต่ำและความสามารถในการเข้าถึง

หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจคือ DeepSeek ใช้ชิป Nvidia H800 ในการฝึกฝนโมเดล ซึ่งชิปดังกล่าวไม่ได้มีความสามารถสูงสุดในตลาดและถูกออกแบบมาเพื่อเลี่ยงข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ DeepSeek อ้างว่าใช้เงินไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์สำหรับการพัฒนา ซึ่งถือว่าต่ำกว่าการลงทุนของบริษัทในสหรัฐฯ อย่างมาก

DeepSeek ถูกเปรียบเทียบกับ "Sputnik Moment" หรือเหตุการณ์ที่โซเวียตส่งดาวเทียม Sputnik ขึ้นสู่อวกาศในปี 1957 ซึ่งพลิกมุมมองของโลกในด้านเทคโนโลยี นักวิเคราะห์เชื่อว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงมุมมองที่ว่าเทคโนโลยีล้ำสมัยต้องมาจากฝั่งตะวันตก

ทั้งนี้ DeepSeek ทำให้นักลงทุนหลายคนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้จ่ายมหาศาลในอุตสาหกรรม AI โดยเฉพาะการพัฒนาระบบที่ใช้ทรัพยากรและพลังงานมาก ซึ่งอาจไม่จำเป็นอีกต่อไป

แม้ DeepSeek จะยังเป็นบริษัทเล็กในเมืองหางโจว แต่ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นว่าจีนมีศักยภาพในการพัฒนา AI ที่สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ การเปลี่ยนแปลงนี้จะนำมาซึ่งโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ ทั้งในแง่ของการพัฒนาเทคโนโลยีและการแข่งขันในตลาดโลก

อย่างไรก็ตาม การเดินเกมของ DeepSeek อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในวงการ AI ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภูมิภาคหรืออำนาจเดิม แต่เป็นโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับทุกฝ่ายในการสร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลก