อิสราเอลหวังทำลายฮิชบอลเลาะห์ แต่เสี่ยงเจอศัตรูที่แข็งแกร่ง
การโจมตีของอิสราเอลในเลบานอนเผยให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ที่มุ่งทำลายฮิชบอลเลาะห์ แต่ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงที่ไม่อาจมองข้าม เพราะศักยภาพที่แท้จริงของฮิชบอลเลาะห์ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อดุลยภาพในภูมิภาค
ตะวันออกกลางเข้าใกล้สงครามเต็มรูปแบบหรือไม่ หลังจากการโจมตีกลุ่ม ฮิซบอลเลาะห์ ที่เริ่มต้นด้วยการระเบิดวิทยุติดตามตัวและอาวุธอื่นๆ ไปจนถึงการโจมตีทางอากาศที่รุนแรงและนองเลือด อิสราเอล กล่าวว่า การโจมตีทางอากาศได้ทำลายจรวดหลายพันลูกที่อาจสังหารพลเมืองอิสราเอลได้ ขณะที่ เลบานอน ระบุว่า อิสราเอลสังหารพลเมืองของตนไปมากกว่า 550 ราย รวมถึงเด็ก 50 ราย ซึ่งเท่ากับว่าชาวเลบานอนเกือบครึ่งหนึ่งเสียชีวิตในสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่กินเวลานานหนึ่งเดือนในปี 2549
อิสราเอล เชื่อว่า การรุกรานอย่างรุนแรงจะบีบบังคับให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ทำในสิ่งที่ต้องการและสร้างความเจ็บปวดอย่างมากจนกระทั่งผู้นำ ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำของฮิซบอลเลาะห์ รวมถึงพันธมิตรและผู้สนับสนุนในอิหร่านตัดสินใจว่า ราคาในการต่อต้านนั้นสูงเกินไป
เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ฮามาสสร้างความประหลาดใจให้กับอิสราเอล ชาวอิสราเอลไม่ได้มองว่าฮามาสเป็นภัยคุกคามร้ายแรง แต่เลบานอนกลับมองต่างออกไป กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) และ หน่วยข่าวกรองมอสสาด ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองอิสราเอล ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหน่วยสืบราชการลับเบอร์ต้นๆ ของโลก วางแผนทำสงครามครั้งต่อไปกับฮิซบอลเลาะห์ตั้งแต่สงครามครั้งล่าสุดสิ้นสุดลงด้วยภาวะชะงักงันในปี 2549
ผู้นำอิสราเอล นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เชื่อว่า การรุกรานครั้งนี้มีความคืบหน้าอย่างมากในการบรรลุเป้าหมายที่เขาประกาศไว้ในการพลิกสถานการณ์จากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ให้ตกอยู่ภายใต้ดุลอำนาจ
เขาต้องการหยุดยั้งไม่ให้ฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดข้ามชายแดนเข้ามาในอิสราเอล ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอล กล่าวว่า แผนดังกล่าว คือการบังคับให้ฮิซบอลเลาะห์ถอยกลับจากชายแดนและทำลายฐานทัพทหารที่คุกคามอิสราเอล
สิ่งที่เกิดขึ้นในเลบานอนทำให้เกิดเสียงสะท้อนของสงครามในฉนวนกาซาเมื่อปีที่แล้ว อิสราเอลออกคำเตือนพลเรือนเช่นเดียวกับที่ทำในฉนวนกาซาให้ย้ายออกจากพื้นที่ที่กำลังจะถูกโจมตี อิสราเอล กล่าวโทษกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มฮามาสว่า ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ นักวิจารณ์และศัตรูของอิสราเอลบางคน กล่าวว่า คำเตือนนั้นคลุมเครือเกินไปและไม่ได้ให้เวลาเพียงพอแก่ประชาชนในการอพยพ
การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์บางครั้งส่งผลกระทบต่อพื้นที่พลเรือน โดยละเมิดกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องพวกเขา นอกจากนี้ยังโจมตีกองทหารอิสราเอลด้วย อิสราเอลและพันธมิตรสำคัญทางตะวันตก รวมทั้งสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร จัดให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์เป็นองค์กรก่อการร้าย
อิสราเอลยืนกรานว่า มีกองทัพที่มีคุณธรรมและเคารพกฎเกณฑ์ แต่ทั่วโลกต่างประณามพฤติกรรมของอิสราเอลในฉนวนกาซา การจุดชนวนให้เกิดสงครามชายแดนที่กว้างขวางขึ้นจะทำให้ช่องว่างที่เป็นศูนย์กลางของการโต้เถียงที่แตกแยกกันอย่างรุนแรงทวีความรุนแรงมากขึ้น
การโจมตีด้วยเพจเจอร์ อิสราเอล ระบุว่า มีเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับเพจเจอร์ แต่อิสราเอลไม่ทราบว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน เมื่อระเบิดในเพจเจอร์ถูกจุดชนวน เป็นเหตุให้พลเรือนและเด็ก ๆ ในบ้าน ร้านค้า และสถานที่สาธารณะได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทนายความชั้นนำบางคน กล่าวว่า สิ่งนี้พิสูจน์ได้ว่าอิสราเอลใช้กำลังร้ายแรงโดยไม่แยกแยะระหว่างผู้สู้รบและพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎของสงคราม
การต่อสู้ระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์เริ่มขึ้นในทศวรรษ1980 แต่สงครามชายแดนครั้งนี้เริ่มขึ้นในวันถัดจากที่ฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เมื่อ ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำของฮิซบอลเลาะห์ สั่งให้ทหารของเขาเริ่มโจมตีชายแดนในวงจำกัดแต่แทบทุกวันเพื่อสนับสนุนฮามาส ส่งผลให้ทหารอิสราเอลบังคับให้ผู้คนประมาณ 60,000 คนในเมืองชายแดนต้องออกจากบ้านเรือน
สื่ออิสราเอลหลายสำนักเปรียบเทียบผลกระทบของการโจมตีทางอากาศต่อศักยภาพของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในการทำสงคราม การโจมตีอียิปต์แบบกะทันหันของอิสราเอลในเดือนมิถุนายน 2510 เป็นการโจมตีครั้งสำคัญที่ทำลายกองทัพอากาศอียิปต์ได้สำเร็จเมื่อเครื่องบินของอียิปต์เรียงแถวกันบนพื้นดิน ในอีกหกวันต่อมา อิสราเอลสามารถเอาชนะอียิปต์ ซีเรีย และจอร์แดนได้ ชัยชนะครั้งนี้ทำให้เกิดความขัดแย้งในปัจจุบัน เมื่ออิสราเอลยึดครองเวสต์แบงก์ รวมถึงเยรูซาเล็มตะวันออก ฉนวนกาซา และที่ราบสูงโกลันได้
การเปรียบเทียบนี้อาจไม่ดีนัก กรณีเลบานอนและสงครามกับฮิซบอลเลาะห์แตกต่างกัน อิสราเอลได้โจมตีอย่างหนัก แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งความสามารถหรือความตั้งใจของฮิซบอลเลาะห์ที่จะยิงใส่อิสราเอลได้
สงครามครั้งก่อนๆ ของอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เป็นสงครามที่โหดร้ายและไม่เคยทำให้ทั้งสองฝ่ายได้รับชัยชนะเด็ดขาด ครั้งนี้ก็อาจเป็นเช่นนั้นได้ แม้ว่าการรุกในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะน่าพอใจสำหรับอิสราเอล หน่วยข่าวกรอง และกองทัพก็ตาม
การรุกของอิสราเอลตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าจะต้องมีจุดหนึ่งที่ฮิซบอลเลาะห์จะพ่ายแพ้ ถอยทัพออกจากชายแดน และหยุดยิงใส่อิสราเอล ผู้สังเกตการณ์ฮิซบอลเลาะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่ามันจะไม่หยุด
อิสราเอลซึ่งไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้เช่นกัน จะต้องยกระดับสงครามให้รุนแรงขึ้น หากฮิซบอลเลาะห์ยังคงทำให้อิสราเอลตอนเหนือเป็นอันตรายเกินกว่าที่พลเรือนชาวอิสราเอลจะกลับบ้านได้ อิสราเอลจะต้องตัดสินใจว่าจะเปิดฉากโจมตีทางบกหรือไม่ ซึ่งอาจจะยึดครองพื้นที่บางส่วนเพื่อใช้เป็นเขตกันชน
สงครามในปัจจุบันและสงครามที่จะมาถึง
ผู้บัญชาการของอิสราเอล ทราบดีว่า การบุกเข้าไปในเลบานอนภายใต้การโจมตีจะเป็นความท้าทายทางทหารกว่าการต่อสู้กับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซามาก ฮิซบอลเลาะห์ยังได้วางแผนมาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามในปี 2549 และจะสู้รบในดินแดนบ้านเกิดของตนเองทางตอนใต้ของเลบานอนซึ่งมีภูมิประเทศที่ขรุขระและเป็นเนินเขาจำนวนมาก ซึ่งเหมาะกับยุทธวิธีกองโจร
อิสราเอล ไม่สามารถทำลายอุโมงค์ที่ฮามาสขุดผ่านทรายในฉนวนกาซาได้ทั้งหมด ในพื้นที่ชายแดนทางใต้ของเลบานอน ฮิซบอลเลาะห์ใช้เวลา 18 ปี ที่ผ่านมาในการเตรียมอุโมงค์และตำแหน่งต่างๆ บนหินแข็ง พวกเขามีคลังอาวุธที่แข็งแกร่งซึ่งจัดหาโดยอิหร่าน ซึ่งแตกต่างจากฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งสามารถส่งเสบียงเพิ่มเติมทางบกผ่านซีเรียได้
ศูนย์การศึกษาด้านยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเมินว่า ฮิซบอลเลาะห์มีนักรบประจำการอยู่ราว 30,000 นาย และกองหนุนอีกราว 20,000 นาย โดยส่วนใหญ่ได้รับการฝึกให้เป็นหน่วยทหารราบขนาดเล็กเคลื่อนที่ ทหารของฮิซบอลเลาะห์หลายคนมีประสบการณ์การรบ
การประมาณการส่วนใหญ่ระบุว่า ฮิซบอลเลาะห์มีขีปนาวุธและจรวดประมาณ 120,000 - 200,000 ลูก ซึ่งมีตั้งแต่อาวุธไม่มีการนำวิถีไปจนถึงอาวุธที่มีพิสัยไกลกว่าซึ่งสามารถโจมตีเมืองต่างๆ ของอิสราเอลได้
อิสราเอลอาจ กำลังเสี่ยงว่าฮิซบอลเลาะห์จะไม่ใช้อาวุธทั้งหมด เพราะกลัวว่า กองทัพอากาศอิสราเอลจะทำกับเลบานอนแบบเดียวกับที่ทำกับฉนวนกาซาโดยทำให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นซากปรักหักพังและสังหารพลเรือนหลายพันคน อิหร่านอาจไม่ต้องการให้ฮิซบอลเลาะห์ใช้อาวุธที่ต้องการสำรองไว้เป็นประกันในกรณีที่อิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งนั่นเป็นการพนันอีกอย่างหนึ่ง ฮิซบอลเลาะห์อาจตัดสินใจใช้คลังอาวุธเพิ่มเติมก่อนที่อิสราเอลจะทำลายมัน
เนื่องจากสงครามในฉนวนกาซายังคงดำเนินต่อไป และความรุนแรงในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองก็เพิ่มสูงขึ้น อิสราเอลจึงต้องพิจารณาแนวรบที่สาม หากจะรุกรานเลบานอน ทหารของอิสราเอลมีแรงจูงใจ ได้รับการฝึกฝนและมีอุปกรณ์ครบครัน แต่หน่วยสำรองซึ่งเป็นกำลังรบหลักของอิสราเอลกำลังเผชิญกับความตึงเครียดหลังจากสงครามที่ดำเนินมาเป็นเวลาหนึ่งปี