สื่อใหญ่จีนสะท้อนภาพ “จีน-ไทย” ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ในยุค “ฟรีวีซ่า”

05 มี.ค. 2567 | 00:38 น.
อัปเดตล่าสุด :05 มี.ค. 2567 | 06:33 น.

1 มีนาคม 2567 เป็นวันแรกที่มาตรการยกเว้นการตรวจลงตราถาวร หรือ "ฟรีวีซ่า” ไทย-จีน มีผลบังคับใช้ สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางประเภทธรรมดาและกึ่งราชการของทั้งสองฝ่าย นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเดินทางท่องเที่ยว แลกเปลี่ยนการไปมาหาสู่

 

สำนักข่าวซินหัว สื่อใหญ่ของทางการจีนรายงานข่าวสะท้อนบรรยากาศที่เป็นไปในเชิงบวกดังกล่าว ผ่านการสัมภาษณ์ทั้งชาวไทย-ชาวจีน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ความเห็นในแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับ มาตรการ "ฟรีวีซ่า" ไทย-จีน รวมทั้งแผนการท่องเที่ยวของพวกเขาเมื่อมาตรการดังกล่าวนี้ เปิดโอกาสให้การเดินทางเป็นเรื่องสะดวกง่ายดายมากยิ่งขึ้น

อดิศร แสงกระจ่าง วัย 42 ปี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซินหัวว่า เขาเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (29 ก.พ.) เพื่อโดยสารเที่ยวบินสู่นครเซี่ยงไฮ้ ทางตะวันออกของจีน นี่เป็นการเดินทางเยือนจีนครั้งแรกที่เขารอคอยมาเนิ่นนาน โดยอดิศรถือเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกที่ได้ประโยชน์จาก "ยุคฟรีวีซ่า" ระหว่างไทยและจีน

พนักงานบริษัทผู้นี้ได้เดินทางท่องเที่ยวจีนครั้งแรกพร้อมเพื่อนร่วมงานอีก 11 คน โดยอดิศรเผยว่า อยากสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวจีนที่เป็นประเทศรุ่มรวยวัฒนธรรม และการมีนโยบายฟรีวีซ่าก็ช่วยอำนวยความสะดวกสบายอย่างมาก ชวนให้เขาคิดกลับไปเที่ยวอีกหลายครั้ง

ขณะที่ กวิสรา เจริญพร ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวของไทย ซึ่งจัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำออกเดินทางสู่เมืองจางเจียเจี้ยทางตอนกลางของจีนเมื่อวันศุกร์ (1 มี.ค.) กล่าวว่า ปริมาณการจองทริปท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นับตั้งแต่จีนและไทยลงนามข้อตกลงยกเว้นวีซ่าร่วมกันเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากกรุงเทพฯ สู่จางเจียเจี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 3 เที่ยวต่อสัปดาห์

บุญสุข วิธานวัฒนา นักท่องเที่ยวคนหนึ่งผู้ร่วมเดินทางด้วยทริปเช่าเหมาลำสู่จางเจียเจี้ย เผยว่า เขาเคยไปเที่ยวเมืองนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว ชื่นชอบทิวทัศน์อันงดงามและอากาศที่ดี พอตอนนี้ไม่ต้องขอวีซ่า ก็ยิ่งช่วยประหยัดเงินและเวลา ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเดินทางไปเที่ยวอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลไทยดำเนินนโยบายยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นการชั่วคราวมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2566  ส่วนการลงนามข้อตกลงยกเว้นวีซ่าร่วมกันระหว่างไทยและจีน ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มี.ค. 2567 เป็นต้นไปนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญ

ช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนเมื่อไม่นานนี้ ชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวไทยเป็นจำนวนมาก (ภาพข่าวซินหัว)

ช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนเมื่อไม่นานนี้ ชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวไทยเป็นจำนวนมากเพื่อดื่มด่ำมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ในกรุงเทพฯ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึงสัมผัสบรรยากาศชายทะเลเขตร้อนที่เกาะภูเก็ตและเกาะสมุย

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย เปิดเผยว่า จีนกลับมาครองตำแหน่งตลาดแหล่งนักท่องเที่ยวต่างชาติขนาดใหญ่ที่สุดของไทยอีกครั้งในปีนี้ โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเยือนไทยเกือบ 6 ล้านคน เมื่อนับถึงวันที่ 25 ก.พ. 2567 เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนมากกว่า 1.1 ล้านคน

(ภาพข่าวซินหัว)

"ข้อตกลงยกเว้นวีซ่าเป็นหมุดหมายสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและจีน"

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย ก็ได้ยกย่องข้อตกลงยกเว้นวีซ่าให้เป็นหมุดหมายสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและจีน ซึ่งจะสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ทั้งแง่การค้าและการลงทุน รวมถึงรายได้จากนักท่องเที่ยวที่กระจายถึงพ่อค้าแม่ค้าในไทยโดยตรง

สุรสิทธิ์ ถนัดทาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า "ยุคฟรีวีซ่า" จะนำพาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น เกื้อหนุนการไปมาหาสู่ของประชาชนสองประเทศ และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนสู่ระดับใหม่ ตลอดจนกระชับมิตรภาพและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน นำไปสู่การส่งเสริมสันติภาพในภูมิภาคด้วย