สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ปากีสถาน ได้ทำการยึด สารโพรพิลีนไกลคอล ที่มีการปนเปื้อน เอทิลีนไกลคอล และกำลังตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของสินค้าล็อตนี้ พร้อมกับออกคำสั่ง เรียกคืนผลิตภัณฑ์ ทั้งจากตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออกที่มีการผลิตโดยใช้สารโพรพิลีนไกลคอลจากล็อตดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จากฝ่ายเวชภัณฑ์ของปากีสถานระบุว่า จากการวิเคราะห์ตัวอย่างในห้องปฏิบัติการของหน่วยเวชภัณฑ์ส่วนกลางในกรุงการาจี พบว่า มีการปนเปื้อนเอทิลีนไกลคอล (ethylene glycol) ในระดับที่ "ยอมรับไม่ได้" ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่รุนแรงต่อสุขภาพ โดยอาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง หัวใจ และอาจสร้างความเสียหายต่อไตจนถึงแก่ชีวิต
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ปากีสถานได้สั่งห้ามจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่มีการผลิตโดยใช้สารโพรพิลีนไกลคอลของบริษัท ดาว เคมิคอล
รอยเตอร์ระบุว่า ได้มีการติดต่อสอบถามขอความเห็นจากดาว เคมิคอล ประเทศไทย เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ
ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า สารโพรพิลีนไกลคอลที่มีการนำเข้าจากบริษัท ดาว เคมิคอล ได้ถูกใช้ในการผลิตน้ำยาแก้ไอในปากีสถานหรือไม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่พบว่า สารโพรพิลีนไกลคอลที่มีพิษในน้ำยาแก้ไอเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของเด็กมากกว่า 300 รายในอินโดนีเซีย แกมเบีย และอุซเบกิสถานนับตั้งแต่ปี 2565 ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การเสียชีวิตของเด็กที่อยู่นอกอินโดนีเซียนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับน้ำยาแก้ไอที่มีการผลิตในประเทศอินเดีย
ข้อมูลอ้างอิง