สมรภูมิระอุ กต.ตั้งเป้าเร่งมืออพยพคนไทยออกจากอิสราเอลวันละ 400 คน

13 ต.ค. 2566 | 16:59 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ต.ค. 2566 | 18:08 น.

สถานการณ์ในอิสราเอลยังคงทวีความรุนแรง กต.แถลงเป้าหมายอพยพคนไทยกลับบ้านให้ได้อย่างน้อย 400 คนต่อวัน (รวมทุกช่องทาง) หลังนายกฯย้ำ การอพยพช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล เป็น “ภารกิจแห่งชาติ” ต้องให้ความสำคัญอย่างสูงสุด

 

นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษก กระทรวงการต่างประเทศ(กต.) เปิดเผยวันนี้ (13 ต.ค.) เกี่ยวกับ สถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ว่า นายกรัฐมนตรีมาเป็นประธาน การประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Centre: RRC) วานนี้ (12 ต.ค.) และย้ำว่า การอพยพช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล เป็น “ภารกิจแห่งชาติ” ขอให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญอย่างสูงสุด นอกจากนี้ นายกฯยังได้พบกับทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยเช้าวันนี้ และได้ขอให้ทางการอิสราเอลช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดส่งคนไทยกลับบ้านโดยเร็วที่สุด ซึ่งท่านทูตก็ได้แจ้งว่าทางการอิสราเอลได้ช่วยเหลืออพยพคนต่างชาติจากบริเวณใกล้ฉนวนกาซาออกมาสู่พื้นที่ปลอดภัยได้แล้วราว 99%

นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษก กระทรวงการต่างประเทศ(กต.) 

1. พัฒนาการสถานการณ์

สถานการณ์ในอิสราเอลยังคงความรุนแรง อย่างไรก็ดี มีการระงับการโจมตีด้วยจรวดในฉนวนกาซาไปบางช่วง ซึ่งอาจเกิดจากการที่กลุ่มฮามาสกำลังเตรียมการตั้งรับการกระชับพื้นที่ของอิสราเอล

หน่วยงานต่าง ๆ ของอิสราเอลอยู่ระหว่างพิจารณาแผนจัดตั้งพื้นที่อยู่อาศัยชั่วคราวสำหรับชาวอิสราเอลที่อพยพออกจากพื้นที่รอบฉนวนกาซา โดยจะประกอบด้วยบ้าน / อาคารชั่วคราว / โรงเรียน / และศูนย์สุขภาพ ซึ่งจะกำหนดพื้นที่ที่แน่นอนต่อไป

2.ความคืบหน้าผลกระทบต่อคนไทยในพื้นที่

จำนวนผู้เสียชีวิต / ได้รับบาดเจ็บ / เป็นตัวประกัน ยังคงเท่ากับวานนี้ (12 ต.ค. 2566) ได้แก่

  • ผู้เสียชีวิต : 21 ราย
  • ผู้บาดเจ็บ : 14 ราย
  • ผู้ถูกลักพาตัว : 16 ราย

วานนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ รายงานเพิ่มเติมว่า พบแรงงานไทยจำนวน 2 รายที่หลบซ่อนตัวอยูที่ Kibbutz Nahal Oz ติดชายแดนฉนวนกาซานานกว่า 5 วัน ซึ่งทั้งคู่อยู่ระหว่างเข้ารับการรักษาจากแพทย์ โดยหากทั้งคู่ประสงค์จะกลับไทย ทางสถานทูตฯ ก็จะอำนวยความสะดวกต่อไป

สมรภูมิระอุ กต.ตั้งเป้าเร่งมืออพยพคนไทยออกจากอิสราเอลวันละ 400 คน

3.การอพยพคนไทย

  • ในวันนี้ (13 ต.ค. 2566) แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอล 19 ราย ด้วยสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY 085 มีกำหนดถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 16.57 น. และทราบว่ามีบางส่วนที่ซื้อตั๋วเครื่องบินเองกลับมาในเที่ยวบินเดียวกันด้วย
  • ส่วนวันพรุ่งนี้ (14 ต.ค. 2566) สถานทูตฯ จะอพยพแรงงานไทย ครั้งที่ 3 จำนวน 100 ราย ด้วยสายการบิน Fly Dubai ซึ่งจะเปลี่ยนเครื่องที่นครดูไบ และจะเดินทางต่อด้วยเที่ยวบินที่ FZ 1837 โดยจะถึงประเทศไทยใน วันที่ 15 ต.ค. 2566 เวลา 07.25 น. ณ สนามบินอู่ตะเภา และเมื่อถึงสนามบินแล้ว จะมีรถบัสรับจากอู่ตะเภาไปยัง รร. SC Park กรุงเทพฯ เพื่อให้ญาติพี่น้องของคนไทยกล่มนี้รอรับได้ตั้งแต่ประมาณ 10.00 น. เป็นต้นไป
  • ถัดจากนั้น สถานทูตฯ จะจัดเที่ยวบินพิเศษ สายการบิน El Al Israel Airlines ใน วันที่ 16 ต.ค.2566 ซึ่งสามารถนำคนไทยกลับได้ จำนวน 250 ที่นั่ง (รอยืนยันกำหนดเวลา)

เช้านี้ รมช.กต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้หารือเพิ่มเติมกับสายการบินพาณิชย์ ประกอบด้วย นกแอร์ / Air Asia / และการบินไทย เพื่อร่วมสนับสนุนภารกิจครั้งนี้ โดยตั้งเป้าอพยพคนไทยให้ได้อย่างน้อย 400 คนต่อวัน (รวมทุกช่องทาง)

สำหรับการตอบแบบฟอร์มแสดงความประสงค์กลับไทย จนถึงขณะนี้ มีจำนวนรวม 6,863 คน (สถานะวันที่ 12 ต.ค. 2566) แบ่งเป็น

(1) ประสงค์กลับไทย 6,778 ราย (บางส่วนกรอกซ้ำ และบางส่วนแสดงความประสงค์พำนักต่อในอิสราเอล) และ (2) ไม่ประสงค์เดินทางกลับ 85 ราย

ทั้งนี้ สถานทูตฯ ได้เตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับคนไทยที่โรงแรม Dan Panorama Tel Aviv (ที่อยู่ : Kaufmann St 10, Tel Aviv-Yafo) ซึ่งจะจัดที่พักและอาหาร เพื่อรอเดินทางไปสนามบินเพื่อกลับไทย ตอนนี้มีประมาณ 100 ห้อง และสามารถเพิ่มเติมได้

การจ่ายค่าชดเชยที่เกี่ยวกับการเดินทาง

โดยที่นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายที่จะช่วยเหลือพี่น้องคนไทยในอิสราเอลทุกคนที่ประสบภัย ที่ประชุม RRC ช่วงบ่ายวันนี้ ได้เห็นชอบในหลักการที่จะจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ที่เดินทางกลับไทยตั้งแต่วันที่อิสราเอลประกาศสงคราม (วันที่ 7 ต.ค. 2566)

  • หลักฐานประกอบการเบิกจ่าย อาทิ Boarding pass / ใบเสร็จ หรือตั๋วเครื่องบิน ประกอบกับหนังสือเดินทาง / บัตรประชาชน
  • ช่องทางการยื่นเอกสาร : ผ่านสำนักงานแรงงานจังหวัด และกระทรวงแรงงาน
  • ในชั้นนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหารือในรายละเอียด จึงขอให้เก็บเอกสารดังกล่าวไว้ก่อน และรอฟังประกาศในรายละเอียดจากทางการต่อไป

4. ประเด็นอื่น ๆ

  • ตามที่เคยมีการรายงานเกี่ยวกับแรงงานไทยถูกบังคับให้ทำงานต่อในภาวะสงคราม ได้รับทราบว่า ผู้ที่เคยให้ข่าวในเรื่องนี้ได้ให้สัมภาษณ์แล้วว่า มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไป รวมถึงเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการที่ทางการอิสราเอลโยกย้ายแรงงานไปทำงานในพื้นที่ปลอดภัย อย่างไรก็ดี นายกฯ ได้ย้ำเรื่องนี้กับเอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ เช้านี้อีกครั้งหนึ่งด้วย
  • ทางกระทรวงฯ ขอขอบคุณบริษัท AIS ที่ได้บริจาคซิมโทรศัพท์มือถือเพื่อสนับสนุนระบบสื่อสารภารกิจช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลเมื่อวานนี้ด้วย ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และกระทรวงแรงงาน (รง.) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเดินทางไปสนับสนุนภารกิจที่อิสราเอล
  • ปัจจุบัน ตามที่ปรากฏในรายงานข่าว จำนวนผู้เสียชีวิตชาวไทยไม่ใช่จำนวนสูงสุดแล้ว อย่างไรก็ดี ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดก็ตาม