นายกฯ ให้ความมั่นใจ จะนำคนไทยจากอิสราเอลกลับบ้านให้เร็วที่สุด

12 ต.ค. 2566 | 21:23 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ต.ค. 2566 | 21:35 น.

นายกรัฐมนตรีแถลงความคืบหน้าแผนการนำคนไทยในอิสราเอลกลับประเทศ กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับแผนให้เร็วที่สุด และให้ความสำคัญที่สุดคือชีวิตคนไทยทุกคน เร่งเจรจาสายการบิน

 

12 ต.ค. 2566 เวลา 18.00 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการคลัง แถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้น การประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินความไม่สงบตะวันออกกลาง ติดตามความคืบหน้าใน การช่วยเหลือคนไทยจากอิสราเอล กลับสู่ประเทศไทยโดยเร็วที่สุด โดยภายหลังเสร็จสิ้นการแถลง นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผย ดังนี้

นายกรัฐมนตรีเดินทางมาศูนย์บัญชาการฯ ด้วยความกังวลเรื่อง ความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส ที่ขยับความรุนแรงขึ้น และ มีคนไทยอยู่ในพื้นที่ที่แสดงความต้องการเดินทางกลับประเทศเกือบ 6,000 คน มีคณะแรกกลับมาแล้ววันนี้ (12 ต.ค.) 15 คน เข้าใจดีถึงความเป็นห่วงของญาติพี่น้องและความกังวลของคนในพื้นที่ ทั้งนี้ มีหลายปัญหาจากการลำเลียงคนกลับ ตอนนี้ได้พูดคุยกันว่า กองทัพอากาศจะนำเครื่องบิน C130 A340 เริ่มบินเข้าไป วันแรกจะออกจากไทยวันที่ 14 ต.ค.นี้ และจะนำเสบียงเข้าไปด้วยเพื่อนำคนไทยกลับมาราว 140 คน

นายกรัฐมนตรีสั่งการว่า การเว้นการเดินทางโดยเดินทางไปรับอีกครั้งวันที่ 20 กว่า ถือว่าช้าเกินไป ที่ประชุมเห็นชอบ สั่งการว่าให้เตรียมตั้งแต่วันนี้ (12 ต.ค.)ให้เครื่องบินพร้อม นกแอร์มี 2 ลำ แอร์เอเชีย 2 ลำ การบินไทยจะให้คำตอบพรุ่งนี้ (13 ต.ค.)

ทั้งนี้ ด้วยความเป็นเครื่องบินพิเศษ ต้องผ่านน่านฟ้า 4 ประเทศ โดยต้องใช้เวลาประสานงาน 2 วัน จึงสั่งการว่าให้เตรียมพร้อมเลย ขอให้จัดเป็นความสำคัญสูงสุด เอกอัครราชทูตไทยที่อิสราเอล แจ้งความพร้อมหากคนไทยพร้อมจะออกจากจุดเสี่ยงได้วันละ 200 คน ซึ่งไม่ทันกับความต้องการ ได้สั่งการให้หาวิธีที่เร็วขึ้นโดยให้ความสำคัญสูงสุดกับชีวิตประชาชน

นายกฯ ให้ความมั่นใจ จะนำคนไทยจากอิสราเอลกลับบ้านให้เร็วที่สุด

พร้อมกันนี้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งว่า หากเป็นการบินพาคนไทยออกจากพื้นที่เสี่ยงก่อน ทางทีมงานพิจารณาอยู่ แต่มีความยากขึ้น ตรงหากไม่มีเอกสารเข้าประเทศที่ 3 จะสามารถทำได้หรือไม่ เป็นความละเอียดอ่อนทางการทูต เจ้าหน้าที่ กต. ส่งไปเพิ่ม เพื่อช่วยดูแล ยืนยันเอกสารไม่ใช่ประเด็นห่วงใย สั่งการแล้วว่า ความสำคัญสูงสุดคือการนำพี่น้องคนไทยกลับมาสำคัญที่สุด ทุกหน่วยงานรับทราบ การลำเลียงคนออกทางเรือ ต้องผ่านดินแดนกาซา ซึ่งต้องมอนิเตอร์สถานการณ์ ขอให้เอกชนหรือสายการบินที่มีเครื่องบินขอให้แจ้งมา

“ยืนยันว่าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น และรัฐบาลให้ความเป็นห่วง ให้ความสำคัญที่สุด โดยรัฐบาลทำการเจรจาตลอดเวลา ในทุกๆ ช่องทางที่ทำได้ และมั่นใจว่าเจรจาทุกช่องทางแล้ว” นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีความหวังและใช้ความพยายาม เพราะไทยไม่ได้เป็นประเทศที่อยู่ในความขัดแย้ง แต่เรามีความสูญเสียสูงสุด “เชื่อว่าทุกประเทศให้ความเห็นใจ ให้ความสะดวกในการผ่านน่านฟ้า เราทำเต็มที่และต้องการให้เสร็จโดยเร็ว”