สงครามอิสราเอล-ฮามาส มากกว่า 123,000 คน ต้องเป็นผู้พลัดถิ่นในฉนวนกาซา
มากกว่า 123,000 คน ต้องกลายเป็น "ผู้พลัดถิ่น" ในฉนวนกาซา นับตั้งแต่เกิดการสู้รบใน "สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส" ขณะที่ผู้คนมากกว่า 137,000 คน กำลังหลบภัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงของสหประชาชาติในฉนวนกาซา
ผลกระทบในสงครามทั่วทุกแห่งของโลกที่เกิดขึ้นนอกเหนือจาก ยอดผู้บาดเจ็บ ล้มตาย โครงสร้างพื้นฐานพังทลาย "ผู้หญิง คนชรา เด็ก" เป็นอีกแง่มุมที่สะท้อนให้เห็นว่าเป็นเหยื่อความรุนเเรงที่ต้องประสบเคราะห์กรรม
การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกึ่งทหารของปาเลสไตน์ หลังเปิดปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลด้วยชื่อ "พายุอัล-อักซอ" (Al-Aqsa Storm) ในเช้าตรู่ของวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ทำให้ขณะที่อิสราเอลยังคงทำการโจมตีทางอากาศ ทางทะเล และทางบกอย่างต่อเนื่อง
โยอาฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอลกำลังปิดล้อมฉนวนกาซาโดยสมบูรณ์ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำ ไม่มีเชื้อเพลิง เขากล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม ผ่านมา
กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) กล่าวว่า ได้โจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮามาสและญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ (Islamic Jihad Movement in Palestine) 500 คนในชั่วข้ามคืน
กระทรวงมหาดไทยปาเลสไตน์กล่าวว่า เป้าหมายส่วนใหญ่เป็น หอคอย อาคารที่พักอาศัย สิ่งอำนวยความสะดวกด้านพลเรือนและบริการ และมัสยิดหลายแห่ง
มัสยิดและบ้านเรือนถูกโจมตี โดย IDF อ้างว่ามีทรัพย์สินปฏิบัติการของกลุ่มฮามาส 2 รายการ ถูกโจมตีภายในมัสยิดแห่งหนึ่งในฉนวนกาซา โดยอ้างว่าได้โจมตีศูนย์บัญชาการของกลุ่มฮามาสอีก 7 แห่ง ศูนย์บัญชาการญิฮาดอิสลาม และอาคารหลายชั้นหลายแห่ง รวมถึงบ้านของเลขาธิการกลุ่มฮามาส
ขณะที่ ข้อมูลเบื้องต้น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 493 รายและบาดเจ็บ 2,651 รายในฉนวนกาซา นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อตอบโต้การโจมตีทางอากาศของกลุ่มฮามาสเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2023 กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ ระบุ
มีประชาชนมากกว่า 123,000 คนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นในฉนวนกาซา นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลปะทุขึ้น ส่วนใหญ่มาจากความกลัว ความกังวลเกี่ยวกับการคุ้มครอง และการทำลายบ้านของพวกเขา ตามข้อมูลของ OCHA หน่วยงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ
Read our Flash Update #2 on the escalation in the #GazaStrip and Israel.
— OCHA oPt (Palestine) (@ochaopt) October 8, 2023
🔗https://t.co/aM3ynzlbNo pic.twitter.com/p3OFco55Md
ขณะที่สำนักงานบรรเทาทุกข์และกิจการแห่งสหประชาชาติ (UNRWA) ประเมินว่ามี ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ (IDPs : Internally Displaced People คือบุคคลที่ถูกบังคับให้หนีจากบ้านตนเองไปยังพื้นที่อื่นภายในประเทศของตน) มีประชาชน 74,000 คน ที่พักพิงอยู่ในโรงเรียน 64 แห่ง ในบรรดาผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ (IDP) ซึ่งบางแห่งถูกกำหนดให้เป็นที่พักพิงฉุกเฉินที่กำหนดโดย UNRWA ในฉนวนกาซาได้เปิดใช้งานเพื่อรองรับผู้พลัดถิ่นและให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยตัวเลขเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการโจมตีทางอากาศยังคงดำเนินต่อไป
รายงานประจำปีและรายงานแนวโน้มผู้พลัดถิ่นทั่วโลกของ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ UNHCR ปี 2022 พบว่า ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา จำนวนผู้พลัดถิ่นจากสงคราม ความรุนแรง และการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่ที่ 108.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ 19.1 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้นมามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ผู้คนมากกว่า 137,000 คนกำลังหลบภัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงของสหประชาชาติในฉนวนกาซา
ล่าสุด 10 ตุลาคม 2023 สำนักงานบรรเทาทุกข์และกิจการแห่งสหประชาชาติ (UNRWA) เปิดเผยเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่า ศูนย์พักพิงฉุกเฉินในฉนวนกาซาสามารถรองรับคนได้ 90% โดยมีผู้คนมากกว่า 137,000 คนคอยคุ้มกันจากการโจมตีของอิสราเอล หน่วยงานดังกล่าวกล่าวว่าโรงเรียน UNRWA 83 แห่งได้กลายมาเป็นสถานสงเคราะห์
รายงานระบุว่าครอบครัวผู้พลัดถิ่นในโรงเรียนสหประชาชาติแห่งหนึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ไม่ทราบว่ามีกี่คนที่อยู่ในศูนย์พักพิงในขณะที่เกิดการโจมตี
UNRWA ยังกล่าวอีกว่าพวกเขาถูกบังคับให้ปิดศูนย์กระจายอาหารทั้ง 14 แห่งโดยเขียนในโพสต์บน Xเป็นผลให้ประชาชนครึ่งล้านคนหยุดรับความช่วยเหลือด้านอาหารที่สำคัญ
🔺Over 137,000 people are taking shelter in 83 @UNRWA schools now turned shelters. Numbers are increasing as airstrikes continue.
— UNRWA (@UNRWA) October 9, 2023
🔺@UNRWA forced to close all 14 food distribution centres - as a result half a million people have stopped receiving vital food aid. pic.twitter.com/jyS1lEyHj2
ที่มาข้อมูล