ยั่วไม่เลิก โสมแดงทดสอบขีปนาวุธรอบใหม่ สหรัฐส่งเครื่องบินตอบโต้

20 ก.พ. 2566 | 07:55 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.พ. 2566 | 08:20 น.

คาบสมุทรเกาหลีระอุอีกครั้ง หลังเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปรอบใหม่ ขณะสหรัฐตอบโต้ด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงร่วมซ้อมรบเกาหลีใต้

 

ทางการเกาหลีเหนือ แถลงว่า การทดสอบขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกลข้ามทวีป หรือ ICBM (intercontinental ballistic missile) ครั้งล่าสุดเมื่อวันเสาร์ (18 ก.พ.) คือการยกระดับการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ พร้อมขู่ว่าจะเพิ่มความรุนแรงของการทดสอบอาวุธยิ่งขึ้นไปอีกเพื่อตอบโต้การซ้อมรบร่วมกันระหว่าง สหรัฐอเมริกา กับ เกาหลีใต้

หลังจากนั้นในวันถัดมา กองทัพสหรัฐตอบโต้การทดสอบ ICBM ของรัฐบาลเปียงยาง ด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงไปร่วมซ้อมรบกับเครื่องบินรบของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เมื่อวันอาทิตย์ (19 ก.พ.) เพื่อแสดงศักยภาพทางทหารของ 3 ชาติพันธมิตร

เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกลข้ามทวีป หรือ ICBM เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 ก.พ.) รายงานข่าวระบุว่า การทดสอบจรวด ICBM เมื่อวันเสาร์ ถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกในปีนี้ของเกาหลีเหนือ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กำลังใช้การซ้อมรบของสหรัฐกับเกาหลีใต้ เป็น “ข้ออ้าง” ในการสาธิตศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของตนเอง เป้าหมายเพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองกับชาติตะวันตก

ทั้งนี้ สำนักข่าว KCNA สื่อของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า การทดสอบดังกล่าวมีขึ้นเพื่อ “พิสูจน์” และ “แสดงความพร้อม” ด้านการทหารของกรุงเปียงยาง โดย ขีปนาวุธฮวาซอง-15 (Hwasong-15) สามารถพุ่งขึ้นไปแตะระดับความสูงที่ 5,770 กิโลเมตร และไปไกลราว 990 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทาง 67 นาที ก่อนที่จะลอยไปตกในน่านน้ำระหว่างญี่ปุ่นกับคาบสมุทรเกาหลี

นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กับขีปนาวุธฮวาซอง-15 สื่อของเกาหลีเหนืออ้างว่า การทดสอบครั้งนี้ใช้วิธียิงแบบมุมชันกว่าปกติเพื่อหลีกเลี่ยงประเทศเพื่อนบ้าน (อย่างญี่ปุ่น) ซึ่งหากยิงในวิถีปกติ ขีปนาวุธฮวาซอง-15 จะไปได้ไกลกว่านี้มาก และยังสามารถเดินทางไปถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในการโจมตีกองกำลังของศัตรูอย่างรุนแรงที่สุดโดยที่ฝ่ายตรงข้ามไม่อาจตอบโต้ได้

ทั้งนี้ ขีปนาวุธฮวาซอง-15 คือหนึ่งในขีปนาวุธ ICBM สามแบบที่เกาหลีเหนือมีอยู่ ซึ่งล้วนใช้เชื้อเพลิงแบบเหลว โดยนักวิเคราะห์ด้านขีปนาวุธ แห่งมหาวิทยาลัยการบินและอวกาศแห่งเกาหลี (Korea Aerospace University) เชื่อว่า ขีปนาวุธในการทดสอบเมื่อวันเสาร์เป็นแบบฮวาซอง-15 ที่ผ่านการดัดแปลงมาแล้ว ซึ่งข้อมูลจากเกาหลีเหนือชี้ว่าสามารถเดินทางได้ไกลกว่าแบบเดิม

ท่ามกลางความร้อนระอุนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 ก.พ.) สหรัฐได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B ซึ่งเป็นเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง และเครื่องบินรบอื่น ๆ ไปซ้อมรบกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้บริเวณคาบสมุทรเกาหลี โดยกองทัพเกาหลีใต้มีแถลงการณ์ว่า การซ้อมรบครั้งนี้ คือการรับรองถึงพันธกิจที่แน่วแน่ของรัฐบาลวอชิงตันในการปกป้องเกาหลีใต้

เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B ซึ่งเป็นเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงของสหรัฐ

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเปียงยางเคยขู่ว่า จะตอบโต้ “อย่างแข็งกร้าวแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน” ต่อการซ้อมรบระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ ที่เปียงยางมองว่า เป็นการคุกคามเกาหลีเหนือโดยตรง

นางคิม โย จอง น้องสาวของผู้นำคิม มีแถลงการณ์โต้ตอบเมื่อวันอาทิตย์ กล่าวหาสหรัฐและเกาหลีใต้ว่า กำลังแสดงความโลภและอันตรายอย่างเปิดเผยด้วยการพยายามสร้างความได้เปรียบทางทหารบนคาบสมุทรเกาหลี พร้อมกันนี้ยังได้เตือนว่า เกาหลีเหนือจะจับตามองการกระทำของศัตรูอย่างใกล้ชิดและจะตอบโต้ด้วยความรุนแรง

ด้านนายเอเดรียน วัตสัน โฆษกสภาความมั่นคงและชาติสหรัฐ แถลงว่า สหรัฐจะใช้ทุกแนวทางที่มีเพื่อรับประกันความปลอดภัยของพลเมืองอเมริกันทั้งในสหรัฐ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ขณะที่สภาความมั่นคงและชาติเกาหลีใต้ กล่าวว่า จะพยายามเสริมความสามารถในการตอบโต้ทางทหารต่อความก้าวร้าวของเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของสามชาติพันธมิตร สหรัฐ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งร่วมประชุมกันที่นครมิวนิค ประเทศเยอรมนี ได้ตกลงเพิ่มความร่วมมือสามฝ่ายเพื่อรับมือภัยคุกคามบนคาบสมุทรเกาหลีเช่นกัน