2023 เกมต่อไปของเกาหลีเหนือ “คิม จอง อึน” กำลังทำอะไร?

04 ม.ค. 2566 | 11:51 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ม.ค. 2566 | 19:59 น.

ปี 2023 โลกยังคงต้องจับตากันต่อไป กับเกมของเกาหลีเหนือ โดย “คิม จอง อึน” ผู้นำสูงสุด ว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรบ้าง

ส่งท้าย 31 ธันวาคม 2022 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งใหม่ ตามเวลาท้องถิ่น (06.00 น. ตามเวลาไทย) หลังจากตลอดปี 2022 ได้ทดสอบขีปนาวุธไปมากกว่า 70 ครั้ง เรียกได้ว่าเป็นการทดสอบมากที่สุดเป็นประวัติการณ์  

 

ในครั้งล่าสุด ยิงขีปนาวุธ 3 ลูก ตกนอกชายฝั่งทางตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี คณะเสนาธฺการร่วมเกาหลีใต้ ประนามการกระทำนี้ว่า เป็นการยั่วยุอย่างร้ายแรง และบ่อนทำลายสันติภาพ เสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงประชาคมระหว่างประเทศ

 

การทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปที่ทรงพลังที่สุดจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ  “ฮวาซอง 17” Hwasong 17 Intercontinental Ballistic Missile หรือ ICBM) เป็นขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยไกล รัศมีทำการระยะไกลระดับข้ามทวีปมากกว่า 5,500 กิโลเมตร  ปกติแล้วขีปนาวุธชนิดนี้จะใช้ในการบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ เพื่อทำลายเป้าหมายในวงกว้างจากระยะไกล ขีปนาวุธชนิดนี้สามารถบรรทุกหัวรบได้มากกว่าหนึ่งหัว และสามารถปล่อยได้จากหลายสถานที่เช่น สถานีปล่อยขีปนาวุธภาคพื้นดิน เรือดำน้ำ หรือ รถปล่อยขีปนาวุธ

 

ข้อมูล : wikipedia 

 

ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2560 เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขู่เกาหลีเหนือด้วย "ไฟและความเดือดดาล"  คำถามที่ตามมาก็คือ ปี 2022 ความตึงเครียดคาบสมุทรเกาหลีว่าเครียดหนักแล้ว แล้วในปี 2023 จะเครียดแค่ไหน ยังไม่มีใครคาดเดาได้ แม้แต่การถอดรหัสความคิดของผู้นำคิม ก็ยังเป็นเรื่องยาก ซึ่งนานาประเทศยังคงจับตามองว่าแล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ?

 

การเดินหน้าพัฒนานิวเคลียร์  

นักวิเคราะห์เห็นตรงกันว่า การเดินหน้าพัฒนานิวเคลียร์ ที่เห็นได้จากปีที่ผ่านมา เกาหลีเหนือรุดหน้าไปมากในด้านอาวุธ เริ่มต้นปีด้วยการทดสอบขีปนาวุธระยะสั้นที่ออกแบบมาโจมตีเกาหลีใต้ ตามด้วยขีปนาวุธพิสัยกลางที่สามารถล็อกเป้าหมายญี่ปุ่นได้ จนมาถึงปลายปียิงทดสอบขีปนาวุธ ฮวาซอง 17  อีกทั้งยัง ลดเกณฑ์การใช้อาวุธนิวเคลียร์ หลังจากประกาศในเดือนกันยายนว่าเกาหลีเหนือกลายเป็นรัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้

 

นาย คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุด เคยบอกว่า เขามุ่งหวังให้ เกาหลีเหนือ มีกองกำลังนิวเคลียร์ ที่ทรงพลังที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังเลื่อนตำแหน่งนายทหารหลายสิบนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุด

 

ในมุมมองของ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธนิวเคลียร์ของ Carnegie Endowment for International Peace ระบุว่า การพัฒนาที่ร้ายแรงที่สุด จากเป้าหมายในปี 2566 อันดับต้น ๆ ของผู้นำคิม คือการเพิ่มการผลิตอาวุธนิวเคลียร์แบบทวีคูณ รวมถึงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีที่มีขนาดเล็กลง ซึ่งสามารถใช้ต่อสู้กับสงครามกับเกาหลีใต้ได้   

 

ส่วนรายการอื่นๆ ที่คาดว่าจะทำในปี 2023 คือ ดาวเทียมสอดแนม ซึ่งผู้นำคิมอ้างว่าจะส่งขึ้นสู่วงโคจรในฤดูใบไม้ผลินี้ และ ICBM เชื้อเพลิงแข็งที่แข็งแกร่งกว่า ซึ่งสามารถยิงไปยังสหรัฐฯ ได้ โดยเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เกาหลีเหนืออ้างว่าดาวเทียมสอดแนมจับภาพหลายจุดในเกาหลีใต้  

 

ผู้เชี่ยวชาญจึงสันนิษฐานได้ว่าปี 2023 จะแตกต่างจากปี 2022 อย่างชัดเจน โดยเกาหลีเหนือจะยังคงทดสอบ ปรับแต่ง และขยายคลังแสงนิวเคลียร์อย่างแข็งกร้าวเพื่อต่อต้านการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายนิวเคลียร์ ระบุว่า

 

"การยิงขีปนาวุธส่วนใหญ่ในปีหน้าอาจไม่ใช่การทดสอบ แต่เป็นการฝึกซ้อม เพราะขณะนี้เกาหลีเหนือเตรียมใช้ขีปนาวุธในความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น"

 

ส่วนการคาดเดาในเรื่องการเจรจา น่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะเขาอาจรอจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเกาหลีเหนือมีแสนยานุภาพที่จะทำลายล้างสหรัฐฯและเกาหลีใต้ได้ นั่นจะทำให้เขากลับไปเจรจาตามเงื่อนไขของเกาหลีเหนือ

 

การเปิดพรมแดนกับจีน

ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เกาหลีเหนืออยู่ภายใต้การปิดพรมแดนที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด แม้แต่การค้าก็ถูกระงับเพื่อพยายามสกัดกั้นไวรัส ทำให้เกิดวิกฤติอาหารอย่างรุนแรง ผู้นำคิมระบุว่า เกาหลีเหนือเกิดวิกฤตอาหาร

 

ในปี 2566 ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเกาหลีเหนืออาจจะเปิดพรมแดนอีกครั้ง หลังการเปิดเมืองของจีนนำมาซึ่งความหวัง มีรายงานว่าเกาหลีเหนือฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนเพื่อเตรียมพร้อม แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดของจีนด้วย จึงเป็นเรื่องที่ผู้นำให้ความระมัดระวัง  

  

ผู้สืบทอดอำนาจ

เบาะแสที่ว่าใครจะเป็นผู้นำเกาหลีเหนือต่อจากผู้นำคิมถูกวิพากวิจารณ์ เพราะเมื่อปีที่แล้ว “คิม ชูแอ” เด็กผู้หญิงซึ่งคาดว่าเป็นลูกสาวของเขา ถูกเปิดตัว เธอถูกถ่ายภาพในงานกิจกรรมทางทหาร 3 งาน โดยมีภาพเพิ่มเติมที่ปล่อยออกมาในวันปีใหม่ ทำให้บางคนคาดเดาว่าเธอคือผู้ที่ได้รับเลือกหรือไม่

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ ที่คงยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า ใน 2023 นี้ โลกจะได้เห็นอะไรบ้างจากบทบาทของผู้นำคิม ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องจับตาเเบบตาไม่กระพริบ

 

ข้อมูล : bbc