เซเลนสกีขอเครื่องบินรบ ย้ำยูเครนจะมีชัยและเป็นส่วนหนึ่งของอียู

10 ก.พ. 2566 | 08:46 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.พ. 2566 | 09:13 น.

“เซเลนสกี” ผู้นำยูเครน ประกาศต่อที่ประชุมรัฐสภาอียู ลั่นจะเดินหน้าต่อต้านการรุกรานของรัสเซียจนกว่าจะชนะ วอนยุโรปขอเครื่องบินรบสู้ศึก ขณะรัสเซียโต้กลับพร้อมจัดหนักรถถัง

 

ขณะขึ้นกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมรัฐสภายุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยมวานนี้ (9 ก.พ.) ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวขอบคุณบรรดา ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) สำหรับความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่มอบให้ พร้อมย้ำว่า ยูเครนจะเป็นผู้กุมชัยชนะในสงครามกับรัสเซียที่ดำเนินมาเกือบ 1 ปี และจะก้าวขึ้นมาเป็นสมาชิกใหม่ของกลุ่มอียูในที่สุด

เดินหน้าขออาวุธพิชิตศึก

เซเลนสกียกย่องความเป็นเอกภาพของสหภาพยุโรป พร้อมย้ำว่า “หากยูเครนได้รับอาวุธพิสัยไกล อาวุธหนัก และเครื่องบินที่ทันสมัย เร็วขึ้นเท่าไหร่ การรุกรานของรัสเซียจะยุติลงเร็วขึ้นเท่านั้น"

ก่อนหน้าการเดินทางเยือนกรุงบรัสเซลส์ ปธน.เซเลนสกี ได้เยือนรัฐสภาสหราชอาณาจักร และเน้นขอเครื่องบินขับไล่จากอังกฤษเช่นกัน "อิสรภาพจะชนะ เรารู้ว่ารัสเซียจะพ่ายแพ้"

อย่างไรก็ตาม นายริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เขายังไม่ได้ตัดเรื่องใดออกจากการพิจารณา ทำให้มีการวิเคราะห์ว่า อังกฤษอาจจะเป็นชาติแรกที่ส่งเครื่องบินรบให้ความสนับสนุนยูเครนก็เป็นได้

เซเลนสกี (กลาง) พบกับนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (ซ้าย) และชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป (ขวา)

นอกจากนี้ เซเลนสกียังได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ที่พระราชวังบักกิงแฮม ในระหว่างการเยือนอังกฤษ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังกรุงปารีส เพื่อพบกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง แห่งฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ แห่งเยอรมนี

ด้านนางโรแบร์ตา เมตโซลา ประธานรัฐสภายุโรป เปิดเผยว่า เธอเองสนับสนุนคำร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมของผู้นำยูเครน โดยระบุว่า อียูรับรู้เกี่ยวกับการเสียสละต่าง ๆ ของประชาชนชาวยูเครนที่ทำเพื่อยุโรป นั่นเป็นสิ่งที่น่านับถือทั้งด้วยคำพูดและการกระทำ ซึ่งอาจหมายรวมถึงการสนับสนุนยูเครนด้วยเครื่องบินขับไล่ที่จะนำไปใช้ปกป้องเสรีภาพของชาวยูเครน

เมตโซลายังเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอียูเริ่มลงมือดำเนินการในเรื่องนี้โดยเร็วเพื่อชัยชนะของยูเครน “เวลานี้ ประเทศสมาชิกอียูต้องพิจารณาอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับก้าวต่อไปในการจัดส่งระบบ(อาวุธ) พิสัยไกลและเครื่องบินขับไล่ที่ยูเครนต้องการสำหรับปกป้องเสรีภาพของประชาชน

นับตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนเมื่อเดือน ก.พ.ปี 2565 ประเทศสมาชิกอียูได้จัดส่งความช่วยเหลือและการสนับสนุนทางทหารให้กรุงเคียฟรวมกันเป็นมูลค่าราว 53,600 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.79 ล้านบาท และดำเนินมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัฐบาลรัสเซียไปแล้วถึง 9 ครั้ง

ประธานรัฐสภายุโรปกล่าวย้ำว่า อียูพร้อมช่วยยูเครนเสมอ “เราอยู่เคียงข้างคุณมาแล้ว เราอยู่กับคุณในเวลานี้ และเราจะอยู่กับคุณตราบนานเท่านาน”

ให้คำมั่นสนับสนุนทางการทหารเพิ่มเติม

โจเซพ บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู ยืนยันเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า สหภาพยุโรปมีแผนจะนำส่งความช่วยเหลือทางการทหารเพิ่มเติมให้กับยูเครน

ในสัปดาห์นี้ ปธน.เซเลนสกีกำลังอยู่ในช่วงการเดินทางเยือน 3 ประเทศในยุโรปเพื่อร้องขอแรงหนุนจากประเทศพันธมิตร ขณะที่วันครบรอบ 1 ปีการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียกำลังใกล้จะมาถึง เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า รัสเซียน่าจะทำการโจมตีระลอกใหม่ทางภาคตะวันออกของประเทศช่วงใกล้ ๆ วันครบรอบปีในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้

รัสเซียลั่น ชาติไหนช่วยยูเครน ระวังเจอโต้กลับ

ความเคลื่อนไหวของผู้นำยูเครนและบรรดาชาติพันธมิตรในยุโรปครั้งนี้ ฝ่ายรัสเซียได้เฝ้าติดตามมาโดยตลอด นายดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางตรวจสอบโรงงานอาวุธในไซบีเรีย ได้ประกาศกร้าวว่า รัสเซียจะตอบโต้ความช่วยเหลือของชาติตะวันตกด้วยการส่งรถถังอีกหลายพันคันเข้าสู่สนามรบ

“ศัตรูของเราวิงวอนขอเครื่องบิน ขีปนาวุธ และรถถังระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนรัสเซียจะเร่งผลิตอาวุธและยุทโธปกรณ์ทางการทหาร ซึ่งรวมถึงรถถังที่ทันสมัย เราพูดถึงการผลิตและปรับแต่งรถถังหลายพันคันให้ทันสมัย” เมดเวเดฟขู่

รถถังรัสเซียในยูเครน

 

ในส่วนของสถานการณ์การรบนั้น สื่อต่างประเทศรายงานว่า กองกำลังรัสเซียและยูเครนยังคงเดินหน้ายิงโจมตีกันในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน โดยรัสเซียได้ยิงปืนใหญ่เข้าใส่ที่แนวหน้าของการรบในเขตปกครองคาร์คิฟอย่างหนัก และ โอเลห์ ไซเนียฮูบอฟ ผู้ว่าการท้องถิ่นเปิดเผยว่า การโจมตีล่าสุดที่เมืองวอฟชานสก์ ซึ่งตั้งอยู่ที่พรมแดนยูเครน-รัสเซีย ส่งผลให้สตรีวัย 74 ปีรายหนึ่งเสียชีวิต และเด็กสาววัย 16 ปีอีกรายได้รับบาดเจ็บ

พาฟโล ไคไรเลนโก ผู้ว่าการเขตปกครองดอแนตสก์ เปิดเผยด้วยว่า รัสเซียกำลังขยายแนวรบในเขตปกครองนี้อย่างดุเดือด และยิงโจมตีเป้าหมายหลายจุด รวมทั้งโรงเรียนอนุบาล โรงพยาบาล ศูนย์วัฒนธรรม โรงงานและอาคารที่พักอาศัยจำนวนมาก เช่นเดียวกับที่เขตปกครองลูฮันสก์ ที่ผู้ว่าฯ เซอร์ฮีย์ ฮายดาย เปิดเผยว่า กองกำลังรัสเซียได้ยกระดับการโจมตีด้วยปฏิบัติการ “เชิงรุกเป็นวงกว้าง” แล้ว