ระอุ “ปูติน” ประกาศระดมกำลังพลรัสเซีย ยกระดับทำสงครามรอบใหม่กับยูเครน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจของรัสเซีย ประกาศระดมกำลังพลบางส่วนในรัสเซีย และจะใช้ทุกวิถีทางในการปกป้องรัสเซีย พร้อมผนวกทุกดินแดนที่ทหารรัสเซียยึดครองสำเร็จ 

โดยคำประกาศดังกล่าวถือเป็นการยกระดับการทำสงครามกับยูเครน ขณะที่ปฏิบัติการรุกรานยูเครนล่วงเข้าสู่เดือนที่ 7 ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ปธน.ปูตินระบุว่า เป็นขั้นตอนจำเป็นเร่งด่วน เพื่อปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และบูรณภาพดินแดนของรัสเซีย

ขณะเดียวกันยังยอมรับว่า รัสเซีย กำลังต่อสู้กับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) โดยสหรัฐและพันธมิตรกำลังพยายามที่จะทำลาย รัสเซีย ขณะที่ ชาติตะวันตกพยายามที่จะเปลี่ยนชาวยูเครนให้กลายเป็นนักรบ พร้อมย้ำว่า ชาติตะวันตกเป็นฝ่ายเริ่มต้นทำสงครามตัวแทนกับรัสเซีย

สำหรับการระดมกำลังพล ครั้งนี้ ประธานาธิบดี ปูติน ประกาศว่า จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใดเพิ่มเติม โดยการระดมกำลังพลบางส่วนเป็นแนวคิดที่ไม่ชัดเจน แต่ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการทำสงครามของรัสเซีย 

โดยจนถึงขณะนี้รัสเซียยังไม่ได้ประกาศทำสงครามต่อยูเครน และเรียกการโจมตียูเครนว่า ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร แต่การระดมกำลังพลบางส่วนอาจหมายความว่า ธุรกิจและพลเมืองรัสเซียต้องให้การช่วยเหลือเรื่องการทำสงครามมากขึ้น

สำหรับความเห็นของประธานาธิบดี ปูติน มีขึ้นในขณะที่ใกล้เข้าฤดูหนาว โดยยูเครนเป็นฝ่ายคว้าความได้เปรียบ หลังจากยูเครนได้เปิดปฏิบัติการรุกตอบโต้แบบฟ้าผ่าในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและใต้ของยูเครน เพื่อยึดคืนดินแดนที่สูญเสียไป ภายหลังจากที่รัสเซียเปิดฉากยกพลบุกโจมตียูเครนตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า มีกระแสข่าวว่า ผู้นำรัสเซีย อาจประกาศระดมกำลังพลทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเต็มรูปแบบ หรือเพียงบางส่วนตั้งแต่วันอังคารที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนเตรียมความพร้อมสำหรับทำสงครามและเปิดทางไปสู่การเกณฑ์ทหารในกลุ่มชายวัยฉกรรจ์ชาวรัสเซีย 

หลังเจ้าหน้าที่รัสเซียในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียในยูเครนนั้น ประกาศแผนทำประชามติทันที เพื่อผนวกเข้ากับรัสเซีย โดยการทำประชามติดังกล่าวมีกำหนดจัดขึ้นในแคว้นโดเนสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และซาปอริซเซียในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าประชาชนส่วนใหญ่จะมีมติสนับสนุนการผนวกรวมเข้ากับรัสเซียในครั้งนี้