ย้อนเส้นทางการเมือง“ชินโซ อาเบะ"อดีตนายกฯญี่ปุ่น นานสุดในประวัติศาสตร์

08 ก.ค. 2565 | 12:10 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.ค. 2565 | 19:19 น.
3.1 k

ย้อนรอยเส้นทางการเมือง “ชินโซ อาเบะ" อดีตนายกฯ ญี่ปุ่น นานที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังถูกลอบยิง ระหว่างกล่าวหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา

สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนทั่วโลก หลังนาย “ชินโซ อาเบะ” อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ถูกยิงเข้าที่หน้าอกจากด้านหลัง ระหว่างกล่าวหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ใกล้สถานีรถไฟยะมะโตะ-ซะไดจิ ในเมืองนารา จ.นารา เมื่อเวลา 09.30 น. ตามเวลาไทย

ย้อนเส้นทางการเมือง“ชินโซ อาเบะ\"อดีตนายกฯญี่ปุ่น นานสุดในประวัติศาสตร์

ย้อนเส้นทางการเมือง“ชินโซ อาเบะ\"อดีตนายกฯญี่ปุ่น นานสุดในประวัติศาสตร์

อย่างที่ทราบกันดี ชินโซ อาเบะ ถือเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำประเทศที่ดำเนินนโยบายกลาโหมและการต่างประเทศอย่างดุดัน และยุทธศาสตร์กระตุ้นเศรษฐกิจที่ถูกเรียกขานว่าเป็น "อาเบะโนมิกส์" (Abenomics) 

 

ซึ่งหมายถึง นโยบายทางเศรษฐกิจที่ดำเนินการโดยรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งนำโดยพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนธันวาคม 2555 พวกเขาได้รับการตั้งชื่อตาม ชินโซ อาเบะ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสมัยที่สองตั้งแต่ปี 2555 ถึงปี 2563 

ประวัติ ชินโซ อาเบะ  

  • ชินโซ อาเบะ  เกิด 21 กันยายน พ.ศ. 2497 เป็นนักการเมืองชาวญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนที่ 57 และหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ตั้งแต่ปี 2555 ถึง 2563
  • ระหว่างปี 2549 ถึง 2550 เป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีระหว่างปี 2548 ถึง 2549 นับเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ครองตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
  • อาเบะเกิดที่เมืองนางาโตะ จังหวัดยามางูจิ ศึกษาด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซเกะ และศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ในสหรัฐอเมริกา
  • ภายหลังจบการศึกษา ได้ทำงานกับบริษัทโคเบะสตีล
  • ได้ลาออกในปี 2525 เพื่อเข้ามาเล่นการเมือง

 

ชีวิตส่วนตัว

สมรสกับนางยูกิเอะ มัทสึซากิ อดีตนักจัดการวิทยุ เป็นลูกสาวของประธานบริษัทผู้ผลิตขนมหวานชื่อดัง เเละจากการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากไม่สำเร็จ ทำให้ทั้งคู่ไม่มีบุตรร่วมกัน

 

ย้อนเส้นทางการเมือง“ชินโซ อาเบะ\"อดีตนายกฯญี่ปุ่น นานสุดในประวัติศาสตร์

เส้นทางการเมือง

  • เริ่มต้นด้วยการเข้าสังกัดพรรค LDP ตามรอยครอบครัวของอาเบะ ซึ่งเป็นครอบครัวนักการเมือง โดยปู่ คัง อาเบะ และ พ่อ ชินตาโร อาเบะ ทั้งคู่เป็นนักการเมือง
  • งานแรก เป็นเลขาประจำตัวของ นายชินทาโร่ อาเบะ ผู็เป็นพ่อ ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น
  • ในปี 1993 นายอาเบะได้ที่นั่งสภาล่างเป็นครั้งแรก ดำรงตำแหน่งสำคัญในหลายๆ รัฐบาล
  • เขาได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นต่อจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะหลังจากที่เกาหลีเหนือได้ออกมายอมรับว่ามีการลักพาตัวชาวญี่ปุ่น 13 คนในช่วงปี 1970-1980
  • ในปี 2005 อาเบะ รับตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของ นายจุนอิจิโร่ โคอิซุมิ  
  • เพียง 1 ปีต่อมา อาเบะก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุด(หลังจากสงครามโลกครั้งที่2)ในประวัติศาสตร์การเมืองญี่ปุ่น ควบตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP แทนที่นายจุนอิจิโร่ ซึ่งถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง

 

สมัยแรก

นายอาเบะถือเป็นนักการเมืองในฝั่งอนุรักษ์นิยม มีการดำเนินนโยบายการต่างประเทศและกลาโหมแบบแข็งกร้าว พยายามที่จะกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และให้การสนับสนุนสหประชาชาติ (UN) ในการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือที่ดำเนินการทดลองนิวเคลียร์ ด้วยการห้ามไม่ให้เรือจากเกาหลีเหนือทั้งหมดผ่านน่านน้ำญี่ปุ่น

 

รวมไปถึงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศ โดยเฉพาะมาตรา 9 ที่ห้ามญี่ปุ่นมีกองทัพเพื่อจุดประสงค์อื่นนอกเหนือไปจากการป้องกันตนเอง จึงทำให้กองทัพญี่ปุ่น (จิเอไต) ในขณะนี้สามารถทำได้เพียงตั้งรับ แต่ไม่สามารถบุกประเทศอื่น ตามหลักสิทธิการป้องกันตนเอง (Right of Self -Defense) ได้

 

นโยบายภายในประเทศ เขาได้ให้สัญญาว่าจะยกระดับระบบบำนาญและประกันสุขภาพของญี่ปุ่นให้ดียิ่งขึ้น แต่ก็ดันมีข่าวอื้อฉาวเกิดขึ้นว่ารัฐบาลทำเอกสารเบี้ยบำนาญสูญหาย ทำให้ผู้รับบำนาญกว่า 50 ล้านรายได้รับผลกระทบ

 

นายอาเบะต้องประกาศลาออกในเดือนกันยายน ปี 2007 แต่ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะปัญหาเรื่องสุขภาพจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น พรรค LDP สูญเสียเสียงข้างมากในการเลือกตั้งสภาสูงให้กับพรรคฝ่ายค้านอย่าง DPJ 

ย้อนเส้นทางการเมือง“ชินโซ อาเบะ\"อดีตนายกฯญี่ปุ่น นานสุดในประวัติศาสตร์

 

การกลับมาของอาเบะกับนโยบาย Abenomics

แม้ว่าจะลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี แต่อาเบะยังมีตำแหน่งในสภาล่าง ปี 2012 ได้รับเลือกให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค LDP อีกครั้ง พ่วงด้วยตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสมัยที่ 2

 

ในด้านเศรษฐกิจ ได้ริเริ่มนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Abemomics โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ตกต่ำมายาวนาน และเร่งฟื้นฟูพื้นที่ทางภาคอีสาน ที่ได้รับผลกระทบจากสึนามึในปี 2011

 

ยังดำเนินมาตรการผ่อนปรนทางการเงิน เพิ่มอัตราเงินเฟ้อเพื่อทำให้ค่าเงินเยนลดลงเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าห์และเงินสกุลต่างประเทศอื่นๆ กระตุ้นและปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ในช่วงเเรกเศรษฐกิจดีขึ้น แต่เติบโตช้าในเวลาต่อมา 

 

เดินหน้าปฏิรูปรัฐธรรมนูญ โตเกียวโอลิมปิก และโควิด-19

เรียกว่าเป็นสมัยที่หนักหน่วงที่สุดของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอาเบะเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 9 เพื่อให้ญี่ปุ่นมีสามารถมีกองทัพของตัวเองหลังจากที่ถกเถียงกันมานาน  ความพยายามเฮือกสุดท้ายของอาเบะก็คือ เรียกความเชื่อมั่นของต่างชาติต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นกลับคืนมา ซึ่งแผนการนั้นก็คือการจัดโตเกียวโอลิมปิก 2020 เเต่เมื่อโควิด-19 เริ่มระบาด สุดท้ายก็ยกเลิกการจัดโตเกียวโอลิมปิก 2020 ไป ทำให้ทางการญี่ปุ่นขาดทุนมหาศาล

 

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2020 อาเบะได้ประกาศลาออกหลังจากทุบสถิติในการดำรงตำแหน่งนายกที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์มาได้เพียง 4 วันเท่านั้นด้วยอาการป่วยลำไส้อักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกันที่ทำให้เขาลาออกตอนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรกเมื่อปี 2007

 

ข้อมูลอ้างอิง : วิกิพีเดีย