โลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ "ฤดูกาลภูมิแพ้" ยาวนานมากขึ้น

23 เม.ย. 2565 | 17:00 น.
อัปเดตล่าสุด :23 เม.ย. 2565 | 23:27 น.
1.9 k

นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดละอองเกสรมากขึ้น และทำให้ฤดูกาลภูมิแพ้ยาวนานขึ้น

การศึกษาล่าสุดในสหรัฐอเมริกาพบว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผิดธรรมชาติ จะส่งผลให้เกิด ปัจจัยก่อภูมิแพ้ อย่าง ละอองเกสร มากขึ้น อีกทั้งยังจะทำให้ ฤดูกาลภูมิแพ้ ยาวนานขึ้นอีกด้วย ทำให้ผู้ที่มีภาวะแพ้ละอองเกสรและผู้ที่มีภาวะภูมิแพ้อาจต้องเตรียมรับมือกันให้ดี 

 

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้ยืนยันว่า ฤดูกาลของโรคภูมิแพ้กำลังแย่ลงและกินเวลายาวนานมากขึ้น เหมือนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผิดธรรมชาติ ยังทำให้ต้นไม้และพืชต่างๆ เริ่มต้นผลิตละอองเกสรได้เร็วขึ้นและมากขึ้น อีกทั้งยังมีทีท่าว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ อีกด้วย

 

คณะนักวิจัยจากมิชิแกนกล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า ฤดูกาลภูมิแพ้ในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มต้นประมาณกลางเดือนมีนาคม แต่ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศซึ่งมีอากาศอบอุ่น จะเริ่มต้นฤดูกาลภูมิแพ้ก่อนหน้านั้นประมาณหนึ่งเดือน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผิดธรรมชาติ จะส่งผลให้เกิดปัจจัยก่อภูมิแพ้อย่างละอองเกสรมากขึ้น

หากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศผิดธรรมชาติยังคงดำเนินต่อไปตามระดับในปัจจุบัน ฤดูกาลภูมิแพ้อาจจะเริ่มต้นขึ้นประมาณวันที่ 1 มกราคมภายในปี ค.ศ. 2100 (พ.ศ. 2643) แต่ในทางกลับกัน หากทั่วโลกสามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกลงได้ อาการภูมิแพ้ต่างๆ ก็อาจจะเริ่มขึ้นตอนใกล้สิ้นเดือนมกราคม

 

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ราว 30% ของผู้คนทั่วโลกมีอาการแพ้ละอองเกสร ในขณะที่มีสัดส่วนของเด็กในอเมริกา มีอาการแพ้ละอองเกสร อยู่ที่ประมาณ 40%

 

นายหยิงเฉี่ยว จาง หัวหน้าการศึกษานี้ ซึ่งเพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications กล่าวว่า การจามและอาการน้ำมูกไหลที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ ส่งผลให้ผู้คนต้องหยุดงานและใช้เงินไปกับการรักษาพยาบาลมากขึ้น ซึ่งการขาดงานดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกด้วย นอกจากนี้ ยังมีชาวอเมริกันอีกประมาณ 25 ล้านคนที่เป็นโรคหอบหืด ซึ่งอาจทำให้มีอาการหายใจลำบาก และฤดูกาลภูมิแพ้จะส่งผลกระทบต่อคนกลุ่มนี้มากเป็นพิเศษ

สัดส่วนของเด็กในอเมริกา มีอาการแพ้ละอองเกสร อยู่ที่ประมาณ 40%

อาเมียร์ แซพโคตา ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษาของมหาวิทยาลัยมิชิแกนกล่าวว่า ฤดูกาลภูมิแพ้ที่ยาวนานขึ้นในอนาคตอาจทำให้เกิดปัญหามากมายตามมา

ด้านแอลิสัน สไตเนอร์ ซึ่งกำลังศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้กล่าวว่า ประชากรที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐจะประสบปัญหาในเรื่องนี้มากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้น นอกจากนี้ ผู้ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐจะเห็นละอองเกสรของต้นออลเดอร์ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมมาก ส่วนผู้คนในรัฐเท็กซัสที่มีความอ่อนไหวต่อละอองเกสรของต้นไซเปรสก็จะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นเดียวกัน

 

ส่วนคนอื่นๆ ที่มีอาการตอบสนองต่อละอองเกสรจากหญ้าบางชนิดจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

 

บิล แอนเดอเร็ก นักชีววิทยาและนักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศ ที่มหาวิทยาลัยยูทาห์(ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษาของม.มิชิแกน) กล่าวว่า การศึกษาครั้งใหม่ระบุว่า ละอองเกสรที่เพิ่มขึ้นครั้งต่อไปจะมีจำนวนมากขึ้นเป็นสองเท่าจากที่เคยเพิ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1990 และว่าการศึกษาครั้งนี้ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนมีความสำคัญ เพราะปริมาณละอองเกสรที่เพิ่มมากขึ้นนั้น จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงตามมา