นักวิชาการ ชี้วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน หากยืดเยื้อเสี่ยงเกิดเศรษฐกิจถดถอย

04 มี.ค. 2565 | 16:54 น.
อัปเดตล่าสุด :05 มี.ค. 2565 | 00:00 น.

นักวิชาการ ระบุสถานการณ์วิกฤตรัสเซียและยูเครน หากยังคงยืดเยื้อต่อไป อาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยได้ รับตอนนี้ปูติน ไม่มีถอย กำลังถือไพ่เหนือกว่ามาก

รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง เปิดเผยถึงสถานการณ์วิกฤตรัสเซียและยูเครนว่า ขณะนี้รัสเซียกำลังเป็นต่อ และถือไพ่เหนือกว่ายูเครนมากขึ้น หลังจากนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เริ่มออกมาระบุว่า แม้สถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยืดเยื้อ แต่ก็ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด 

 

ทั้งนี้ถ้ามองในแง่กองกำลัง ล่าสุดได้มีการยึดเมืองทางตอนใต้ คือ เมืองเคอร์สันได้แล้ว ซึ่งติดกับทะเลดำ ทำให้ยูเครนส่งเสบียงต่าง ๆ ได้ลำบาก ขณะเดียวกันยังต้องจับตาเมืองท่าโอเดสซาของยูเครน หากรัสเซียสามารถบุกยึดได้จะทำให้ยูเครนเสียเปรียบอย่างมาก 

 

“หากเมืองโอเดสซาถูกยึดได้แล้วหมายความว่า รัสเซียจะบุกยึดทางตอนใต้ของยูเครนได้ทั้งหมด ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้เป้นพื้นที่สำคัญของยูเครนในการส่งสินค้าที่เป็นรายได้หลัก”

 

อีกเรื่องคือต้องจับตาด้วยว่ารัสเซียจะมีการเปลี่ยนเป้าหมายการสู้รบจากเป้าหมายกองกำลังทางทหารมาเป็นกองกำลังพลเรือนมากขึ้นหรือไม่ รวมไปถึงการใช้ยุทธวิธีเหมือนกับที่ทำในซีเรีย คือพยายามบีบประชาชนในแต่ละเมืองเข้าสู่ส่วนกลาง เพื่อตัดเสบียง และทำการโอบล้อม

รศ.ดร.สมชาย กล่าวว่า จะเห็นได้ชัดว่าในการเจรจาทางการทูตครั้งที่ 2 ไม่ได้มีความก้าวหน้าอะไร เพราะตอนนี้รัสเซียมีไพ่เหนือกว่า แม้ว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหากมีความยืดเยื้อก็อาจส่งผลกระทบในทางลบกับรัสเซีย โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ

 

แต่ประธานาธิบดีรัสเซียยืนยันว่า เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องรอง และไม่สนใจแรงกดดัน เพราะรัสเซียจะแพ้ไม่ได้ มิฉะนั้นสถานภาพความเป็นผู้นำจะถูกกระทบอย่างหนักทันที

 

อย่างไรก็ตามในส่วนของผลกระทบต่อเศรษฐกิจยุโรปต่อจากนี้ ในกรณีที่สถานการณ์ยืดเยื้อ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงแน่นอน และถ้าแนวโน้มราคาน้ำมันยืนอยู่ในระดับ 130 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ก็อาจนำมาสู่ปัญหาเงินเฟ้อ ราคาอาหารสัตว์เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวสาลี และข้าวบาร์เล่ย์ ซึ่งรัสเซียและยูเครนมีสัดส่วนการส่งออกในตลอดโลกสูงถึง 30% 

“ตามสมุติฐานหากสถานการณ์ยืดเยื้อ ราคาน้ำมัน 130 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล จะเกิดปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจถดถอย หรือ รีเซสชั่นขึ้น เพราะจีดีพีติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาส แต่ตอนนี้มองในแง่ดีว่า อาจยังไม่ไปถึงขนาดนั้น หากสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อเกินไป แต่ที่แน่ ๆ จีดีพี และการค้าโลกอาจชะลอตัวจากที่คาดการณ์ไว้เดิมแน่นอน”

 

ส่วนกรณีการยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) นั้น มองว่า กรณีนี้อาจไม่ถึงขั้นกับเป็นวิกฤตสงครามนิวเคลียร์ เพราะโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะมีระบบความปลอดภัยสูง เพื่อปกป้องการโจมตี