ราคาหุ้นเฟซบุ๊ก หรือปัจจุบันชื่อ “เมทา แพลตฟอร์มส์” (Meta Platforms) ดิ่งลงรุนแรงถึง 22.79% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้ (3 ม.ค.) ตามเวลาไทย หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรที่ต่ำกว่าคาด และจำนวนผู้ใช้งานที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนแอลงด้วย
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กเปิดเผย กำไรต่อหุ้น ในไตรมาส 4/2564 ที่ระดับ 3.67 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ของ Refinitiv คาดการณ์ว่าน่าจะอยู่ที่ 3.84 ดอลลาร์
ส่วน รายได้ อยู่ที่ 33,670 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 33,400 ล้านดอลลาร์
สำหรับ ยอดผู้ใช้งานรายวันของเฟซบุ๊ก อยู่ที่ 1.93 ล้านราย ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.95 ล้านราย ขณะที่ยอดผู้ใช้งานรายเดือนอยู่ที่ 2.91 ล้านราย ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.95 ล้านราย ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งาน (ARPU) อยู่ที่ระดับ 11.57 ดอลลาร์ ยังดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 11.38 ดอลลาร์
เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ยอดผู้ใช้งานรายวันในไตรมาส 4/2564 ชะลอตัวลงจากไตรมาส 3 และนับเป็นครั้งแรกที่ยอดผู้ใช้งานรายวันของเฟซบุ๊กปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ เฟซบุ๊กคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 1 ปีนี้ (2565) จะอยู่ที่ 27,000- 29,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ของ Refinitiv คาดการณ์ไว้ที่ 30,150 ล้านดอลลาร์ หมายความว่า อัตราการเติบโตของรายได้ของเฟซบุ๊กในไตรมาสดังกล่าวจะอยู่ที่ 3% - 11% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 15%
แถลงการณ์ของเฟซบุ๊กระบุว่า ผลประกอบการของบริษัทได้รับผลกระทบจากหลากหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งรวมถึงปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และการที่บริษัทแอปเปิล อิงค์ เปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวด้วยการอัปเดตระบบปฏิบัติการบน iPhone เป็น iOS 14.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ด้านโฆษณาของเฟซบุ๊ก
ทั้งนี้ แอปเปิลเปิดตัวซอฟต์แวร์ iOS 14.5 เมื่อปีที่แล้ว (2564) โดยกำหนดให้ผู้ใช้งานต้องให้ความยินยอมก่อนที่แอปพลิเคชันต่าง ๆ จะสามารถติดตามข้อมูลของผู้ใช้งานในบริการและเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อเป้าหมายด้านการโฆษณา
เฟซบุ๊กและบริษัทอื่น ๆ ที่ต้องพึ่งพาการโฆษณาบนแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างก็กังวลว่า อาจจะมีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ไม่อนุญาตให้ติดตามข้อมูล ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็จะส่งผลกระทบต่อรายได้ด้านโฆษณาของแอปพลิเคชันเหล่านี้
ไม่เพียงเท่านั้น แผนการให้ บริการธุรกรรมคริปโต ภายใต้ชื่อ เงินสกุล “เดียม” (Diem) ที่เฟซบุ๊กริเริ่มขึ้นมาเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน ก็มีอันต้องพับแผนไปแล้วอย่างเป็นทางการ โดยสมาคมเดียมที่เฟซบุ๊กและพันธมิตรร่วมกันก่อตั้งขึ้นมา ได้ขายสินทรัพย์รวมทั้งทรัพย์สินทางปัญญาเกี่ยวกับโครงการนี้ให้ "ซิลเวอร์เกต" ซึ่งเป็นพันธมิตรรายหนึ่งไปแล้ว
โดยสมาคมเดียมร่วมกับบริษัทซิลเวอร์เกต แคปิตอล คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ (31 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐว่า ซิลเวอร์เกตจะซื้อทรัพย์สินทางปัญญาและสินทรัพย์อื่น ๆ ของเครือข่ายเดียม เพย์เมนต์ โดยสินทรัพย์ดังกล่าวครอบคลุมถึงการพัฒนา การปรับใช้ และการดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐาน และเครื่องมือสำหรับการดำเนินเครือข่ายการชำระเงินแบบบล็อกเชนด้วย
ทั้งนี้ โครงการ"เดียม" (Diem) หรือชื่อเดิมว่าลิบรา (Libra) ประกาศเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2562 ได้เผชิญกับการต่อต้านจากหน่วยงานกำกับดูแล และฝ่ายนิติบัญญัติมาโดยตลอด โดยหน่วยงานกำกับดูแลแสดงความกังวลถึงเจตนารมณ์ของโครงการนี้ที่มีสเตเบิลคอยน์ผูกโยงอยู่กับบริษัทเฟซบุ๊ก (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น "เมทา แพลตฟอร์มส์") ขณะที่สภาคองเกรสได้เชิญตัวนายเดวิด มาร์คัส ผู้ร่วมสร้างโครงการเดียม และนายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊ก เข้าให้การเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวด้วย
นายสจวร์ต ลีวีย์ ซีอีโอของบริษัทเดียม เน็ตเวิร์กส์ ยูเอส ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับว่า เห็นได้ชัดจากการเจรจากับหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลางว่า โครงการนี้ไม่สามารถไปต่อได้ ดังนั้น หนทางที่ดีที่สุดต่อจากนี้คือการขายสินทรัพย์ของเดียมฯ ให้กับผู้ที่สนใจซื้ออย่างซิลเวอร์เกตนั่นเอง