ไฟเซอร์จ่อหารือกับสธ.สหรัฐเร่งกระบวนการอนุมัติ "วัคซีนเข็ม3"

บริษัทไฟเซอร์ ผู้ผลิต วัคซีนป้องกันโควิด-19 ประกาศวานนี้ (11 ก.ค.) ว่า บริษัทเตรียมจัดการประชุมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐอย่างเร็วที่สุดภายในวันจันทร์ (12 ก.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับความจำเป็นของ การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 หรือ booster shot เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยบริษัทได้แสดงความต้องการการอนุมัติจากหน่วยงานที่กำกับดูแล

ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ สื่อใหญ่ของสหรัฐรายงานว่า ไฟเซอร์มีกำหนดการเข้าพบตัวแทนของคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ซึ่งตรงกับที่ตัวแทนของไฟเซอร์เปิดเผยวานนี้ อย่างไรก็ดี วอชิงตัน โพสต์ยังรายงานว่า การประชุมดังกล่าวอาจต้องเลื่อนกำหนดการไปเป็นวันอื่น

การจัดการประชุมครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากบริษัทไฟเซอร์และบริษัทบิออนเทคซึ่งเป็นหุ้นส่วน ประกาศแผนขอการอนุมัติจากหน่วยด้านกำกับดูแลของสหรัฐและยุโรปสำหรับ “การฉีดวัคซีนโดสที่3” ของบริษัท ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ และข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอาจมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือนหลังจากการฉีดวัคซีนครั้งแรก

สำหรับรายชื่อของผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้มีทั้งผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) และนายแพทย์แอนโทนี ฟอซี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวและผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID)

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของไฟเซอร์ในการออกมาประกาศดังกล่าวได้ทำให้ทั้ง FDA และ CDC ออกมาประกาศทันควันว่า ประชาชนในสหรัฐยัง “ไม่จำเป็น” ต้องได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิ หรือวัคซีนเข็มที่3 ในตอนนี้ ขณะที่กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐยังไม่ได้มีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด 

ด้านนายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวหลายแห่ง ระบุว่า หน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐไม่ได้ปฏิเสธว่า อาจจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อเกิดกรณีการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่หน่วยงานต่างๆ ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนจะออกมาให้คำแนะนำอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ได้

นายแพทย์ฟอซี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ขณะนี้มีการวิจัยมากมายเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน ว่าควรจะมีการฉีดหรือไม่ และควรมีการฉีดเมื่อใด “กำลังมีการตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้อย่างละเอียดในขณะที่เราหารือเรื่องนี้กันอยู่"