“ไบเดน” ชวนคนอเมริกันเร่งฉีดวัคซีนโควิด ย้ำ "ยิ่งฉีดครบโดสไว ก็ใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น"

28 เม.ย. 2564 | 02:35 น.
อัปเดตล่าสุด :28 เม.ย. 2564 | 13:50 น.

สหรัฐเริ่มผ่อนผันมาตรการสวมหน้ากากออกนอกบ้าน หลังระดมฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกแล้วครึ่งประเทศ

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ CDC เปิดเผยว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่นการเดินเล่น หรือเดินป่าได้อย่างปลอดภัยโดย ไม่ต้องสวมหน้ากากแล้ว แต่ยังบังคับใช้มาตรการสวมหน้ากากในที่สาธารณะโดยทั่วไปอยู่ สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนยังไม่ครบโดส

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การผ่อนคลายมาตรการสวมหน้ากากของ CDC ดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่ชาวอเมริกันกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 โดส และราว 1 ใน 3 ของชาวอเมริกันในวัยผู้ใหญ่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ซึ่งทาง CDC มองว่ามาตรการใหม่ที่ผ่อนคลายนี้เป็นเพียงก้าวแรกในการช่วยให้ชาวอเมริกันที่ได้รับวัคซีนครบโดส สามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆได้ตามปกติ หลังจากที่ต้องหยุดไปในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ของโควิด-19

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน

ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กล่าวเมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) ระบุว่า มาตรการล่าสุดของ CDC เป็นผลโดยตรงจากขั้นตอนต่างๆที่สหรัฐนำมาใช้สกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 และว่า สหรัฐมีความก้าวหน้ามาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะชาวอเมริกันทุกคน จากที่ยอดติดเชื้อโควิด-19 ในอเมริกาลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ยอดเสียชีวิตของผู้สูงอายุจากโควิด-19 ปรับลดลงถึง 80% จากการแจกจ่ายวัคซีนที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

ผู้นำสหรัฐย้ำในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวถึง “ความสำคัญ” ในการเข้ารับวัคซีนโควิดว่า ยิ่งชาวอเมริกันได้รับวัคซีนมากขึ้นเท่าใด อเมริกาก็ขยับเข้าใกล้ “ความเป็นปกติ” ได้เร็วขึ้นเท่านั้น ​

“ถ้าคุณฉีดวัคซีนครบโดสเรียบร้อยแล้ว คุณก็จะสามารถทำอะไร ๆได้มากขึ้น ปลอดภัยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในอาคารหรือกลางแจ้ง” ปธน.โจ ไบเดน กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังควรใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในที่ที่มีฝูงชนจำนวนมากหรืออยู่ในที่จัดงานหรือสนามกีฬา  

ทั้งนี้ มาตรการสวมหน้ากาก ถือเป็นหนึ่งมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก แต่จากการพบว่า ผู้ติดเชื้อโควิดส่วนมากเกิดขึ้นในพื้นที่อากาศปิดหรือหรือภายในอาคาร และจากการที่มีประชาชนได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ประเด็นการสวมหน้ากากเมื่ออยู่กลางแจ้งกลายเป็นข้อถกเถียงใหม่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาในสหรัฐ ท่ามกลางบริบทที่ชาวอเมริกันที่เข้ารับวัคซีนครบโดสเริ่มได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการเข้ารับวัคซีน

ไบเดนเองเป็นอเมริกันคนหนึ่งที่ได้รับวัคซีนโควิดครบ 2 เข็มแล้ว

สำหรับสถานการณ์ในสหรัฐขณะนี้  ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง 16% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (แต่ยอดเสียชีวิตจากโควิดยังคงครองอันดับหนึ่งของโลกที่กว่า 573,000 คน) โดยสหรัฐดำเนินการฉีดวัคซีนต้านโควิดเข็มแรกหรืออย่างน้อย 1 เข็มให้แก่ประชาชนจำนวนมากกว่า 140 ล้านคนแล้วทั่วประเทศ โดยวัคซีนที่ใช้เป็นของบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทค บริษัทโมเดอร์นา และบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J)

รายงานข่าวระบุว่า มาตรการใหม่ที่ผ่อนคลายมากขึ้นของ CDC ทำให้ชาวอเมริกันที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถนั่งทานอาหารร่วมโต๊ะกับเพื่อนฝูงหรือผู้คนต่างครอบครัวต่างครัวเรือน ที่ร้านซึ่งจัดโซนนั่งทานอาหารกลางแจ้ง หรือจัดงานรวมกลุ่มเล็กๆ ร่วมกับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนได้ แต่ยังคงแนะให้สวมหน้ากากและรักษาระยะห่างทางสังคม หากต้องไปทำกิจกรรมที่มีผู้คนหนาแน่น เช่น ขบวนพาเหรด การแข่งขันกีฬา การไปร้านตัดผม ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ หรือศาสนสถาน

การผ่อนคลายดังกล่าวนับเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นของการกลับคืนสู่วิถีชีวิตแบบปกติ เมื่อเทียบกับมาตรการเมื่อเดือนมีนาคม ที่ระบุให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วสามารถรวมกลุ่มพบปะกันได้ แต่ไม่ควรพบปะกับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบโดสโดยไม่ใส่หน้ากากและยังต้องรักษาระยะห่างระหว่างกัน

ทั้งนี้ CDC จัดลำดับความเสี่ยงของกิจกรรมเป็นระดับสีต่างๆ ตั้งแต่สีเขียว เหลือง และแดง ตามระดับความเสี่ยงต่อผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน โดยระบุว่า ขณะนี้ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน สามารถเดินหรือวิ่งกลางแจ้งโดยไม่ใส่หน้ากากได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งสามารถไปงานรวมกลุ่มสังสรรกับเพื่อนและครอบครัวที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว แต่พวกเขาก็จะต้องพิจารณาเองถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นหากต้องออกไปข้างนอกโดยไม่สวมใส่หน้ากาก เพราะขณะนี้ ก็ยังไม่มีข้อมูลการวิจัยมากนัก เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว ยังสามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน มากน้อยเพียงใด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง