ประธานาธิบดีอัลแบร์โต แฟร์นันเดซ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ประกาศ ไว้ทุกข์ทั่วประเทศ เป็นเวลา 3 วัน และได้อนุญาตให้มีการตั้งศพ "ดิเอโก มาราโดน่า" วีรบุรษแห่งชาติผู้นี้ที่พระราชวังคาซา โรซาดา ระหว่างวันที่ 26-28 พ.ย. เพื่อให้ประชาชนได้มาแสดงความอาลัยต่อเขาเป็นครั้งสุดท้าย
ดิเอโก อาร์มันโด มาราโดน่า (Diego Armando Maradona) อดีตนักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินา ผู้เคยเป็นกัปตันทีมชาตินำทีมฟ้า-ขาวประกาศความเกรียงไกรในศึกฟุตบอลโลกหลายครั้ง ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนตินา เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 2 นักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลเคียงคู่กับ “เปเล่” และยังได้รับการลงคะแนนทางอินเทอร์เน็ตโหวตให้คว้ารางวัล “ผู้เล่นฟีฟ่าแห่งศตวรรษ” อีกด้วย
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563 มาราโดน่าจากไปแล้วด้วยวัย 60 ปี โดยทนายความส่วนตัวของเขาระบุว่า มาราโดน่าเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายหลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนต้นเดือนพ.ย. เขาเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการลิ่มเลือดอุดตันในสมอง ปลายชีวิตของมาราโดน่าต้องเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้งจากโรคภัยที่เกี่ยวเนื่องกับอาการติดแอลกอฮอล์และน้ำหนักตัวมากเกินที่นำไปสู่โรคอื่น ๆตามมา
ปิดตำนานวีรบุรุษลูกหนัง
ดิเอโก มาราโดน่า เกิดเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 1960 (พ.ศ. 2503) ที่เมืองลานุส ประเทศอาร์เจนตินา เริ่มเล่นฟุตบอลเมื่ออายุ 8 ขวบ ประเดิมเส้นทางลูกหนังให้กับสโมสรท้องถิ่น Estrella Roja ก่อนจะถูกเรียกให้มาติดสโมสรเยาวชนของ Argentinos Juniors มาราโดน่าเริ่มเล่นฟุตบอลในระดับอาชีพด้วยวัย 15 ปี และกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีกฟุตบอลปริเมราดิบิซิออนของอาร์เจนตินา ต่อมาเขาย้ายไปร่วมสโมสรโบกายูนิออร์ส ในปี ค.ศ. 1982
เขาย้ายไปอยู่สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาในประเทศสเปนด้วยค่าตัว 7.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในขณะนั้น แต่ด้วยอาการบาดเจ็บและปัญหาหลายอย่างทำให้มาราโดน่าย้ายไปอยู่สโมสรนาโปลีในอิตาลี ที่ซึ่งเขาได้รับตำแหน่งกัปตันทีมและพาสโมสรสร้างสถิติใหม่ ๆ หลังจากนั้นมาราโดน่าย้ายไปอยู่สโมสรฟุตบอลเซบิยา นีเวลส์โอลด์บอยส์ และกลับมาอยู่สโมสรโบกายูนิออร์สก่อนจะเลิกเล่นฟุตบอลในปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540)
ในด้านการรับใช้ทีมชาติฟ้า-ขาว มาราโดน่าติดทีมชาติในปี ค.ศ. 1977 และนำทีมอาร์เจนตินาชนะฟุตบอลโลก 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก ซึ่งในฟุตบอลโลกครั้งนี้เองที่มาราโดน่าได้ทำ "ประตูหัตถ์พระเจ้า" ซึ่งเป็นที่ถกเถียงระหว่างแข่งกับทีมชาติอังกฤษ เมื่อเขาพยายามกระโดดโหม่งหน้าประตูแต่กลายเป็นการใช้มือชกลูกข้ามตัว “ปีเตอร์ ชิลตัน” นายทวารทีมชาติอังกฤษสิงโตคำราม เข้าประตูไป
มาราโดน่าเล่นทีมชาติเป็นครั้งสุดท้ายในฟุตบอลโลก 1994
หลังเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ มาราโดน่าทำหน้าที่เป็นผู้จัดการสโมสรฟุตบอลหลายสโมสร โดยสโมสรสุดท้ายคือยิมนาเซียเดลาปลาตา
ในบทบาทนักฟุตบอลอาชีพ มาราโดนาเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลอาร์เฆนติโนสยูนิออร์ส, โบกายูนิออร์ส, บาร์เซโลนา, นิวเอลล์โอลด์บอยส์ และนาโปลี เขายังเป็นผู้สร้างสถิติในเรื่องค่าสัญญานักเตะในระดับนานาชาติ เขาเล่นให้กับทีมอาร์เจนตินา 91 นัด ทำประตู 34 ประตู เขาเล่นในฟุตบอลโลก 4 ครั้ง โดยในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1986 เขานำทีมอาร์เจนตินาชนะทีมเยอรมันตะวันตกในรอบสุดท้าย และยังได้รับรางวัลลูกบอลทองคำในฐานะผู้เล่นยอดเยี่ยม ในการแข่งครั้งนี้ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เขาทำคะแนน 2 ประตู จากผล 2–1 เหนือทีมอังกฤษ โดยในประตูแรกเป็นที่รู้จักในชื่อ "ประตูหัตถ์พระเจ้า" ในขณะที่ประตูที่ 2 เป็นการครองลูกระยะ 60 เมตร เลี้ยงหลบผู้เล่นอังกฤษ 6 คน จนได้รับขนานนามว่า "ประตูแห่งศตวรรษ"
จากหลายเหตุผล ทำให้มาราโดนาเป็น 1 ในนักกีฬาที่มีข้อขัดแย้งและเป็นที่ต้องการของนักข่าวมากที่สุดคนหนึ่ง เขาถูกพักการเล่นฟุตบอลเป็นเวลา 15 เดือนในปี ค.ศ. 1991 หลังจากตรวจพบว่าเขาเสพโคเคนในประเทศอิตาลี และถูกส่งกลับบ้านในฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกาหลังจากตรวจพบใช้สารเอฟิดรีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ช็อก! มาราโดน่าเสียชีวิต ปิดตำนาน “หัตถ์พระเจ้า”
หลังจากที่เขาเกษียณจากการเป็นนักเตะฟุตบอลในวันครบรอบอายุ 37 ปี ในปี ค.ศ. 1997 มาราโดนาต้องทนทุกข์กับอาการป่วยมากขึ้นและน้ำหนักตัวที่เพิ่ม ข่าวระบุว่าเขายังติดโคเคนอย่างต่อเนื่อง ในปี ค.ศ. 2005 เขาเข้ารับการผ่าตัดช่องท้องช่วยให้ควบคุมเรื่องน้ำหนักได้ ต่อมาหลังจากที่มาราโดนาเอาชนะการติดโคเคนได้สำเร็จ เขาก็ได้เป็นพิธีกรรายการดังในประเทศอาร์เจนตินา
เพื่อนร่วมวงการไว้อาลัย
เปเล่ ตำนานฟุตบอลที่ยังมีชีวิตของบราซิล กล่าวไว้อาลัยการจากไปของมาราโดน่าว่า เขาคือ “เพื่อนรัก” คนหนึ่ง เขาหวังว่าสักวันคงได้ไปเล่นฟุตบอลกันอีกบนฟ้า
ขณะที่ลีโอเนล เมสซี นักฟุตบอลชื่อดังชาวอาร์เจนตินาด้วยกัน กล่าวว่า “มาราโดน่าจากไปแล้วแต่เพียงกาย เขาจะยังอยู่กับพวกเราตลอดไป เพราะชื่อเขานั้นคือนิรันดร์กาล”
ด้านเดวิด เบคแฮม อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ โพสต์อินสตาแกรมรำลึกถึง “ดิเอโก มาราโดน่า” ว่า เป็นข่าวเศร้าสำหรับอาร์เจนตินาและวงการลูกหนัง ขอรำลึกถึงบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ที่เล่นฟุตบอลด้วยจิตวิญญาณ สปิริตแห่งนักกีฬา ผู้ที่เป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง ผมยังรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ได้เคยพบเขา พวกเราทุกคนจะคิดถึงเขา ขอให้หลับสบายเถิด
ในวันนี้ เราทุกคนร่วมอาลัยต่อการจากไปของเขา “ดิเอโก มาราโดนา” บุรุษแห่งตำนานฟุตบอล ผู้ซึ่งกลับคืนสู่หัตถ์พระเจ้าเป็นนิรันดร์แล้ว