รถยนต์ไร้คนขับในจีนบูมสนั่น จับตาหลังโควิดโตพรวด

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน รายงานโดยรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งในจีนว่า

ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รถยนต์ไร้คนขับได้ถูกนำมาใช้เพื่อการส่งอาหาร เวชภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อป้องกันการสัมผัสระหว่างมนุษย์รวมถึงยังถูกดัดแปลงเป็นรถพ่นยาฆ่าเชื้อตามถนน อาคาร และบ้านเรือน

จะเห็นได้ว่ารถยนต์ไร้คนขับกำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศจีน อุตสาหกรรมการผลิต และพัฒนารถยนต์ไร้คนขับกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทในอุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับเพิ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น อาทิ หน่วยผลิตและพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของ Didi Chuxing ได้รับเงินลงทุน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก SoftBank Group Corp บริษัทข้ามชาติด้านโทรคมนาคมและการสื่อสารสัญชาติญี่ปุ่น และบริษัทสตาร์ตอัพพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับของจีน Pony.ai พึ่งเสร็จสิ้นการระดมทุน 462 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากโตโยต้า มอเตอร์ของญี่ปุ่นเมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการระดมทุนก้อนใหญ่มากที่สุดของบริษัทผลิตรถยนต์ไร้คนขับของจีน

นายฮัน ซู ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท Weride บริษัทด้านยานพาหนะอัจฉริยะชั้นแนวหน้าของจีน กล่าวให้ ความเห็นว่า “รถยนต์ไร้คนขับกำลังก้าวเข้าสู่ระยะใหม่ เราจะเห็นการควบรวมกิจการขนาดใหญ่ในปีนี้เพราะว่านักลงทุนเริ่มมองเห็นว่ารถยนต์ไร้คนขับจะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในวงกว้างภายในอีก 3 ถึง 5 ปีข้างหน้านี้นักลงทุน เริ่มตระหนักว่าการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับไม่ใช่การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงอีกต่อไป"

เมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา บริษัท Weride ได้ทดลองออกโรโบแท็กซี่(RoboTaxi) แท็กซี่ไร้คนขับจำนวนหลายสิบคัน บนถนนในเมืองกวางโจวภายในพื้นที่ 144 ตารางกิโลเมตร ผู้โดยสารสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น“วีไรด์โก” (WeRideGo)น ด้วยความหวังจากตลาดที่มีแนวโน้มสดใสยิ่งขึ้น WeRide วางแผนที่จะขยายการบริการและเพิ่มจำนวนโรโบแท็กซี่(RoboTaxi) ในเมืองกวางโจวเป็นจำนวนหลายร้อยคันภายในปีนี้และคาดว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจรถยนต์ไร้คนขับในเมืองกวางโจวได้ภายในปี 2564 เมื่อข้อกำหนดด้านความปลอดภัยสำหรับยานพาหนะมีการปรับให้เหมาะสมกับการให้บริการรถยนต์ไร้คนขับ โดยปัจจุบันประเทศจีนได้อนุญาตให้ผู้ผลิตรถยนต์ไร้คนขับสามารถทำการทดสอบการโดยสารร่วมกับผู้โดยสารได้ใน 6 เมือง ได้แก่ ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, กวางโจว, ฉงชิ่ง, ฉางชา, อู่ฮั่น และชางโจว

ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บริษัท UISEE ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ ได้ร่วมมือกับค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ SGWM ในเมืองหลิ่วโจว ในการใช้ระบบโลจิสติกส์ไร้คนขับภายในเมือง โดยเส้นทางดังกล่าวมีการติดตั้งสถานีสัญญาณ 5G ตลอดเส้นทาง สามารถควบคุมการขับขี่ระยะไกลผ่าน 5G และเปิดให้สาธารณชนได้ทดลองใช้แล้ว โดยถือเป็นเส้นทางขับขี่อัตโนมัติแห่งแรกของประเทศจีน นอกจากนี้ระบบโลจิสติกส์ไร้คนขับของ UISEE ยังมีส่วนช่วยสำคัญในสนามบินนานาชาติฮ่องกงในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาในฮ่องกงอีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทสตาร์ตอัพ AutoX ยังได้ ร่วมมือกับ Fiat Chrysler Automobiles (FCA) ในการพัฒนาโรโบแท็กซี่ (RoboTaxi) แท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัติซึ่งทางบริษัทตั้งเป้าให้โรโบแท็กซี่จะถูกนำไปทดลองใช้ในเมืองต่างๆ อาทิ เซินเจิ้น และเซี่ยงไฮ้ ภายในปี 2563 นี้และในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้เริ่มจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการโรโบแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย” ขึ้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งจะเป็นศูนย์ข้อมูลรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน

ในส่วนของการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนนั้น เมื่อต้นปี 2563 ทางรัฐบาลจีนได้ออกแผนพัฒนาอุตสาหกรรม รถยนต์ไร้คนขับภายในประเทศ โดยตามแผนพัฒนาฉบับนี้ให้ความสำคัญกับ "การผลิตรถยนต์ไร้คนขับเทคโนโลยีขั้นสูงใน เชิงพาณิชย์ภายในปี 2025” และในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนได้ออกมาตรฐานการจำแนกประเภทการขับขี่แบบไร้คนขับภายในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดัน อุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับของจีนให้เข้าใกล้การนำเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตจริง

นอกจากนี้ปัจจุบันจีนได้จัดตั้งศูนย์ตรวจและทดสอบคุณภาพยานยนต์แห่งชาติ(National Automobile Quality Supervision and Test Center) ทั้งหมด 6 แห่ง ตั้งอยู่ที่เมืองปักกิ่ง, เมืองเทียนจิน, เมืองฉางชุน (มณฑลจี๋หลิน), เมืองฝอซาน (มณฑลกวางตุ้ง), เมืองเซี่ยงหยาง (มณฑลหูเป่ย) และแห่งล่าสุดที่เมืองหลิ่วโจว (เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง) ซึ่งเพิ่งเปิดให้ดำเนินการในเดือนมกราคม 2563 ที่ผ่านมา โดยศูนย์ตรวจและทดสอบคุณภาพยานยนต์แห่งชาติมีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาและทดสอบระบบ เชื่อมต่อยานยนต์อัจฉริยะ (Intelligence Connected Vehicle) และยานยนต์ไร้คนขับ

สคต.กวางโจว ระบุว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ประเทศต่างๆ ให้ความสนใจเกี่ยวกับความสำเร็จของจีน ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้เศรษฐกิจของจีนยังคงดำเนินต่อไปได้ โดยหากมองย้อนกลับไปในช่วงที่จีนเจอวิกฤติปัญหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงแรกนั้น ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ได้กล่าวว่า "การต่อสู้กับโรคระบาดไม่สามารถทำได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างร่วมกันใช้เทคโนโลยีในการต่อสู้กับโรคระบาดในทุกรูปแบบ อาทิระบบ 5G ที่จีนเริ่มเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในปีที่ผ่านมาเป็นประเทศแรกในโลกก็ถูกนำมาใช้งานอย่างจริงจัง อาทิ การเรียนหนังสือทางไกล การรักษาพยาบาลทางไกลบริษัทด้านอาหารรายใหญ่อย่าง Meituan และ Eleme ใช้หุ่นยนต์สำหรับขนส่งอาหารให้แก่ประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ

บริษัท E-Commerce อย่าง JD.com มีการใช้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในการขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปให้ โรงพยาบาลในอู่ฮั่น รถยนต์ไร้คนขับถูกใช้ทำหน้าที่ในการจัดส่งอาหาร เวชภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภค และยังถูกใช้ทำความสะอาดถนน และพ่นยาฆ่าเชื้อตามอาคารบ้านเรือน และในขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศจีนมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนเริ่มกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ มีการเดินทางมากขึ้น เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับจึงกลายเป็นที่สนใจของนักลงทุน เนื่องจากมองเห็นโอกาสในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง เพราะรถยนต์ไร้คนขับนอกจากจะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีอุปสรรคในการขับรถยนต์ อาทิ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ แล้วยังเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจให้ สามารถดำเนินต่อไปได้แม้ในวันที่เกิดวิกฤติที่ไม่คาดคิดอย่างการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ดังนั้นทางภาครัฐและ ภาคเอกชนของไทยควรศึกษาการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศจีนใน เพื่อนำมาใช้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศไทย และการพัฒนาในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องต่าง ๆ รวมถึงการสร้างความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่าง ประเทศต่อไปในอนาคต