หุ่นยนต์ทางการแพทย์-5G ผู้ช่วยตัวจริงสยบโควิดในจีน

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต./ทูตพาณิชย์) ณ เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน รายงานว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19)ที่ร้ายแรงผลักดันให้อุตสาหกรรมสุขภาพของจีนเข้าสู่ภาวะฉุกเฉิน เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้โรงพยาบาลในประเทศจีนหันมาใช้หุ่นยนต์เป็นผู้ช่วยทางการแพทย์รวดเร็วขึ้น ช่วยเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานของปัญญาประดิษฐ์(AI) จากที่เคยเป็นเพียงอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน กลายมาเป็นผู้ช่วยทางการแพทย์ที่สำคัญในโรงพยาบาลทั่วประเทศ

ประกอบกับการที่จีนประกาศเปิดให้บริการ 5G อย่างเป็นทางการเป็นประเทศแรกในโลก การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของจีนนี้เองที่ช่วยให้แม้แต่โรงพยาบาลในพื้นที่ชนบทห่างไกลก็สามารถใช้เทคโนโลยีและหุ่นยนต์ต่าง ๆ เข้ามาช่วยต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้

โรงพยาบาลในมณฑลเจ้อเจียง ร่วมกับ บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ให้การสนับสนุนติดตั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในโรงพยาบาลเพื่อดำเนินการใช้เทคโนโลยีผ่าน 5G ในการทำวินิจฉัยผู้ติดเชื้อ และรักษาผู้ป่วยในเมืองอู่ฮั่น นอกจากนี้เทคโนโลยีอย่างการปรากฏตัวทางไกลก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่สำคัญในการช่วยให้แพทย์สามารถสื่อสารและตรวจสอบสุขภาพของผู้ป่วยผ่านวิดีโอทางไกล ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา

ล่าสุด ทางการจีนได้มีการสั่งซื้อหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อ UVD เพื่อใช้ต่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพื่อทำการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสอย่างมีประสิทธิภาพด้วยแสงอัลตร้าไวโอเล็ตเข้มข้น โดยสามารถฆ่าเชื้อตามพื้นผิววัสดุและเชื้อในอากาศ โดยไม่ต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์ในกระบวนการช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อสู่บุคลากรทางการแพทย์ นอกจากอุตสาหกรรมทางการแพทย์แล้วหุ่นยนต์ยังเข้าไปมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมผัสระหว่างมนุษย์ หลายบริษัทนั้นได้เริ่มทดสอบหุ่นยนต์ส่งของอัตโนมัติภายใน และโดรนส่งของตั้งแต่ปีที่แล้ว

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีการปรับใช้ยานพาหนะขนส่งอัตโนมัติบนถนนสาธารณะโดยหุ่นยนต์ส่งของนี้สามารถบรรทุกสินค้าได้หนักถึง 100 กิโลกรัม และส่งของให้ 3-5 ออเดอร์ต่อการเดินทางหนึ่งครั้ง นักวิเคราะห์กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสในครั้งนี้จะช่วยผลักดันวงการแพทย์ของจีนไปสู่เทคโนโลยีขั้นสูงยุคหุ่นยนต์

โดยหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 ในเดือนธันวาคม 2562 และคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้ อุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์อัจฉริยะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญที่อยู่ในแผนยกระดับเศรษฐกิจประเทศจีน สำหรับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์นั้น จีนยังมุ่งเป้าเพียงแค่ภาคธุรกิจอื่น ๆ เช่น แก้ปัญหาภาคสังคม อาทิ การดูแลผู้สูงอายุการบริการสังคม ไปจนถึงการกู้ภัย

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในครั้งนี้รัฐบาลจีนประกาศว่า การต่อสู้กับโรคระบาดไม่สามารถทำได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิกฤติครั้งนี้จะทำให้วงการเทคโนโลยีของจีนเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลายเทคโนโลยีที่ได้มีโอกาสนำมาใช้งานจริงในช่วงนี้โดยเฉพาะเทคโนโลยีและหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมการแพทย์ซึ่งอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในวงการแพทย์ของจีน และยังรวมไปถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เพื่อสรรหากลยุทธ์ที่สร้างสรรค์ในการให้บริการผู้บริโภคที่หลีกเลี่ยงการไปที่สาธารณะ ทางภาครัฐและภาคเอกชนจาก ไทยควรจับตามองการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศจีนในช่วงหลังจากนี้ให้ดีเพื่อนำมาใช้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาเทคโนโลยีสินค้าและบริการภายในประเทศไทยต่อไป