นักวิชาการสแกน แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 แป้ก 

12 มี.ค. 2568 | 05:56 น.

นักวิชาการ TDRI วิเคราะห์นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 ให้กลุ่มอายุ 16-20ปี ใช้วงเงินกว่า 20,000 ล้านบาท จ่ายแล้วแป้ก เศรษฐกิจไม่กระเตื้อง

นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส3 ซึ่งรัฐบาลจะแจกให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ 16-20 ปี โดยคาดว่ามีผู้ได้รับสิทธิ์ประมาณ 2.7 ล้านคน ใช้วงเงินงบประมาณอยู่ที่ 27,000 ล้านบาท นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส3นี้ จะเกิดความคุ้มค่าแค่ไหน รายการเข้าเรื่อง เผยแพร่ทางยูทูปฐานเศรษฐกิจ ขอมุมมองจากดร. นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) 

ดร. นณริฏ ระบุว่า เศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ในภาวะที่ต้องการการกระตุ้นอย่างเร่งด่วน เหมือนกับช่วง วิกฤตต้มยำกุ้ง (ปี 2540), น้ำท่วมใหญ่ (ปี 2554) หรือ โควิด-19 ซึ่งในช่วงนั้นเศรษฐกิจตกต่ำจนต้องการเม็ดเงินจากภาครัฐเพื่อพยุงระบบเศรษฐกิจ
หากพิจารณาอย่างเป็นกลาง จะพบว่าภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันไม่ได้อยู่ในช่วงที่ต้องเร่งอัดฉีดเม็ดเงินขนาดใหญ่ การแจกเงินในช่วงนี้อาจไม่เกิดผลลัพธ์เท่าที่ควร และอาจเป็นการใช้ทรัพยากรที่ไม่เกิดประโยชน์สูงสุด

ตามหลักเศรษฐศาสตร์ หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพ เงินที่อัดฉีดเข้าไปควรสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มากกว่าจำนวนเงินที่ใช้ไป ตามการประเมินของธนาคารโลก (World Bank) พบว่าสองเฟสก่อนหน้านี้ของมาตรการ ตัวคูณอยู่ที่ประมาณ 0.4 หมายความว่าเงิน 1 บาทที่รัฐใช้ไป สร้างผลทางเศรษฐกิจจริงเพียง 40 สตางค์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือยังไม่คืนทุนเลยด้วยซ้ำ ก็คงไม่ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

นักวิชาการสแกน แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 แป้ก 

เม็ดเงินที่ภาครัฐพยายามจะทําดิจิทัลเฟส 3 ถือว่าไม่มากแต่น่าเสียดาย เพราะหากเลือกเครื่องมือที่ดี สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดตัวคูณสัก 1.5 เท่า ก็จะกลายเป็น 30,000 กว่าล้านบาทสามารถตอบโจทย์เป้าหมาย GDP ของประเทศได้พอดี ซึ่งมาตรการอื่นที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เช่นภาครัฐซื้อสินค้าหรือบริการจากภาคเอกชนโดยตรง หรือ การลงทุนภาครัฐที่ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

“ตัวคูณเศรษฐกิจของมาตรการแจกเงินดิจิทัล ในสองเฟสที่ผ่านมาอยู่ที่เพียง 0.77 - 0.88 เท่านั่นหมายความว่า เงิน 20,000 ล้านบาท จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงเพียง 15,000 - 17,600 ล้านบาท พอเลือกเครื่องมือที่ผิดแทนที่เงิน 20,000 ล้าน จะไปเติมเต็มให้เกิดพายุ 30,000-40,000 ล้าน ก็กลายเป็นจ่ายแล้วแป้ก ได้มาแค่ประมาณ 15,000-16,000 ล้าน” ดร. นณริฏกล่าว

โดยสรุปดร. นณริฏมองว่า มาตรการแจกเงินดิจิทัล เฟส3 อาจไม่ได้ผลเต็มที่ เพราะเศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในช่วงที่จำเป็นต้องกระตุ้นแรงๆ และการใช้เงินดิจิทัลมีข้อจำกัดที่อาจลดทอนประสิทธิภาพของมาตรการ ได้แก่ ช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เพราะเศรษฐกิจปัจจุบันไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤตแบบช่วงโควิดหรือช่วงเศรษฐกิจถดถอยหนัก จึงทำให้การกระตุ้นด้วยมาตรการนี้อาจไม่ส่งผลดีเท่าที่ควร

นักวิชาการสแกน แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 แป้ก 
ข้อจำกัดของเงินดิจิทัล เช่น มีร้านค้ารองรับน้อย หรือร้านค้าไม่สามารถใช้เงินนี้ต่อเนื่องได้ ร้านค้าต้องรอนานกว่าที่จะถอนเงินจากระบบได้ ทำให้ขาดแรงจูงใจในการร่วมโครงการ และปัจจุบันมีระบบพร้อมเพย์ที่ประชาชนใช้งานอยู่แล้ว ดังนั้นการสร้างระบบใหม่อาจเป็นภาระมากกว่าประโยชน์