"ก้าวไกล" แถลงเดือดซัดกกต.อย่าลุแก่อำนาจ ยืนยัน เสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ

12 ก.ค. 2566 | 13:27 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ค. 2566 | 13:37 น.

พรรคก้าวไกล เปิดแถลงเดือดค้านมติ กกต. ชี้รีบเร่งส่งศาลรัฐธรรมนูญคดีหุ้นไอทีวี เตือนครั้งนี้ประชาชนจะไม่ยอม พรุ่งนี้จะเป็นโอกาสและทางแยกของสังคมไทย ยืนยันเสนอชื่อ "พิธา" เป็นนนายกฯเหมือนเดิม 

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้อ่านแถลงการณ์พรรคก้าวไกลกรณีการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้งในคดีหุ้นไอทีวี ที่ได้มีการส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยแล้วนั้น พรรคก้าวไกลเห็นว่า เมื่อพิจารณาระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วเห็นว่า สิ่งที่ประธาน กกต. กล่าวนั้น ไม่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลดังนี้

​ข้อ 1.​สำหรับคดีหุ้นไอทีวี ไม่อาจนำกรณีตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 5/2563 (คดีเงินกู้ยุบพรรคอนาคตใหม่) มาเทียบเคียงกับข้อเท็จจริงคดีนี้ได้ ด้วยเหตุผลอย่างน้อย 2 ประการ  1.ข้อเท็จจริงในคดีหุ้นไอทีวี เป็นคดีการเสนอคำร้องตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 82 ประกอบมาตรา 101 (6) และมาตรา 98 (3) มิใช่เป็นการนำบทบัญญัติมาตรา 92 และมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ข้อ 54 วรรคหนึ่ง และข้อ 55 วรรคหนึ่ง มาใช้บังคับแก่คดี

\"ก้าวไกล\" แถลงเดือดซัดกกต.อย่าลุแก่อำนาจ ยืนยัน เสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ

จึงไม่อาจนำแนวทางการตีความของศาลรัฐธรรมนูญในคดีดังกล่าวมาใช้บังคับแก่เรื่องนี้ได้ 2.ในคดีตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว เป็นกรณีที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. มีมติว่า ข้อกล่าวหาไม่มีมูล แล้วนำเสนอต่อ กกต. แต่ปรากฏว่า กกต. ไม่เห็นพ้องด้วย

กรณีจึงไม่มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ส่วนข้อเท็จจริงในคดีหุ้นไอทีวี ถ้าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. มีความเห็นว่าข้อเท็จจริงมีมูลตามคำร้อง ย่อมมีหน้าที่ต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามข้อ 54 วรรคหนึ่ง แห่งระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 (แก้ไขเพิ่มเติม 2563) ต่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้ครบถ้วนเสียก่อนที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนจะทำรายงานการสืบสวนตามข้อ 59 แห่งระเบียบดังกล่าว เสนอต่อเลขาธิการ กกต. และ กกต. ต่อไป

\"ก้าวไกล\" แถลงเดือดซัดกกต.อย่าลุแก่อำนาจ ยืนยัน เสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ

​ข้อ 2.​ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เป็นกรณีที่ความปรากฏต่อ กกต. ให้ตรวจสอบว่า นายพิธา  ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าซึ่งด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 (และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม) กำหนดกระบวนการขั้นตอนรองรับอย่างชัดเจนตั้งแต่การยื่นคำร้อง การตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน และการวินิจฉัยของ กกต.

ด้วยเหตุนี้ เมื่อ กกต. ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนดำเนินการตามระเบียบดังกล่าวมาโดยตลอด ในกรณีที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนพิจารณาแล้วเห็นว่ามีพยานหลักฐานสนับสนุนพอฟังได้ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ย่อมต้องดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาตามระเบียบฯ ข้อ 54 และเปิดโอกาสให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ชี้แจงข้อกล่าวหาตามข้อ 57 และข้อ 58 แห่งระเบียบฉบับเดียวกัน

\"ก้าวไกล\" แถลงเดือดซัดกกต.อย่าลุแก่อำนาจ ยืนยัน เสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ

​ด้วยเหตุนี้การที่ กกต. จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 82 กกต. จะต้องปฏิบัติตามระเบียบให้ครบถ้วนดังที่กล่าวไปเสียก่อน การที่ กกต. จะเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่างรีบเร่งโดยยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา และไม่เปิดโอกาสให้มีการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา

โดยอ้างว่าเป็นเพียงการตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น จึงไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดไว้ กรณีจึงเท่ากับว่า กกต. ปฏิบัติตามระเบียบแต่เพียงบางส่วน และจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่ตนได้ตราขึ้น อันอาจเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ได้

ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมกกต.ถึงรีบเร่งดำเนินการในคดีหุ้น itv อย่างผิดปกติ ทั้งๆที่เรื่องหุ้น itv ก่อนหน้านี้มีข้อพิรุธและมีข้อถกเถียง อย่างกว้างขวางว่าตกลงitv ยังคงดำเนิน ธุรกิจสื่ออยู่หรือไม่มีการจงใจ ทำเอกสารการประชุมและงบการเงินไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่แต่กกต.กลับรีบประชุม ติดกัน 3 วัน ทันทีที่ได้รับเรื่องเพื่อเร่งสรุปให้ได้ว่ามีข้อมูลสรุปเพียงพอให้เชื่อได้ว่านายพิธามีความผิดตามที่ยื่นคำร้องจริง 

\"ก้าวไกล\" แถลงเดือดซัดกกต.อย่าลุแก่อำนาจ ยืนยัน เสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ

ทั้งนี้ เรื่องนี้ตนทราบมาว่าทางกกต.ได้เชิญผู้บริหาร itv มาชี้แจงกับกกต.แล้ว และผู้บริหารได้ให้ข้อมูลว่า itv ไม่ได้ดำเนินธุรกิจสื่อ ดังนั้นแม้กกต.พยายามอ้างเหตุผลมากมาย ว่าไม่จำเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหากับนายพิธาเพื่อให้นายพิธามาชี้แจงก่อนแต่คำถามคือในขณะที่กกต.ยังมีเวลาเชิญ itv ไปชี้แจงแล้วกกต.มีเหตุผลอะไรที่รับฟังได้ว่าจะไม่ยอมเสียเวลาให้นายพิธาได้รับทราบข้อกล่าวหาและมีโอกาสชี้แจงบ้าง เพื่อให้กกต.สามารถพิจารณาข้อเท็จจริงได้อย่างรอบด้านและเป็นธรรม

นอกจากนี้ หากผู้บริหาร itv ได้ชี้แจงกับกกต.แล้วจริง ว่าไม่ได้ดำเนินธุรกิจสื่อมวลชน กกต. ใช้หลักฐานอะไร ที่นำไปสู่ข้อสรุปที่บอกว่าตนเองเชื่อว่ามีความผิดตามที่มีการยื่นคำร้องจริง เพื่อรีบเร่งให้ได้ ซึ่งความรีบเร่งผิดปกติเห็นได้จาก มีมติตอนเช้า นายอิทธิพร บุญประคองประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง รีบเร่งเซ็นเอกสารและให้สำนักงานเลขาธิการกกต.ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญทันทีเพื่อให้ทันการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในตอนบ่าย พร้อมกล่าวเหน็บว่าหากทุกหน่วยหน่วยงานราชการทำงานไวประเทศชาติก็จะเจริญ 

"อดไม่ได้ในการตั้งคำถามต่อกกต.ว่ามีเจตนาที่จะส่งลูกให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ทันทีเพื่อให้สั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่" 

\"ก้าวไกล\" แถลงเดือดซัดกกต.อย่าลุแก่อำนาจ ยืนยัน เสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ

สุดท้ายนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นหลายปีที่ผ่านมา โดยใช้นิติสงครามบทบาท องค์กรอิสระรวมไปถึงศาลรัฐธรรมนูญถูกตั้งข้อสงสัยมาโดยตลอด ว่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มทางการเมืองใดกลุ่มการเมืองหนึ่งหรือไม่ กรณีที่เกิดขึ้นในวันนี้และหลังจากนี้อีกไม่นานจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหาเหล่านั้น เป็นจริงหรือไม่และเราในฐานะผู้แทนราษฎรขอฝากเสียงเตือนจากพี่น้องประชาชนไปยังกกต.และองค์กรอิสระทั้งหมด ว่า "ท่านอย่าลุแก่อำนาจจนเกินขอบเขต วันใดวันหนึ่งเมื่อการเมืองกลับมาเป็นปกติประชาชนจะลงโทษพวกท่าน"

อย่างไรก็ตามไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ ตนและสมาชิกพรรคก้าวไกลและเพื่อนสมาชิกอีก 7 พรรคการเมืองยืนยันว่าจะไม่กระทบกับการเสนอรายชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ในวันพรุ่งนี้ แม้จะส่งลูกรับลูกกันอย่างรวดเร็วเพื่อให้สั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ของนายพิธา แต่นายพิธายังมีสิทธิ์ 100% ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 จากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกตกใจ ความชอบธรรมที่สูงสุดคืออำนาจของประชาชน พรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าเรื่องนี้เป็นขบวนการที่หวังผลทางการเมืองจริงๆมีการบิดเบือนเจตนารมณ์ในการบังคับใช้กฎหมาย บิดเบือนระเบียบข้อบังคับต่างๆ ย่อมต้องหวังผลทางการเมือง แต่เราก็เชื่อว่าจะมีสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ที่มากเพียงพอ ที่มีสติ มีความเป็นธรรม มีวิจารณญาณเห็นว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ ยังไม่สามารถเป็นบทสรุปได้ว่านายพิธามีความผิด กระบวนการยังไม่สิ้นสุดและไม่ใช่หน้าที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาที่จะวินิจฉัยเรื่องนี้เป็นคนละส่วนกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง ยังเชื่อมั่นว่ายังมีส.ว.ที่อยู่ข้างความถูกต้องและยืนยันที่จะใช้เอกสิทธิ์ของตนเองเป็นไปตามเสียงของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง

ส่วนจะฟ้องกกต.หรือไม่ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กำลังพิจารณาอยู่ พร้อมยืนยันกระบวนการทางศาลรัฐธรรมนูญ เป็นคนละส่วนกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี  ดังนั้น มั่นใจไม่มีการเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้และเชื่อมั่นในประธานรัฐสภา 

ทั้งนี้คนมองว่ากกต.พยายามจะใช้บรรทัดฐานเดียวกับเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ ตนยืนยันว่าเทียบกันไม่ได้พังเพราะกฎหมายและข้อเท็จจริงในการปฏิบัติและขบวนการที่ไม่เหมือนกันพร้อมยืนยัน จะเสนอนายพิธาเหมือนเดิมไม่มีแผนใดเพิ่มเติมจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

"พรุ่งนี้จะเป็นโอกาสและทางแยกของสังคมไทย ว่าเราจะวนกลับ ไปสู่การเมืองไม่เห็นหัวประชาชนหรือเป็นโอกาสคืนความปกติให้ระบอบประชาธิปไตยของไทยและพาประเทศไทยไปข้างหน้า ซึ่งผู้มีอำนาจมีโอกาสที่จะเลือก และตนเชื่อว่าครั้งนี้ประชาชนจะไม่ยอม" นายชัยธวัชกล่าว