มท.1 ย้ำ ผู้ว่าฯ-นายอำเภอทั่วประเทศ "เลือกตั้ง 2566" วางตัวเป็นกลาง

27 เม.ย. 2566 | 16:25 น.

เกาะติดเลือกตั้ง 2566 "อนุพงษ์" ประชุมเตรียมความพร้อม เลือกตั้ง ส.ส. 14 พฤษภาคมนี้ ย้ำ ผู้ว่าราชการและนายอำเภอทั่วประเทศ ต้องวางตัวเป็นกลาง ขอให้มุ่งมั่นทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน

27 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมริชมอนด์ แกรนด์ บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมสัมมนาเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการเลือกตั้ง ส.ส. 2566 และติดตามการขับเคลื่อนงานตามภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมีหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวม 1,400 คนร่วมประชุม

พล.อ.อนุพงษ์ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การประชุมสัมมนาเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2566 ในวันนี้ถือว่าเป็นวาระสำคัญยิ่งของประเทศชาติตามรัฐธรรมนูญ

ประเด็นที่สำคัญ 2 ส่วนที่จะต้องเน้นย้ำกับผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด และนายอำเภอทั่วประเทศ ในการปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบ คือ

1.การปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของตนเอง

2.การปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการเขตเลือกตั้งในพื้นที่ จำนวน 400 เขตเลือกตั้ง

มท.1 ย้ำ ผู้ว่าฯ-นายอำเภอทั่วประเทศ \"เลือกตั้ง 2566\" วางตัวเป็นกลาง

สิ่งสำคัญที่จะต้องเน้นย้ำ ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด และนายอำเภอ ประการแรก คือ ทุกท่านเป็นข้าราชการพลเรือน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของตนเอง และวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่ฝักฝ่ายใด ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

อีกประการหนึ่ง คือ การเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่หนึ่งที่ต้องรับผิดชอบทั้ง 400 เขตเลือกตั้ง และต้องดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งในเขตและนอกเขตเลือกตั้ง

ร่วมกับตำรวจ ทหาร ควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกคนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในทุกช่องทาง ทั้งกลไกในระดับพื้นที่ ลงไปเคาะประตูบ้าน สร้างความตระหนักรู้ให้กับคนในชุมชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อให้การเลือกตั้งผู้แทนของประชาชนมาทำหน้าที่แทนประชาชนมาบริหารประเทศชาติของเรา

มท.1 ย้ำ ผู้ว่าฯ-นายอำเภอทั่วประเทศ \"เลือกตั้ง 2566\" วางตัวเป็นกลาง

นอกจากนี้ต้องสร้างการรับรู้ในส่วนของบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชัน "ThaiD" ที่สามารถยืนยันตัวตนที่คูหาเลือกตั้งได้ โดยขอให้กรมการปกครองได้หารือร่วมกับทาง กกต. เพื่อให้เกิดความเข้าใจของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งในการแสดงตนของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยแอปพลิเคชั่นดังกล่าว

ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำหน้าที่ในการสนับสนุนการเลือกตั้งให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเพื่อให้ได้ผู้แทนของประชาชนที่มาจากประชาชนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังได้กล่าวถึงการขับเคลื่อนงานตามภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยได้เน้นย้ำถึงการขยายผลการใช้งานแอปพลิเคชั่น ThaiD ให้หลากหลายโดยต้องทำให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ทุกที่ ทุกแห่งในประเทศไทยรับรองการใช้แอปพลิเคชั่น ThaiD ในการยืนยันตัวตนผ่านระบบดิจิทัลในหลากหลายงานบริหาร

พร้อมต่อยอดไปสู่การเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงานกับระบบทะเบียนของกรมการปกครองในการให้บริการประชาชนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

มท.1 ย้ำ ผู้ว่าฯ-นายอำเภอทั่วประเทศ \"เลือกตั้ง 2566\" วางตัวเป็นกลาง

พร้อมย้ำเตือนถึงภารกิจที่สำคัญที่จะทำให้สังคมไทยสงบสุข ประชาชนมีความผาสุก ด้วยการแก้ไขปัญหาสำคัญ 3 เรื่องให้สำเร็จ คือ

1) การแก้ไขปัญหายาเสพติด

2) การบริหารจัดการขยะ ด้วยการส่งเสริมการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง และปฏิบัติตามแนวทาง 3 ช คือ ใช้น้อย ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่

3) การจัดการน้ำเสียตั้งแต่แหล่งกำเนิด (ครัวเรือน) และยังได้กล่าวถึงการพิจารณาอนุญาตตามกฎหมายของนายอำเภอและ อปท. อาทิ การออกใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนตามระเบียบกฎหมาย การอนุญาตก่อสร้างอาคารและสิ่งก่อสร้าง การขับเคลื่อนการดำเนินงานตามผังภูมิสังคม (Geo Social Mapping) การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และภารกิจอื่น ๆ ในทุกด้านทุกมิติของกระทรวงมหาดไทย

โดยขอเป็นกำลังใจให้ชาวมหาดไทยทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้กับพี่น้องประชาชนด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ และประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ได้ปฏิบัติตน และย้ำเตือนข้าราชการ บุคลากรในสังกัดให้พึงระลึกว่า ทุกคนเป็นข้าราชการ ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด และให้การสนับสนุนการเลือกตั้งตามที่ กกต. ร้องขอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ด้านการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้" ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ในวันเลือกตั้ง และหลังวันเลือกตั้ง

ในขณะนี้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตรวจสอบรายชื่อได้จากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งก่อนไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง หากไม่พบชื่อหรือปรากฏชื่อบุคคลอื่นอยู่ในทะเบียนบ้าน หรือมีชื่อผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งปรากฏอยู่ สามารถแจ้งเพิ่มชื่อ-ถอนชื่อ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ ภายในวันที่ 3 พ.ค.66

ประการที่ 2 ช่วยกันรณรงค์ในทุกช่องทางสื่อสาร ทำสื่อประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ทั้งสปอร์ตโฆษณา ภาพอินโฟกราฟิก และอื่น ๆ สร้างการรับรู้ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด

ประการที่ 3 เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความสงบเรียบร้อย ทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ สามารถจัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยเชิญ กกต.จังหวัด ไปร่วมประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทำให้ประชาชนได้เห็นถึงความตั้งใจทำหน้าที่สนับสนุนจัดการเลือกตั้งด้วยความโปร่งใส

"ในส่วนของแอปพลิเคชั่น ThaiD ซึ่งกรมการปกครองได้รับอนุมัติงบประมาณพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของประชาชนและเป็นการอำนวยความสะดวกของพี่น้องประชาชนตามนโยบาย Thailand 4.0 พบว่า ในขณะนี้มีผู้ดาวน์โหลดใช้บริการเพียง 1 ล้านคน

จึงขอให้ช่วยกันรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนได้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น "ThaiD" เพื่อสามารถใช้บัตรประชาชนดิจิทัลในการแสดงตนที่คูหาเลือกตั้ง และใช้ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ให้ครบ 100% ด้วยการวางแผนการสร้างการรับรู้ เช่น จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว หรือขอความร่วมมือจากบริษัท ห้าง ร้าน ผู้ประกอบการ หรือจัดกิจกรรม Roadshow ตามสถานที่ต่าง ๆ

เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบและเข้าใช้บริการดิจิทัลไอดีควบคู่กับให้ความรู้ความเข้าใจแก่บุคลากรในสังกัดในการให้บริการอำนวยความสะดวกประชาชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน และก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างแท้จริง" ปลัด มท. กล่าวย้ำ

นายสุทธิพงษ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและท่านนายอำเภอ ได้ยึดมั่นในการทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข เป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มุ่งมั่น ทำหน้าที่เป็นผู้นำการบูรณาการทีมจังหวัด ทีมอำเภอ ทำให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals)

ทั้ง 17 เป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ (UN) ด้วยการมุ่งสร้าง Partnership เพื่อให้มีหุ้นส่วนภาคีเครือข่ายทั้ง 7,255 หมู่บ้าน ผลักดันขับเคลื่อนให้ความสำคัญกับทีมและลงพื้นที่ไปช่วยกันพัฒนาทำสิ่งที่ดี Change for Good ให้เกิดขึ้นกับประชาชน

ตามหลักการทำงาน "รองเท้าสึกก่อนกางเกงขาด" พร้อมทั้งทำให้พี่น้องประชาชนได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีความมั่นคงด้านอาหารตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี บ้านเรือนมีความสะอาด

ไม่เป็นแหล่งหมักหมมเชื้อโรค มีถังขยะเปียกลดโลกร้อน มีการคัดแยกขยะ ผู้คนในชุมชนมีความรักใคร่สามัคคี รักษาสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม มีความช่วยเหลือเกื้อกูล เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี อันจะนำไปสู่การเป็น Sustainable Village คือ หมู่บ้านยั่งยืน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทำให้ประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืนตลอดไป