“สุดารัตน์”มอบบัตรสมาชิกเครือข่ายบำนาญประชาชน คนที่ 3.2 ล้าน เขตดอนเมือง

15 เม.ย. 2566 | 16:18 น.
อัปเดตล่าสุด :15 เม.ย. 2566 | 16:31 น.

“สุดารัตน์” ปลื้มมอบบัตรสมาชิกเครือข่ายบำนาญประชาชน คนที่ 3.2ล้าน ที่เขตดอนเมือง ชี้เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคไทยสร้างไทย ที่เพิ่ม GDP ได้ 5-7 เท่าใน 5 ปี ยั่งยืนกว่า ยันบำนาญ 3000 บาท เสนอก.ม.เข้าสภาแล้ว ไม่ใช่แจกเงินฟรีๆ 

วันนี้(15 เม.ย.66) ที่ชุมชนบูรพา 7 เขตดอนเมือง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย นายการุณ โหสกุล ผู้สมัคร ส.ส. หมายเลข 2 เขตดอนเมือง ลงพื้นที่เขตดอนเมือง เพื่อมอบบัตรสมาชิกเครือข่ายบำนาญประชาชน คนที่ 3.2 ล้าน ให้กับ นางพิราภรณ์ ซองศิริ อยู่ชุมชนบูรพา 16 เขตดอนเมือง

                     “สุดารัตน์”มอบบัตรสมาชิกเครือข่ายบำนาญประชาชน คนที่ 3.2 ล้าน เขตดอนเมือง

สำหรับโครงการบำนาญประชาชน ของพรรคไทยสร้างไทย มีเป้าหมายที่ แก้ปัญหาสังคมผู้สูงวัยและเป็นโครงการกระตุ้น เศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศที่จะเพิ่ม GDP ได้อย่างยั่งยืน การกระจายเงิน 3000 บาท ลงสู่ชุมชนโดยตรง เป็นการสร้างกำลังซื้อใหม่ทุกเดือนให้กับทุกชุมชน เป็นเงิน 360,000 ล้านบาทต่อปี จะเป็นพลังสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง ลดความเหลื่อมล้ำอย่างถาวร 

แถมลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้สูงอายุได้ ปีละกว่าแสนล้านบาท และผู้สูงอายุที่ร่างกายแข็งแรง จะกลับมาทำงานสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัว รวมทั้งจะสร้างรายได้จากภาษีให้ประเทศได้มากขึ้น อย่างต่อเนื่อง

               “สุดารัตน์”มอบบัตรสมาชิกเครือข่ายบำนาญประชาชน คนที่ 3.2 ล้าน เขตดอนเมือง

กฎหมายบำนาญประชาชนพรรคไทยสร้างไทย ได้เสนอเข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น  เมื่อ พี่น้องเลือกพรรคไทยสร้างไทยให้ชนะถล่มทลายทุกเขต รัฐบาลไทยสร้างไทย จะเข้าไปยกมือผ่านกฎหมายได้ทันที 

 

 เงินบำนาญประชาชนเดือนละ 3000 บาท ให้ผู้สูงอายุ ทั้งประเทศจำนวน  10-11 ล้านคน เป็นเงินปีละ  360,000 ล้านบาท จะทำให้ GDP เพิ่มขึ้น ในเวลา 5 ปี สูงถึง 1,800,000 ล้านบาท ถึง 2,520,000 ล้านบาท คือ  GDP จะเพิ่มขึ้นถึง  5-7 เท่า ใน เวลา 5 ปี

และที่สำคัญจะเป็นการเพิ่ม GDP อย่างยั่งยืน เพราะเป็นการจ่ายบำนาญประชาชนให้กับประชาชนผู้สูงอายุทุกเดือนไปตลอดชีวิต จะสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้ฟื้นตัว เพื่อสร้างเศรษฐกิจทั้งประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นการลดความเหลื่อมล้ำอย่างถาวร 

                    “สุดารัตน์”มอบบัตรสมาชิกเครือข่ายบำนาญประชาชน คนที่ 3.2 ล้าน เขตดอนเมือง

ไม่ได้เป็นการให้เงินแบบสูญเปล่า เพราะผู้รับบำนาญประชาชน ต้องมีหน้าที่สร้างสุขภาพผ่านศูนย์สุขภาพชุมชน เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรงยืดเวลาการเจ็บป่วยจากอายุ 60-70 ปี เป็น 80-90 ค่อยป่วย

ดังนั้นจึง เป็นการลดรายจ่ายในการรักษาพยาบาล ของประชาชน และประเทศชาติปีละกว่าแสนล้าน และประเทศจะได้รายได้จากภาษีเพิ่ม ประมาณ15% ของ  GDP หรือประมาณ270,000 ล้านบาท  ถึง  378,000 ล้านบาท  ใน เวลา 5 ปี

โครงการบำนาญประชาชน จึงเป็นโครงการที่สร้างความยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ สุขภาพคุณภาพชีวิตเพื่อเป็นการรองรับปัญหาสังคมผู้สูงวัย ให้ประเทศไทยพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ถึงแม้พรรคไทยสร้างไทยจะเป็นพรรคการเมืองใหม่ ยังไม่ผ่านการเลือกตั้ง และยังไม่มีส.ส.ในสภาแม้แต่คนเดียว แต่พรรคไทยสร้างไทย "จะมาสร้างชัยชนะให้ประชาชน" จึงได้เสนอร่างกฎหมายบำนาญประชาชนเข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว 

                      “สุดารัตน์”มอบบัตรสมาชิกเครือข่ายบำนาญประชาชน คนที่ 3.2 ล้าน เขตดอนเมือง

เปรียบเสมือนนำรถไปจอดที่สภา รอเพียงคนขับคือ ส.ส.ของพรรคไทยสร้างไทย ที่จะเข้าไปขับเคลื่อนให้กฎหมายบำนาญประชาชนผ่านสภาได้สำเร็จภายใน 3 เดือน จึงขอให้พี่น้องช่วยเลือก ส.ส. ซึ่งเขตดอนเมืองก็คือ นายการุณ โหสกุล หมายเลข 2 และ ขอให้เลือก พรรคไทยสร้างไทย พรรค “ส” หมายเลข32  ให้ชนะถล่มทลายเป็นรัฐบาล ทุกเขตเพื่อเข้าไปยกมือให้กฎหมายบำนาญประชาชนผ่านสภาให้เร็วที่สุด 

ประชาชนก็จะได้รับเงินบำนาญ 3,000 บาทโอนเป็นเงินสดเข้าบัญชีทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต ผู้สูงอายุสามารถเบิกไปใช้ซื้อกินซื้ออยู่ในชุมชนได้สะดวก 

ดังนั้น โครงการ บำนาญ ประชาชน จึงช่วยทำให้ผู้สูงอายุมีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ลดภาระลูกหลาน สร้างสุขภาพดี และยังเป็นโครงการที่จะฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน