เศรษฐา ทวีสิน ต้องนายกฯ เท่านั้น

10 มี.ค. 2566 | 06:06 น.

เศรษฐา ทวีสิน ต้องนายกฯ เท่านั้น : จะไปถึงเก้าอี้นายกฯ คนที่ 30 หรือไม่ ต้องรอลุ้นหลังรู้ผลการเลือกตั้ง ในวันที่ 7 พ.ค. หรือ 14 พ.ค. 2566 นี้

“คงไม่เอา!!” เป็นคำตอบจากปาก “เศรษฐา ทวีสิน” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ ยืนยันชัดเจน หลังถูกบรรดากระจอกข่าวป้อนคำถาม ถ้าไม่ใช่ตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ก็คือไม่รับตำแหน่งอื่น
เหตุผลสำคัญที่ “บิ๊กบริหารแสนสิริ”ประกาศลั่นต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น  อ้างว่า “เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจ และสามารถทำได้จริง”

จึงไม่แปลกที่ “เศรษฐา” จะย้ำอีกครั้งว่า แม้จะเป็นเก้าอี้ใหญ่ในรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น “รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ” นายเศรษฐา ก็ตอบทันทีว่า ”ไม่เอาครับ”

แต่ถ้าจับคำพูด เศรษฐา ชัดๆ เขาออกตัวไว้ก่อนว่า  ถ้าไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ยังยินดีที่จะเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย หรือ “อุ๊งอิ๊ง” ก็ได้เพราะที่ปรึกษาไม่ต้องมีตำแหน่งทางการ 

ประเดิมหาเสียง-ถกทีมศก.

หากย้อนคำพูด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดชัดเจน จะประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค 3 คน ทันทีที่ยุบสภา  

นอกจาก แพทองธาร ชินวัตร หรือ “อุ๊งอิ๊ง” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลูกสาวคนสุดท้องของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สังคมเชื่อว่า ชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นอีกรายชื่อที่จะเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคแน่นอน  ส่วนอีกรายชื่อต้องรอลุ้นจะมีชื่อ “หมอชลน่าน” ด้วยหรือไม่ ต้องรอคนแดนไกลเคาะอีกครั้ง

จะเห็นได้ว่า หลังประกาศนั่งเก้าอี้นายกฯ ตำแหน่งเดียวเท่านั้น วันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา “บิ๊กแสนสิริ” เริ่มภารกิจเข้าร่วมระดมสมองกับคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรค ในฐานะที่ปรึกษาพรรคทันที

วันถัดมา (8 มี.ค. 66 ) เศรษฐา ลงพื้นที่หาเสียงกับพรรคเพื่อไทยครั้งแรก ในเขตคลองเตย  พร้อมบอกว่า จะพยายามลงพื้นที่ให้ครบทุกเวทีทุกจังหวัด เพื่อรับฟังปัญหาและรวบรวมข้อมูลมาทำเป็นนโยบายพรรคซึ่งจะทยอยคลอดออกมาเรื่อยๆ

วางมือ“แสนสิริ”ชั่วคราว

ความเคลื่อนไหวล่าสุด วันที่ 9 มี.ค.2566 เศรษฐา ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนพนักงานในเครือแสนสิริ ลงวันที่ 8 มี.ค. ระบุว่า “เพื่อแสดงความตั้งใจจริง วันนี้ผมได้ลางานชั่วคราวโดยไม่รับค่าตอบแทน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้เต็มที่” สำหรับจดหมายฉบับดังกล่าว มีเนื้อหาระบุว่า

“ในฐานะพนักงานแสนสิริคนหนึ่ง ผมได้แสดงจุดยืนในประเด็นทางเศรษฐกิจ สังคม และการบริหารประเทศมาโดยตลอดผ่านแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า แสนสิริ ซึ่งตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคม ทั้งในบทบาทของภาคเอกชน และในฐานะประชาชนคนหนึ่ง จุดยืนดังกล่าวได้หล่อหลอมความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างแน่วแน่ และก่อให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะลงมือขยายผลให้ขอบเขตกว้างยิ่งขึ้นไปอีก

ในวันนี้ ผมได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งเป็นโอกาสที่ผมจะได้ช่วยผลักดันประเทศไทยให้ดีขึ้นในเชิงโครงสร้างและนโยบาย ผมมีความตั้งใจที่จะนำประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ มาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยให้มุ่งไปข้างหน้า เร่งพัฒนาให้ประเทศไทยกลับมายิ่งใหญ่ในสายตาประชาคมโลก และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม และโอกาส ซึ่งปรากฏมากขึ้นเหลือเกินในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา

                                เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

หวังสร้างความเปลี่ยนแปลง

นายเศรษฐา ระบุอีกว่า ผมมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นไปอีกสำหรับคนไทยทุกคน รวมถึงแขกที่มาเยือนจากทั่วโลก

เพื่อทุ่มเทให้กับหน้าที่ใหม่นี้ ผมตัดสินใจที่จะลางานชั่วคราวโดยไม่ขอรับค่าตอบแทน เพื่อไปลงมือทำงานพัฒนาประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น และสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เหมือนที่ผมได้นำเพื่อนพนักงานทุกท่านช่วยเหลือสังคมผ่านแสนสิริมาโดยตลอด ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าผู้บริหารและเพื่อนพนักงานจะให้การสนับสนุนความตั้งใจของผมในครั้งนี้

ผมขอฝากแสนสิริไว้ในมือของผู้บริหารและเพื่อนพนักงาน ผมเชื่อมั่นในความสามารถและประสบการณ์ของพวกเราทุกคนที่จะขับเคลื่อนให้แสนสิริก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง และนำพาให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะช่วยเหลือสังคมต่อไปอย่างที่แสนสิริเคยเป็นเสมอมา

สุดท้ายนี้ ผมขอแสดงความจริงใจกับผู้บริหาร เพื่อนพนักงาน ผู้ถือหุ้น และภาคสังคม ว่าทุกความรับผิดชอบที่ผมได้รับมอบหมายมานั้น ผมมีความตั้งใจที่จะลงมือทำอย่างเต็มที่ สุดความสามารถ เพราะผมเชื่อว่าประเทศไทย คือ อนาคตของพวกเราทุกคน”

ศึกเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ คนไทยจะได้เห็นนักการเมืองหน้าใหม่ที่ชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” ลุยพื้นที่ และปราศรัยบนเวทีเพื่อไทย แบบรัวๆ ทั่วประเทศ 

ส่วน เศรษฐา จะไปถึงเก้าอี้  “นายกรัฐมนตรี คนที่ 30” หรือไม่ ต้องรอลุ้นหลังรู้ผลการเลือกตั้ง ในวันที่ 7 พ.ค. หรือ 14 พ.ค. 2566 นี้