Coursera แพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ระดับโลก เปิดตัวคู่มือ ‘Closing the Gender Gap in GenAI Skills’ เพื่อแก้ไขปัญหาช่องว่างทางเพศในทักษะ Generative AI (Gen AI) โดยคู่มือนี้นำเสนอแนวทางปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้จริง เพื่อเสริมศักยภาพให้ผู้หญิงเข้าถึงและใช้ประโยชน์จาก Gen AI ได้มากขึ้น พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างระบบนิเวศ AI ที่ครอบคลุมและเท่าเทียมมากยิ่งขึ้น
ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตด้านการปรับใช้ Gen AI อย่างรวดเร็ว แต่สัดส่วนผู้หญิงในอุตสาหกรรมยังมีน้อยกว่าที่ควร ข้อมูลจาก Coursera พบว่า มีสัดส่วนผู้เรียนหญิงทั้งหมด 50% จากผู้เรียนทั้งหมดในไทย แต่มีเพียง 30% ที่ลงทะเบียนในหลักสูตร Gen AI ซึ่งอัตราส่วนการลงทะเบียนนี้ใกล้เคียงกับสถิติทั่วโลกที่ 32% โดยไทยรั้งอันดับที่ 42 ของโลกในด้านจำนวนผู้หญิงที่ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Gen AI ข้อมูลนี้สะท้อนให้ถึงความจำเป็นในการมีมาตรการสนับสนุนที่ชัดเจน เพื่อสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการทำงานในยุค AI
ถึงแม้ผู้หญิงจะยังมีสัดส่วนน้อยในสายงาน AI แต่ความสนใจในการเรียนรู้กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี 2567 การลงทะเบียนเรียน Gen AI ของผู้หญิงไทยเพิ่มขึ้นถึง 370% ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับอัตราเติบโตการลงทะเบียนเรียนของผู้ชายที่ 191% รัฐบาลไทยเร่งส่งเสริมทักษะ AI ผ่านโครงการยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ (2565-2570) โดยผนวก AI เข้ากับระบบการศึกษา การพัฒนาทักษะบุคลากร และการสร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรม ในฐานะที่ประเทศไทยตั้งเป้าหมายเป็นศูนย์กลางด้าน AI ของภูมิภาค
นโยบายดังกล่าวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายการเข้าถึงการศึกษาและอาชีพด้าน AI โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง การเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในด้าน AI จะช่วยขับเคลื่อนความเท่าเทียมและสร้างมุมมองที่หลากหลาย เพื่อพัฒนาและกำหนดอนาคตของเทคโนโลยีที่สร้างการเปลี่ยนแปลงนี้
คู่มือของ Coursera เน้นย้ำเรื่องอุปสรรคสำคัญที่จำกัดการมีส่วนร่วมของผู้หญิงใน Gen AI พร้อมทั้งกลยุทธ์ในการลดความไม่เท่าเทียม ซึ่งประกอบไปด้วย:
● ช่องว่างความมั่นใจส่งผลกระทบต่อความมุ่งมั่น: ผู้หญิงมักลังเลที่จะเข้าร่วมหลักสูตร Gen AI เนื่องจากขาดความมั่นใจในตัวเองแม้ว่าจะมีทักษะอยู่แล้วก็ตาม ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะลงทะเบียนในหลักสูตรระดับเริ่มต้นมากกว่าหลักสูตรระดับกลางถึง 6 เท่าบน Coursera โดยผู้หญิงจะให้ความสำคัญกับจุดเริ่มต้นที่มีแบบแผนและเข้าถึงได้ง่ายมากกว่า แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นว่าในประเทศไทยผู้หญิงนิยมเรียนหลักสูตร Gen AI ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น
● ข้อจำกัดด้านเวลาและแนวทางที่ไม่ชัดเจนเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาทักษะ: หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้หญิงจำนวนมากหยุดเรียนหลักสูตร STEM คือ 'ไม่มีเวลา' สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงของการต้องจัดสมดุลระหว่างภาระหน้าที่ในการดูแลครอบครัวและการทำงาน นอกจากนี้ ความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการนำ AI และ Gen AI ไปใช้ในสายอาชีพอาจทำให้เกิดความลังเล ซึ่งการขาดแนวทางการเรียนรู้ที่ชัดเจนและนโยบายด้าน AI ของนายจ้างจะยิ่งทำให้ปัญหานี้รุนแรงขึ้น
● การเข้าใจว่าตนเองไม่มีความเกี่ยวข้อง: ผู้หญิงหลายคนลังเลที่จะพัฒนาทักษะด้าน Gen AI เนื่องจากไม่แน่ใจเกี่ยวกับการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง แต่ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมมากขึ้นเมื่อ Gen AI มีความเชื่อมโยงกับสาขาอาชีพที่เป็นภาคปฏิบัติ เช่น การบริการด้านสาธารณสุข การศึกษา และอุตสาหกรรมการสร้างสรรค์ ทั้งนี้ กรณีศึกษาจากเหตุการณ์จริง หลักสูตร AI แบบสหวิทยาการ และโปรแกรมการเรียนรู้เชิงประยุกต์สามารถช่วยให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและสอดคล้องกับเส้นทางอาชีพมากขึ้น โดยผู้หญิงมีการใช้ Coursera Coach มากกว่าผู้ชายถึง 11% จากทั่วโลก เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการเรียนรู้ AI อย่างเป็นระเบียบแบบแผน และได้รับคำแนะนำเฉพาะตัวที่เหมาะกับแต่ละบุคคล
● การขาดแบบอย่างทำให้เกิดการจำกัดการมีส่วนร่วมและการรักษาตำแหน่งงานของผู้หญิง: จำนวนผู้นำหญิงในวงการ AI และการศึกษาที่น้อยลงส่งให้ผลให้เกิดการมีส่วนร่วมน้อย งานวิจัยของ Oxford Academy เผยว่า ยิ่งมีจำนวนครูผู้หญิงระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในระบบ STEM มากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้นักเรียนหญิงมีโอกาสสำเร็จการศึกษาด้าน STEM มากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Coursera ยังแสดงให้เห็นว่าหลักสูตร STEM ที่มีอาจารย์ผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน ดึงดูดผู้เรียนหญิงให้เข้าเรียนได้สูงกว่าค่าเฉลี่ย 7% แม้ว่าจำนวนผู้หญิงในระบบ STEM ของประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นจาก 27% ในปี 2019 เป็น 32% ในปี 2024 เนื่องจากปัจจัยหลายประการ แต่นี่ก็ถือสัญญาณทางบวกในการลดช่องว่างทางเพศ โดยกุญแจสำคัญในการเพิ่มการมีส่วนร่วมระยะยาวในอาชีพด้าน GenAI อย่างยั่งยืน คือการเพิ่มการจำนวนนักศึกษาหญิง ที่ปรึกษาด้าน AI และแบบอย่างที่ดีในอุตสาหกรรม
นางสาวการีน อัลลูช (Karine Allouche) หัวหน้าฝ่ายธุรกิจองค์กรของ Coursera กล่าวว่า “แม้ว่าประเทศไทยจะมีความต้องการในการเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI สูงเป็นลำดับต้น ๆ แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีจัดการความต้องการเหล่านี้อย่างเท่าเทียมเพื่อพัฒนากำลังคนของประเทศและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติ ในขณะที่การแข่งขันด้านความรู้เกี่ยวกับ AI ในระดับโลกทวีความรุนแรงมากขึ้น ภารกิจที่เร่งด่วนและสำคัญไม่แพ้กันคือการขยายโอกาสด้าน Gen AI ให้กับผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างทักษะที่สำคัญ และสนับสนุนให้ผู้หญิงเป็นผู้นำในเศรษฐกิจดิจิทัล การส่งเสริมผู้หญิงให้มากยิ่งขึ้น จะช่วยให้เราสามารถสร้าง AI โดยเสียงที่หลากหลายเพื่อโลกที่ดีขึ้น”