แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรกของปี 2568 แต่ปรากฏว่า มีระเบียบวาระการประชุมที่ค้างการพิจารณาเป็นจำนวนมากถึง 42 เรื่อง โดยมีเรื่องสำคัญหลายเรื่องที่ค้างอยู่ บางวาระก็ค้างเกือบ 2 ปี ประกอบไปด้วย
สำหรับ วาระที่ค้างพิจารณาในการประชุม กสทช.ครั้งที่ 1/2567 มีวาระค้างพิจารณาเพียง 34 เรื่อง ซึ่งน้อยกว่าการประชุม กสทช. ครั้งที่ 1/2568 ที่มีจำนวน 42 เรื่อง แสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมายังไม่สามารถดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
แหล่งข่าวระบุอีกว่า นอกจากนี้ ในวาระแผนการตรวจสอบภายในของคณะกรรมการตรวจสอบภายใน กสทช. ได้มีการเสนอให้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบภายในเพิ่มเติม อีก 1 คน โดย กสทช.พล.อ.ท. ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ เสนอ นายประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง เข้ามาช่วยงานเพิ่มเติม เนื่องจากมีกรรมการลาออก ไป 1 คน ทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 4 คน
ตามกฎหมายกสทช.กำหนดให้มี 3-5 คน แต่ประธาน กสทช.ไม่ยอมตั้งโดยอ้างว่าไม่อยู่ในวาระ และถามถึงเหตุผล ที่ทำไมไม่ยอมให้คนมีความรู้ประสบการณ์เข้ามาช่วยงาน โดยอ้างและตัดบทว่า 4 คน ก็ทำงานได้แล้ว และไม่ยอมให้มีการโหวตเพื่อเสนอชื่อ นายประจักษ์ฯ เข้ามาเป็นกรรมการ
เรื่องดังกล่าวสร้างความแคลงคลางใจถึงความโปร่งใสในการตรวจสอบทางด้านการเงินของสำนักงาน กสทช. เป็นอย่างยิ่ง เพราะแหล่งข่าวจากสำนักงาน กสทช. แจ้งว่า สมัยที่นายประจักษ์เป็นผู้ว่า สตง. ได้เคยแจ้งถึงเรื่อง กรณีที่นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการและรองเลขาธิการกสทช. โดยให้ผลสอบว่าทำผิดกรณีอนุมัติการจ้างประชาสัมพันธ์บนรถไฟฟ้า BTS ราคาสูงเกินจริง รวมทั้งกรณีการแบ่งซื้อแบ่งจ้างในโครงการ ERP อีกด้วย.