จากกรณีที่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี อยู่ระหว่างปรับปรุง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพิ่มอัตราเพิ่มปรับเป็น 5 ปี และ เพิ่มความรับผิดชอบให้สถาบันการเงิน ภายใต้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่นที่ ร่วมรับผิดชอบในความเสียหายของประชาชนที่ถูกหลอกลวงออนไลน์ คาดว่า พ.ร.ก.ป้องกันเทคโนโลยีฯ ประกาศภายในเดือนมกราคม 2568 นั้น
ล่าสุด นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า TRUE พร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่ง TRUE ได้ออกมาตรการป้องกันภัยไซเบอร์ภายใต้ชื่อ “ทรู ไซเบอร์เซฟ – True CyberSafe" ระบบป้องกันภัยไซเบอร์จากมิจฉาชีพ ใน 4 รูปแบบ คือ
อย่างไรก็ตามจากสถิติหลังจากเปิดระบบ True CyberSafe ระหว่างวันที่ 3 - 9 ธันวาคม 2567 พบข้อมูลดังนี้ จำนวนครั้งที่ลูกค้าคลิกลิงก์แปลกปลอมทั้งหมด 10,773,877 ล้านครั้ง สามารถปกป้องลูกค้าจากการคลิกลิงก์แปลกปลอมได้ถึง 10.3 ล้านครั้ง คิดเป็น 96.28% ที่ระบบสามารถปกป้องได้
อย่างไรก็ตาม TRUE ยังคงเคารพสิทธิ์ลูกค้าหากลูกค้ายังยืนยันจะคลิกเข้าลิงก์ที่ได้รับการแจ้งเตือนต่อไป ก็สามารถทำได้ โดยพบว่า จำนวนครั้งที่ลูกค้ายืนยันเข้าลิงก์แปลกปลอมอยู่ที่ 400,283 คลิก ( จาก 10,773,877 ล้านคลิก )
โดย 4 ประเภทลิงก์แปลกปลอมที่พบจากระบบ True CyberSafe ในช่วงที่ผ่านมา มีดังนี้
อันดับ 1 : มัลแวร์ – เป็นไวรัสหรือซอฟแวร์เข้ามาฝังตัวในเครื่อง เพื่อเปิดช่องทางเข้ามาควบคุมเครื่องของเรา
อันดับ 2 : ฟิชชิง – เป็นการหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงิน เช่น รายละเอียดบัตรเครดิต หรือรหัสผ่าน
อันดับ 3: หลอกลงทุน - มีการแสดงผลกำไรที่สูงเกินควร เพื่อดึงดูดความสนใจ รวมไปถึงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล เช่น คริปโต
อันดับ 4 : สแกม – การหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ ทางออนไลน์ เช่น สแกมบัตรเครดิต, สแกมถูกรางวัล, สแกมค่าธรรมเนียมศุลกากร และโรแมนซ์สแกม
หมายเหตุ: พบว่า 1 ลิงก์ มีมากกว่า 1 ประเภทการหลอกลวง
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าร่วมกับภาครัฐทุกภาคส่วน ในการตรวจสอบและเพิ่มลิงก์แปลกปลอมในฐานข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อบล๊อคการเข้าถึงเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตรายได้ อีกด้วย
ขณะที่ AIS หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ได้มีมาตรการป้องกันภัยไซเบอร์ให้กับลูกค้าด้วยการเปิดสายด่วน AIS Spam Report Center 1185 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง โดย AIS จะตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. ออกมาเปิดเผยสถิติของศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ถึง 30 พฤศจิกายน 2567 มีการแจ้งความเกี่ยวกับคดีออนไลน์กว่า 739,000 เรื่อง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 77,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 77 ล้านบาท.