จากกรณีแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ระบาดอย่างหนักส่งผลเสียหายมูลค่าหลายล้านบาท ล่าสุด น.ส.ชาล็อต ออสติน นางงามคนดัง โดนแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินเสียหายถึง 4 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ 19 ธ.ค.67 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงการปราบปรามอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตและการช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกโกง ภายหลังสิงคโปร์เตรียมบังคับใช้กฎหมายให้ธนาคารและค่ายมือถือร่วมรับผิดชอบหากลูกค้าโดนหลอกโอนเงิน ว่า กระทรวงฯก็มีการดำเนินการในเรื่องนี้เช่นเดียวกันโดยเป็นการแก้ไขพระราชกำหนดว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมด้านไซเบอร์ และ ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานกฤษฎีกา
ทั้งนี้ ในรายละเอียดการแก้ไขพระราชกำหนดดังกล่าวมีหลายเรื่อง โดยมาตรการที่หนึ่ง การมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบของธนาคารพาณิชย์และโอเปอเรเตอร์ , มาตรการที่สองคือการจ่ายเงินคืน และมาตรการที่สาม คือ การเพิ่มโทษผู้กระทำความผิด ส่วนรายละเอียดการคืนเงินให้กับผู้เสียหายอยู่ระหว่างการพูดคุย ซึ่งยังไม่มีกำหนด และไม่ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมสภาฯ สามารถดำเนินการได้เลย และขณะนี้ตนก็เร่งรัดเรื่องนี้อยู่
“ถ้าเราออกมาตรการไปแล้ว และหากโอเปอเรเตอร์ และธนาคารไม่ปฏิบัติตาม ทำให้เกิดความเสียหาย ก็ต้องมีส่วนร่วมในเงินที่ประชาชนเสียไป”
ส่วนมาตรการ ดังกล่าวมีการสอบถามค่ายมือถือและธนาคารแล้วหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า มีการพูดคุยแล้ว ซึ่งเขาเห็นด้วย และเป็นมติของที่ประชุมว่าต้องดำเนินการ เพื่อตัดทุกช่องทางของมิจฉาชีพ
เมื่อถามว่า รายละเอียดจำนวนเงินที่จะคืนผู้เสียหายได้มีการกำหนดไว้อย่างไร นายประเสริฐ ระบุว่า การดำเนินการต้องเข้าสู่กระบวนการสืบทราบที่มาที่ไป หากบางรายสามารถติดตามคืนได้เร็ว ก็สามารถคืนได้ทันที แต่ถ้าทิ้งไว้ช่วงเวลาหนึ่งและเงินไปอยู่ในบัญชีของมิจฉาชีพและดำเนินการตรวจสอบที่มาที่ไปทางการเงินได้ ซึ่งอาจจะยากลำบากหน่อย อันนี้เป็นอีกกรณีหนึ่ง
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในวันที่ 1 มกราคม 2568 จะมีอีก 1 มาตรการออกมา เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต คือ มาตราการการส่ง SMS ไปยังโทรศัพท์ต่างๆ ที่มีการแนบลิงค์เพื่อลงทะเบียน ผู้ส่งต้องแจ้งสถานะว่าเป็นใคร หากไม่พบข้อมูลผู้ส่ง โอเปอเรเตอร์จะมีการระงับการส่งดังกล่าว.