นายสวภพ ท้วมแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจัดการร้านค้าออนไลน์ครบวงจร เปิดเผยว่าตลาดอีคอมเมิร์ซยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายการเข้ามาทำตลาดของต่างชาติ เช่น ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการเข้ามาของ Temu แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากจีน มองว่าในส่วนนี้นอกจากการช่วยเหลือระดับนโยบายของภาครัฐแล้ว สิ่งที่ภาคธุรกิจทำได้คือ การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า จะช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถก้าวข้ามอุปสรรคและเติบโตได้ในระยะยาว
ด้านแนวโน้มตลาดอีคอมเมิร์ซนั้นการแข่งขันด้วยโค้ดลดราคาใน Marketplace จะลดลง โดยภาระจะตกที่ผู้ขายที่ต้องจัดโปรโมชันเพื่อแข่งขัน และ AI จะถูกนำมาใช้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็น AI Automation และ AI Live ส่งผลให้การเติบโตของเทคโนโลยี AI จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดอีคอมเมิร์ซในปีหน้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของธุรกิจออนไลน์ ตั้งแต่การจัดการคำสั่งซื้อไปจนถึงการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร และ Cross Border E-commerce การทำธุรกิจซื้อขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ระหว่างประเทศ หรือการขนส่งสินค้าจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง จะมีผลกระทบกับตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยมากขึ้น จนผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปีที่ 10 ของ ZORT นั้นจะมุ่งนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมทัพระบบจัดการร้านค้า เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การปรับปรุงกระบวนการทำงาน หรือการพัฒนาบริการใหม่ๆ ให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด
นอกจากนี้ยังมุ่งขยายตลาดต่างประเทศเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ และเพิ่มฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ปัจจุบันเริ่มเข้าไปทำการตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ และมีแผนจะขยายไปยังประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยขยายตลาดไปยังต่างประเทศ เมื่อฐานการให้บริการในต่างประเทศของ ZORT แข็งแรงในประเทศนั้นๆ ZORT จะดำเนินตามเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ด้วยการสนับสนุนเสมือนประตูเชื่อมโอกาสการขยายธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทยไปต่อยอดในต่างประเทศได้
ขณะเดียวกันยังยึดมั่นความถูกต้องและโปร่งใส ผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเติบโตอย่างเป็นระบบ ตรวจสอบได้นำมาซึ่งการขยายธุรกิจที่สะดวกและไร้กังวลในทุกๆ ด้าน และวิเคราะห์ด้านการตลาดที่แม่นยำขึ้น ด้วยการเก็บข้อมูลลูกค้า สินค้า ยอดขาย ช่วยให้มีข้อมูลมากพอที่จะวางแผนการตลาดได้ง่ายขึ้น เมื่อข้อมูลในระบบ ZORT มีมากขึ้น ข้อมูลที่ถูกประมวลผลหรือแสดงออกมาจะทำให้เห็นภาพกว้างของธุรกิจได้มากขึ้น
นายสวภพ กล่าวว่าปีนี้ถือเป็นปีที่สำคัญสำหรับ ZORT แพลตฟอร์มจัดการร้านค้าออนไลน์ครบวงจร ที่เปิดให้บริการครบรอบ 9 ปี ถือเป็นความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านระบบจัดการหลังบ้านที่ตอบโจทย์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจแบรนด์ชั้นนำและแบรนด์ขนาดเล็กให้เติบโตอย่างมั่นคง ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดออนไลน์ ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2558 ZORT มุ่งมั่นพัฒนาระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่ใช้งานง่าย ครอบคลุมทั้งการจัดการสต๊อก การประมวลผลคำสั่งซื้อ การออกเอกสารบัญชี และการรายงานผลการดำเนินงานอย่างครบวงจร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจออนไลน์ บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการสร้างการเติบโตให้กับลูกค้า ลูกค้าของ ZORT มีมูลค่าการเติบโต 30% ในปี 2567 โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ถึง 100 ล้านบาท และมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 55% เมื่อเทียบกับปี 2566
“เราเห็นการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ในประเทศไทยอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่การค้าขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ทำให้ ZORT โดดเด่นคือการเป็นระบบหลังบ้านที่สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซชั้นนำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการได้ง่ายขึ้นและมีความคล่องตัวมากขึ้น ปัจจัยความสำเร็จของ ZORT คือวิสัยทัศน์ “Fast-Tracking Business Success with Ultimate Services and Intelligent Solutions” ด้วยจุดเด่นของระบบครบวงจรที่ธุรกิจต้องการ ร่วมมือกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญ ด้วยบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์ลูกค้าและสร้างการเติบโตให้ลูกค้าในระยะยาว ตัวอย่างเช่น ลูกค้าในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางขยายไปยังช่องทางออนไลน์ใหม่และออฟไลน์ ยอดขายเติบโต 4 เท่า และลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มขยายจากออฟไลน์ไปออนไลน์ ยอดขายเติบโตเท่าตัว”