นายธนพนธ์ เบญจรงคกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารคู่ค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัท วายเอ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ YAS ในกลุ่มเบญจจินดา (BCG) เปิดเผยว่าจากผลสำรวจรูปแบบการทำงานปี 2023 และทิศทางอนาคตมองว่าองค์กรยุคใหม่จะมีรูปแบบการทำงานในลักษณะ Hybrid Working ใช้นโยบาย Flexible Workplace ถึง 82% และ พนักงาน 71% มีความเห็นว่า การทำงานรูปแบบ Flexible Workplace ช่วยให้การทำงานดีขึ้น ดังนั้นอุปกรณ์สื่อสาร จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นควบคู่ไปกับในการใช้งานในชีวิตประจำวัน
YAS เล็งเห็นโอกาสทาง การตลาดจากรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปดังกล่าว สะท้อนด้วยมูลค่าตลาดลูกค้าองค์กรที่สูงกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท หรือคาดว่าเติบโตไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี ล่าสุด YAS ได้รับการแต่งตั้งจากซัมซุง ให้เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ (Official Partner) จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซัมซุง โดยเน้นตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร ผลักดัน Samsung Galaxy for Work เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่องค์กรในยุคดิจิทัล
“ด้วยศักยภาพของกลุ่มเบญจจินดา (BCG) ที่มีเน็ตเวิร์กและประสบการณ์การทำตลาด ดูแลกลุ่มลูกค้าองค์กรมายาวนานกว่า 20 ปี มีฐานลูกค้าองค์กรที่ให้บริการอยู่กว่า 3,000 ราย โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายในอุตสาหกรรมหลัก เป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีก กลุ่มการให้บริการกลุ่มการธนาคารและการเงิน และกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต”
นายธนพงษ์ กล่าวต่อไปอีกว่าองค์กรยุคใหม่ส่วนใหญ่ได้ปรับตัวเพื่อตอบรับการเปลี่ยน แปลงไลฟ์สไตล์การทำงานของพนักงานในยุค Hybrid Working โดยให้ความสำคัญกับการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ไร้รอยต่อ และสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ YAS และกลุ่มเบญจจินดาพร้อมนำเสนอและร่วมสร้าง B2B อีโคซิสเต็มอย่างยั่งยืน ด้วยผลิตภัณฑ์จากซัมซุงและบริการต่างๆ จากกลุ่มเบญจจินดา (BCG) เช่น บริการอินเตอร์เน็ตผ่านโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติก Cloud service และ Cyber Security ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้ทุกมิติ”
ด้านนายภาณุพัฒน์ เกษมสุข หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ องค์กร โมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ตามแผนธุรกิจปีนี้ซัมซุงต้องการบุกตลาดลูกค้าองค์กรด้วย “Galaxy for Work” ที่มีครบครันทั้งดีไวซ์ โซลูชันและการบริการที่พัฒนาขึ้นเพื่อลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ โดยมีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่พร้อมตอบโจทย์กับองค์กรในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัย ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และความทันสมัย ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในองค์กร
ด้วยกลยุทธ์การสร้าง B2B อีโคซิสเต็มอย่างยั่งยืนนั้น เน้นเพิ่มกลุ่มสินค้าและการ บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าองค์กรมากขึ้น ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่พร้อมให้บริการอย่างครบครัน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเพิ่มอายุการใช้งานให้ยาวขึ้น ด้วยการรับประกันสินค้า 2 ปี และการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง จากความพร้อมของ YAS และกลุ่มเบญจจินดา (BCG) ในการขยายความร่วมมือทางธุรกิจกับ ซัมซุง ในด้านการขายและการตลาดนั้น สามารถตอบโจทย์กลยุทธ์ที่กำหนดไว้สำหรับการขยายตลาดลูกค้าองค์กรของซัมซุงได้เป็นอย่างดี
ขณะที่นายวินัย สวัสดิมานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ไทยซัมซุง อิเล็กทรอนิคส์ จำกัด กล่าวเสริมว่าตลาดสมาร์ทโฟนคอนซูเมอร์ว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแข่งขันของตลาดสมาร์ทโฟนมีการแข่งขันกันสูงมาก แต่ซัมซุงยังคงครองตำแหน่งแบรนด์สินค้าสมาร์ทโฟนที่มี ยอดขายเป็นอับดับหนึ่ง ด้วยการนำเสนอสมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพ ลํ้าสมัย ครบทุก ผลิตภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัวในทุกกลุ่ม
โดยความสำเร็จล่าสุดจากการเปิดจำหน่าย Samsung Galaxy S24 ที่มี Galaxy AI เป็นฟีเจอร์หลัก ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ลูกค้าได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการได้รับความร่วมมือจากตัวแทนจำหน่าย พันธมิตรในการตลาด และการขายเป็นส่วนที่สำคัญทำให้ซัมซุง ประสบความสำเร็จ YAS เป็นหนึ่งพันธมิตรและตัวแทนจำหน่ายที่สามารถจัดจำหน่าย กระจายสินค้าสู่ลูกค้า และดูแลลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างที่ได้รับการมอบหมายได้เป็นอย่างดี