ดร. ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับบริษัทฯ และธุรกิจของคู่ค้า ด้วยศักยภาพด้านเทคโนโลยี บริการที่มีความ Unique และอีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่งของทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ ภายใต้กลยุทธ์ “2024 Deep Tech Revolution: catalyzing growth with AI, Media and MarTech” เดินหน้าผลักดันทุกธุรกิจสู่อนาคตที่เติบโต ด้วยบริการด้านวิเคราะห์ดาต้า, มีเดีย และมาร์เทค โซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยดาต้า, AI และเทคโนโลยีขั้นสูง
โดยกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจปีนี้ คือ การใช้ศักยภาพ AI และ Generative AI ที่เหนือกว่า มาเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันทุกมิติ รวมถึงพัฒนาบริการใหม่ๆ โดยวางการทำงานเชิงรุกไว้ 6 ด้าน ได้แก่ 1. มุ่งใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ โดยจะพัฒนาบริการใหม่ที่ช่วยยกระดับธุรกิจคู่ค้าในมิติต่าง ๆ 2. ขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในและต่างประเทศ 3. เพิ่มขีดความสามารถด้าน AI ให้กับบุคลากร พร้อมดึงดูดคนรุ่นใหม่มาร่วมงาน 4. ผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีที่เป็นกลุ่มสตาร์ทอัป และมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย 5. นำเสนอโซลูชัน AI ที่ใช้งานง่าย เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงและสามารถใช้งานโซลูชันได้แม้ไม่มีทักษะเฉพาะทาง 6. ขยายบริการที่ปรึกษาด้านมีเดียและมาร์เทค โซลูชัน โดยเน้นนำ AI มาเพิ่มศักยภาพของบริการ ซึ่งทั้ง 3 ธุรกิจหลักจะนำกลยุทธ์และแผนเหล่านี้ไปดำเนินงานในปีนี้”
“ในปีที่ผ่านมา เอ้ก ดิจิทัล สามารถสร้างรายได้ทะลุ 2,200 ล้านบาท เติบโตจากปี 2022 ถึง 32% ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่โดดเด่นของ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจ Analytics AI and Consultation ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI แก่ธุรกิจต่างๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจเข้าใจข้อมูลของลูกค้า ข้อมูลภายในองค์กร พฤติกรรมตลาด และแนวโน้มต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น, ธุรกิจ Media Convergence มุ่งผสานช่องทางสื่อต่างๆ เข้าด้วยกัน ทั้งสื่อออนไลน์ สื่อในห้างค้าปลีก สื่อนอกบ้าน และกิจกรรมส่งเสริมการขายในห้าง เพื่อสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อให้ผู้บริโภค พร้อมช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้หลายช่องทาง และธุรกิจ MarTech Solution นำเทคโนโลยีมาช่วยธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาด การดำเนินงาน และเข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น ผ่านช่องทางการสื่อสาร SMS LINE รวมถึงเชื่อมโยงกับโมบายแอปพลิเคชัน และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) โดยเอ้ก ดิจิทัลสามารถส่งมอบผลงานที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละองค์กรได้อย่างเหนือชั้น มีการพัฒนาและขยายบริการตลอดปี ปัจจุบันได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ารวมกว่า 400 แบรนด์
ดร. ธีรเดช กล่าวต่อไปอีกว่า “องค์กรธุรกิจในปัจจุบันต้องปรับตัวให้ทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา รวมถึงต้องหยิบดาต้ามหาศาลที่เกิดขึ้นใหม่ในทุกๆ วันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเอ้ก ดิจิทัล มุ่งหวังที่จะเป็นพาร์ทเนอร์ที่สนับสนุนทุกธุรกิจของไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด สามารถทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล และสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเราจะหลอมรวมความเชี่ยวชาญทุกด้านเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีขั้นสูง AI, Generative AI, ML, First Party Data 720, ประสบการณ์ของทีมผู้เชี่ยวชาญ 4D เพื่อนำเสนอบริการแบบ End-to-End ที่มีความเฉพาะตัวเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละธุรกิจ ขณะเดียวกัน เราจะเดินหน้าอัปสกิลด้าน Data Analytics, AI, และ Digital Marketing ให้กับพนักงานอยู่เสมอ รวมถึงผนึกความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ จัดโครงการ Internship Program พัฒนาทักษะนักศึกษาผ่านการฝึกงานจริง พร้อมดึงดูดคนรุ่นใหม่เหล่านี้มาทำงานกับเรา
สำหรับปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายผลักดันรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 25% และขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น 15% พร้อมก้าวสู่ผู้นำด้าน AI, Data-Driven Solutions, Media และ MarTech ในประเทศไทย”
ด้านนางสาวรัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ MarTech Solution บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2024 คาดการณ์ว่า องค์กรต่างๆ จะใช้งบลงทุนด้าน MarTech โดยเฉลี่ย 46% ของงบการตลาดขององค์กร* สะท้อนให้เห็นว่า MarTech ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำการตลาดยุค Data-Driven ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ ซึ่งเราจะรุกตลาดด้วย 2 แนวทาง ได้แก่ 1. เพิ่มศักยภาพบริการด้วย AI, เทคโนโลยีขั้นสูง และฐานข้อมูลของลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวางกลยุทธ์และแผนการตลาดดิจิทัลให้คู่ค้า เพราะจาก Use Case ที่ประสบความสำเร็จในการใช้ AI และ Loyalty Platform สร้างแคมเปญการตลาดและให้ความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ ผลลัพธ์คือเราสามารถเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ได้ 100% เปิดช่องทางการสื่อสารใหม่ และเพิ่มจำนวนสมาชิก Social Media ของแบรนด์ได้ถึง 30%
2. เปิดตัวบริการใหม่ E-LON (EGG LINE Official Notification) โซลูชันส่งข้อความทางเบอร์โทรศัพท์ผ่าน SMS และ LINE ซึ่งจุดเด่นที่แตกต่างของบริการนี้อยู่ที่การนำดาต้าของคู่ค้ามาต่อยอดวิเคราะห์ด้วย AI ทำให้การส่งข้อความมีประสิทธิภาพและตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือ เพราะสามารถยืนยันตัวตนผู้ส่งได้ ช่วยลดปัญหาข้อความจากมิจฉาชีพ สร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้รับ ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง กลุ่มยานยนต์ กลุ่มอาหารเครื่องดื่ม กลุ่มการเงินและสินเชื่อประกัน ที่สนใจใช้บริการ E-LON โซลูชันเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง