วันนี้ 12 มีนาคม 2567 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ บอร์ด กสทช. จัดให้มีนัดประชุมวาระพิเศษ ซึ่งมีด้วยกัน 6 วาระ ล่าสุด พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ทำหน้าที่โฆษกด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า การประชุมวาระพิเศษ เพื่อยื่นคำให้การกรณี นางสุรางคณา วายุภาพ ยื่นฟ้อง ประธาน กสทช.และคณะกรรมการ กสทช. ต่อศาลปกครอง กรณีการสรรหา เลขาธิการ กสทช.ซึ่ง กสทช. ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลปกครองที่จะครบกำหนดภายในวันที่ 17 มีนาคม 2567 โดย นางสุรางคณา ได้ยื่นฟ้องประธาน กสทช.เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 และ บอร์ดกสทช. 7 คน เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 2 หลังจากที่มีการเลื่อนคำให้การมาแล้ว 2 ครั้ง
ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีการสรุปคำชี้แจงยืนยันว่ากระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช.เป็นอำนาจของ ประธาน กสทช.ตามมาตรา 61 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุและกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม นอกจากนี้จะมีการนำผลการพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ตัดสินยกฟ้อง ประธาน กสทช.กรณีนายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ กสทช.ฟ้องประธานกสทช.ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณี ประธาน กสทช.ไม่แต่งตั้งนายภูมิศิษฐ์ เป็นรักษาการเลขาธิการ กสทช .แทน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. ในกรณีถูกสอบคดีบอลโลก โดยเนื้อหาส่วนหนึ่งในคำตัดสินระบุว่า มาตรา 61 พ.ร.บ.กสทช.บัญญัติให้ประธาน กสทช.โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกสทช.เป็นผู้แต่งตั้งและถอดถอนเลขาธิการกสทช.
อย่างไรก็ตาม การฟ้องร้องครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับประธานโดยตรง ขณะที่บอร์ดคนอื่นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงเพราะกระบวนการสรรหาอยู่ที่ประธานกสทช.ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันกับเนื้อหาที่จะชี้แจ้งต่อศาล
รายละเอียดคำพิพากษา (คลิก)
ขณะที่แหล่งข่าวจากสำนักงาน กสทช. เปิดเผยว่า ในคำให้การที่ต้องเสนอต่อศาลมีการปรับแก้เนื้อหาอยู่ 4 ประเด็น ได้แก่ 1.การตัดข้อความที่ระบุว่า ปัจจุบันนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ดำรงตำแหน่งเป็น รักษาการเลขาธิการกสทช. ซึ่งเสียงที่ประชุมส่วนใหญ่ เห็นว่า เป็นข้อความที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องครั้งนี้ เพราะเป็นการฟ้องเรื่องกระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช. 2.เนื้อหาที่ระบุว่า กรรมการเสียงข้างมากทั้ง 4 คน คือ พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ,นางสาวพิรงรอง รามสูต ,นายศุภัช ศุภชลาศัย และนายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ มีส่วนร่วมในการออกคำสั่งทางปกครอง ซึ่งความหมายของคำสั่งทางปกครอง หมายความว่าเป็นมติบอร์ด จึงขอให้เติมข้อความให้ชัดเจน ว่า เป็นคำสั่ง ลงชื่อ โดยประธานเพียงคนเดียว เพราะการสรรหาไม่ได้เกี่ยวข้องกับบอร์ดกสทช.
3.ให้ตัดเนื้อหาที่ระบุว่า มีส่วนร่วมในการสรรหา และมีส่วนร่วมในการสัมภาษณ์ ออก เนื่องจากบอร์ดมีส่วนร่วมเพียงการรับฟังวิสัยทัศน์ เพื่อทราบข้อมูลในการหารือหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกร่วมกัน แต่เมื่อเข้าประชุมแล้วกรรมการกลับมีหน้าที่เพียงรับฟังวิสัยทัศน์ และไม่ได้มีการวางหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกแต่อย่างใด
4.การตัดรายงานการประชุมเรื่องการลงมติสรรหาเลขาธิการกสทช.ออก เนื่องจากในการประชุมเพื่อลงความเห็น ยังไม่มีการสรุปรายงานการประชุม เนื่องจากการลงมติการประชุม กรรมการเสียงข้างมากลงมติ ไม่เห็นชอบ กระบวนการสรรหา ขณะที่กรรมการเสียงข้างน้อย ลงมติเห็นชอบนายไตรรัตน์ เป็นเลขาธิการกสทช. ดังนั้นจึงขอแยกเรื่องนี้ให้มีการสรุปเป็นมติที่ประชุมให้เรียบร้อยก่อนจึงส่งให้ศาลต่อไป