วันนี้ 11 มีนาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ได้ปาฐกถาพิเศษ ในงานสัมมนา THAILAND 2024 TECH & SUSTAIN อนาคตประเทศไทยก้าวต่อไปของนวัตกรรมและความยั่งยืน จัดโดย สปริงนิวส์ โดย รมว.ดีอี ปาฐกถาพิเศษภายใต้หัวข้อ AI เปลี่ยนโลกขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างไร โดย รมว.ดีอี กล่าวว่า กระทรวงดีอีได้ดำเนินงานแผนการขับเคลื่อนกระทรวงดีอี ภายใต้แผนงาน “The Growth Engine of Thailand” ภายใต้แผนงานทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย 1. การเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลในการสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ (Thailand Competitiveness)
2. การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Safety & Security) และ
3. การเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัลของประเทศ (Human Capital)
“ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อตื่นเช้า หรือ ก่อนเข้านอน โทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยที่ห้า ออกจากบ้านลืมกระเป๋าสตางค์ไม่จำเป็นต้องกลับไปเอา แต่ถ้าลืมมือถือหลายคนคิดหนักต้องกลับไปเอา เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องการเงิน เรื่องนัดหมาย และ สุขภาพ เทคโนโลยีเป็นเรื่องสำคัญมากถ้าประเทศไทยปรับตัวไม่ทันไม่สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ ในยุคแพร่ระบาดโควิด เทคโนโลยีได้มาแทนที่วันนั้นเชื่อได้ว่าใช้ชีวิตคนอยู่ไม่ได้ ซื้อของต้องสั่งแกร๊ป ประชุมผ่านทางซูม ดังนั้น ดิจิทัลมีส่วนบทบาทยิ่ง” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในปี 2567 กระทรวงดีอี มีแผนยกระดับแผนปฏิบัติการ โดยในปีนี้ได้วาง 7 Flagships ดังนี้
1. Cloud First Policy ปฏิเสธไม่ได้คลาวด์เป็นเรื่องจำเป็น วางคลาวด์ให้เป็นระบบมีศูนย์กลางอยู่ที่จุดเดียว ที่ผ่านมาลดค่าใช้ให้ได้เหลือ 7,000 -8,000 ล้านบาทจากเดิมใช้ปีละ 1 หมื่นล้านบาท
2. AI Agenda สำหรับ AI Agenda กระทรวงดีอี ได้วางโรดแมพเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ดังนี้
• National AI Service Platform แพลตฟอร์มรวมบริการด้าน AI บน GDCC
• พัฒนา Thai Large Language Model (Thai LLM) เป็น “โครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์สำหรับภาษาไทย”
• เตรียมพร้อมด้านจริยธรรม/กฎหมาย/สังคม (AI Ethics, Governance, Regulation) พัฒนาทักษะ AI
• Hackathon เสริมสร้างความรู้/ทักษะ AI สำหรับ SME และ ประชาชน
• การ Upskill/Reskill/Newskill ด้าน AI สำหรับบุคลากรทุกภาคส่วน
• เร่ง AI use case รัฐและเอกชน เช่น AI use case การพยากรณ์อากาศระยะปัจจุบันอัจฉริยะ ข้อมูลพยากรณ์กลุ่มฝนเชิงพื้นที่ระดับอำเภอ (ระยะ 3 ชั่วโมงข้างหน้า) บริเวณ 22 ลุ่มน้ำทั่วประเทศ และแผนที่เสี่ยงภัยสภาวะฝนตกหนักถึงหนักมาก
3. Cell Broadcast ระบบเตือนภัย มีแผนตั้งใจให้เสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี ระยะสั้นได้ทำงานร่วมกับโอเปอเรเตอร์เพื่อส่งข้อความเตือนภัยถึงผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
4.แก้ปัญหาภัยออนไลน์ กระทรวงดีอี มีความคิดยกระดับความเข้มข้น วันนี้ กระทรวงดีอี ทำหน้าที่เป็นกองในการปฏิบัติการ เตรียมตั้ง กรมปราบปรามด้านไซเบอร์ทั้งหมด สถิติอายัติบัญชีมากกว่า 59,000 บัญชี และ ระงับเบอร์ต้องสงสัยกว่า 30,000 เบอร์ สิ่งที่ทำต่อไป ยกระดับ AOC 1441 ใช้ AI ช่วยตรวจจับวิเคราะห์ ประมวลผล ขยายผลกวาดล้าง บัญชีม้า และ บัญชีของม้า
5.1 อำเภอ 1 IT Man ให้พัฒนาคนด้านดิจิทัล วันนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง กระทรวงดีอี มีการทำเอ็มโอยู กับ ทางภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลดิจิทัลที่เกิดขึ้น การยกระดับขีดความสามารถแข่งขันกับเวทีโลกได้
6. พัฒนากำลังคน
7.ยกระดับ Thailand Digital Competitiveness Ranking จากเดิมอยู่ในอันดับ 35 ปีนี้ขอขยับขึ้นมาอันดับที่ 33 เพราะในเอเชียประเทศไทยถูกจัดในอันดับที่ 3 เพื่อขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล
นอกจากนี้ รัฐบาลมีความพยายามผลักดัน บริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (Universal Service Obligation: USO) หรือโครงการ USO ซึ่งพื้นที่อินเทอร์เน็ต จำนวน 2 หมื่นจุด ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลยังไม่สามารถเข้าถึงได้ สิ่งเหล่านี้ต้องรีบดำเนินการ