จากกรณีที่ สำนักงานกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ได้กำหนดให้ผู้ถือถือครองซิมการ์ดจำนวนมาก ตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไปมายืนยันตัวตน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ม.ค.2567
ล่าสุดวันนี้ 6 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีและความมั่นคงของรัฐ เปิดเผยว่า หลังจากที่ สำนักงาน กสทช. กำหนดให้ผู้ถือครองซิมจำนวนมาก ตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไปมายืนยันตัวตน
โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ม.ค.2567 จากข้อมูลผู้ใช้บริการยืนยันตัวตนที่สรุปจากผู้ประกอบการทุกราย ณ วันที่ 28 มกราคม 2567 มีผู้ที่ถือครองซิมตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไป มายืนยันตัวตนแล้วจำนวนทั้งสิ้น 1,285,855 เลขหมาย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้มาลงทะเบียนซิมอีกต่อเนื่อง
สำหรับรายละเอียดการยืนยันตัวตน แบ่งเป็น
พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร กล่าวว่า ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เครื่อง GSM Gateways (Simbox) เป็นเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด ที่สามารถจุซิมได้จำนวนมากทำให้โทรได้จำนวนมาก ซึ่งมาตรการยืนยันตัวตนดังกล่าว จะเป็นการกำจัดเบอร์ที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นมิจฉาชีพออกจากเบอร์ใช้งานปกติ ป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมออนไลน์ทั้งแก๊งคอลเซนเตอร์ บัญชีม้า และภัยจากออนไลน์ทุกรูปแบบที่ต้องผ่านการใช้ซิมโทรศัพท์จำนวนมาก ดังนั้นหากผู้ที่เข้าข่ายถือครองซิมจำนวนดังกล่าวไม่มายืนยันตัวตน เบอร์เหล่านี้ก็จะโดนระงับและเคลียร์ออกจากระบบ
“กสทช. และ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้มีการทำงานร่วมกันเพื่อหาแนวทางป้องกัน รวมทั้งร่วมจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ตลอด แต่เนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์สรรหาวิธีหลอกลวงใหม่ๆ มาหลอกลวงประชาชน จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ระวังหากมีเบอร์แปลกโทรมา อย่าโอนเงินโดยไม่ตรวจสอบให้ดี อย่าคุยกับคนไม่รู้จัก และติดตามข้อมูลข่าวสารขององค์กรที่น่าเชื่อถือ เหล่านี้จะเป็นกำแพงป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้” พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร กล่าว
นอกจากนี้ ขอฝากประชาชนให้ระมัดระวังการหลอกลวงจากแก๊งคอลเซนเตอร์ และภัยออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการแอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานรัฐ และองค์กรต่าง ๆ การหลอกให้โอนเงิน การให้ข้อมูลส่วนบุคคล การลงทุนในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการกดลิงก์จาก sms โดยหากต้องการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องสามารถโทรกลับไปยังหน่วยงานที่ถูกแอบอ้างเพื่อสอบถามข้อมูลที่ถูกต้อง หรือสังเกตเบอร์ที่โทรเข้ามา หากมี +697 นำหน้าเบอร์ที่โทรเข้ามา จะเป็นสายจากต่างประเทศทีโทรผ่านอินเทอร์เน็ต และหากมี +698 หรือ +66 นำหน้าสายที่โทร จะเป็นเบอร์โทรศัพท์ของไทย ที่ใช้บริการโรมมิ่งโทรกลับมาจากต่างประเทศ หากไม่มีธุระหรือคนรู้จักอยู่ต่างประเทศ สามารถปฏิเสธการรับสายดังกล่าว รวมทั้งการกด *138 แล้วโทรออก เพื่อบล็อกสายจากต่างประเทศ และ*137 แล้วโทรออก เพื่อปฏิเสธ SMS โฆษณา.