สำนักงาน กสทช. เผยผู้ถือซิมเกิน 6 เลขหมาย ยืนยันตัวตนกว่า 1.28 ล้านเลขหมาย

06 ก.พ. 2567 | 16:01 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2567 | 07:53 น.

สำนักงาน กสทช. เผยผู้ถือซิมเกิน 6 เลขหมาย ยืนยันตัวตนแล้วกว่า 1.28 ล้านเลขหมาย หลังออกกฎหมายบังคับใช้ 16 มกราคม 2567 คาดยอดลงทะเบียนต่อเนื่องก่อนระงับใช้ซิมการ์ด

จากกรณีที่ สำนักงานกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ได้กำหนดให้ผู้ถือถือครองซิมการ์ดจำนวนมาก ตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไปมายืนยันตัวตน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ม.ค.2567

ล่าสุดวันนี้ 6 กุมภาพันธ์ 2567  พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ  กสทช.  และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีและความมั่นคงของรัฐ เปิดเผยว่า หลังจากที่ สำนักงาน กสทช. กำหนดให้ผู้ถือครองซิมจำนวนมาก ตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไปมายืนยันตัวตน

โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ม.ค.2567 จากข้อมูลผู้ใช้บริการยืนยันตัวตนที่สรุปจากผู้ประกอบการทุกราย ณ วันที่ 28 มกราคม 2567 มีผู้ที่ถือครองซิมตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไป มายืนยันตัวตนแล้วจำนวนทั้งสิ้น 1,285,855 เลขหมาย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้มาลงทะเบียนซิมอีกต่อเนื่อง

 

 

แจงตัวเลขลงทะเบียนยืนยันตัวตน "ซิมการ์ด" เกิน 6 เลขหมาย

สำหรับรายละเอียดการยืนยันตัวตน แบ่งเป็น

  • ผู้ถือครองตั้งแต่ 6-100 เลขหมาย จำนวน 68,414 เลขหมาย จากจำนวนทั้งหมดที่ต้องมายืนยันตัวตน  จำนวน 3,848,378  เลขหมาย โดยกลุ่มดังกล่าวสามารถมายืนยันตัวตนได้ถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2567
  • ส่วนผู้ที่ถือครอง 100 เลขหมายขึ้นไป มายืนยันตัวตนแล้ว 1,217,441 เลขหมาย จากจำนวนทั้งหมด 7,110,513 เลขหมาย โดยกลุ่มที่ถือครอง 100 เลขหมายขึ้นไป จะต้องมายืนยันตัวตนภายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567
  • หากไม่มีการยืนยันตัวตนภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถูกระงับการใช้งาน และถูกเพิกถอนไปในที่สุด

พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร กล่าวว่า ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เครื่อง GSM Gateways (Simbox) เป็นเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด ที่สามารถจุซิมได้จำนวนมากทำให้โทรได้จำนวนมาก ซึ่งมาตรการยืนยันตัวตนดังกล่าว จะเป็นการกำจัดเบอร์ที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นมิจฉาชีพออกจากเบอร์ใช้งานปกติ ป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมออนไลน์ทั้งแก๊งคอลเซนเตอร์ บัญชีม้า และภัยจากออนไลน์ทุกรูปแบบที่ต้องผ่านการใช้ซิมโทรศัพท์จำนวนมาก ดังนั้นหากผู้ที่เข้าข่ายถือครองซิมจำนวนดังกล่าวไม่มายืนยันตัวตน เบอร์เหล่านี้ก็จะโดนระงับและเคลียร์ออกจากระบบ

“กสทช. และ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้มีการทำงานร่วมกันเพื่อหาแนวทางป้องกัน รวมทั้งร่วมจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ตลอด แต่เนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์สรรหาวิธีหลอกลวงใหม่ๆ มาหลอกลวงประชาชน จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ระวังหากมีเบอร์แปลกโทรมา อย่าโอนเงินโดยไม่ตรวจสอบให้ดี อย่าคุยกับคนไม่รู้จัก และติดตามข้อมูลข่าวสารขององค์กรที่น่าเชื่อถือ เหล่านี้จะเป็นกำแพงป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้” พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร กล่าว

นอกจากนี้ ขอฝากประชาชนให้ระมัดระวังการหลอกลวงจากแก๊งคอลเซนเตอร์ และภัยออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ  ทั้งการแอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานรัฐ และองค์กรต่าง ๆ การหลอกให้โอนเงิน การให้ข้อมูลส่วนบุคคล การลงทุนในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการกดลิงก์จาก sms โดยหากต้องการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องสามารถโทรกลับไปยังหน่วยงานที่ถูกแอบอ้างเพื่อสอบถามข้อมูลที่ถูกต้อง หรือสังเกตเบอร์ที่โทรเข้ามา หากมี +697 นำหน้าเบอร์ที่โทรเข้ามา จะเป็นสายจากต่างประเทศทีโทรผ่านอินเทอร์เน็ต และหากมี +698 หรือ +66 นำหน้าสายที่โทร จะเป็นเบอร์โทรศัพท์ของไทย ที่ใช้บริการโรมมิ่งโทรกลับมาจากต่างประเทศ หากไม่มีธุระหรือคนรู้จักอยู่ต่างประเทศ สามารถปฏิเสธการรับสายดังกล่าว รวมทั้งการกด *138 แล้วโทรออก เพื่อบล็อกสายจากต่างประเทศ  และ*137 แล้วโทรออก เพื่อปฏิเสธ SMS โฆษณา.