KEY
POINTS
ในที่สุด บอร์ด กสทช.ลงมติด้วยคะแนน 4:3 เสียงไม่เห็นชอบกับการเสนอชื่อ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. และ ปฏิบัติหน้าที่รักษาการเลขาธิการ กสทช. นั่งตำแหน่ง เลขาธิการ กสทช. อย่างเป็นทางการ โดยมติ 4 เสียงไม่เห็นชอบมีรายชื่อดังนี้ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ นางสาวพิรงรอง รามสูต นายศุภัช ศุภชลาศัย นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์
ส่วนอีก 3 เสียงเห็นชอบ คือ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกสทช. นายต่อพงศ์ เสลานนท์ พลตำรวจเอก ณัฐธร เพราะสุนทร
สำหรับบอร์ดเสียงข้างมากจำนวน 4 เสียงที่ไม่เห็นชอบ เนื่องจากเห็นว่ากระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช.ไม่ชอบตั้งแต่เริ่มต้น เนื่องจากคณะกรรมการ กสทช. จำนวน 7 คน ไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการสรรหา จึงต้องการให้ใช้กระบวนการสรรหาเหมือนครั้งที่เลือก นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา
ถามว่า ทำไมหลายคนสนใจที่ต้องการนั่งตำแหน่งเก้าอี้ เลขาธิการ กสทช.
คำตอบ คือ เพราะเลขาธิการ กสทช.มีหน้าที่ขับเคลื่อนทั้งด้านกิจการโทรคมนาคม กิจการโทรทัศน์ และ กิจการกระจายเสียง ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาสำนักงาน กสทช.ได้ประมูลคลื่นความถี่มือถือ และ ทีวีดิจิทัล รวมกันแล้วมากกว่าหลายแสนล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้าง สำนักงาน กสทช. แห่งใหม่ที่แยกแคราย มูลค่า 2,700 ล้านบาทอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และ กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. ที่ได้รับเงินที่ส่งเข้ากองทุนตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียงและ กิจการโทรทัศน์ ไม่เกินร้อยละ 2 ของรายได้ผู้รับใบอนุญาต และ กิจการโทรคมนาคม ร้อยละ 2.5 ของรายได้ผู้รับใบอนุญาตโทรคมนาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ กทปส. ได้ควักเงินก้อนโตซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 จำนวน 600 ล้านบาท
ผ่าแผนขับเคลื่อนปี 2567
สำหรับสายงานหลักที่ถือว่าเป็นขุมทรัพย์ของ กสทช. หนีไม่พ้นเรื่องประมูลคลืนมือถือ - กิจการกระจายเสียง และ กิจการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นตัวเฟืองจักรในการนำคลื่นความถี่ออกมาประมูลเพื่อแปลงเป็นสินทรัพย์ ขณะที่ นพ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ได้วางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนสำนักงาน กสทช. ในปี 2567 ด้วยการผลักดัน 9 นโยบาย รายละเอียดดังนี้
เปิดประมูลคลื่น 3500 MHZ ปลายปี 2567-ต้นปี 2568
ขณะที่ด้านกิจการโทรคมนาคม ซึ่งมีนายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช. ด้านกิจการโทรคมนาคม กำลังศึกษา ความเป็นไปได้ในการนำคลื่น 3500 MHz จำนวน 100 MHz ช่วงคลื่น 3600 MHz-3700 MHz จากคลื่นทั้งหมดที่มีประมาณ 400 MHz เพื่อนำมาให้กลุ่มอุตสาหกรรมประมูลทำไพรเวท 5G ดังนั้นหากผลการศึกษาพบว่ามีความต้องการของตลาดและมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลก็จะส่งผลการศึกษาและผลการหารือกับภาคส่วนต่างๆให้สำนักงานกสทช.ศึกษาถึงแนวทางในการประมูลอีกครั้งหนึ่ง ก่อนเสนอบอร์ดกสทช.พิจารณา หากมีความเห็นชอบร่วมกัน คาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการประมูลได้ในช่วงปลายปี 2567-ต้นปี 2568
ดันต้นแบบ "แพลตฟอร์มสตรีมมิงแห่งชาติ"
ขณะที่ด้านกิจการโทรทัศน์ ซึ่งมีนางสาวพิรงรอง รามสูตร รับหน้าที่ขับเคลื่อนกิจการทีวีวางโรดแมป ส่งเสริมอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในช่วงเปลี่ยนผ่าน (ออนไลน์ ไมเกรชั่น) สู่การกำหนดแนวทางทีวีดิจิทัลหลังปี 2572 ภายใต้โครงการศึกษาฉากทัศน์กิจการแพร่ภาพกระจายเสียงฯ หลังสิ้นสุดใบอนุญาต ในปี 2572 เพื่อประกอบการวางแนวทางและนโยบายรองรับกิจการโทรทัศน์ในอนาคตนั้น กำลังอยู่ระหว่าง "กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง" วางต้นแบบ "แพลตฟอร์มสตรีมมิงแห่งชาติ" ที่จะบูรณาการเนื้อหาจาก "ช่องโทรทัศน์ภาคพื้นดิน โฆษณา และ ข้อมูลผู้บริโภค" ให้อยู่ในระบบเดียวกัน และบริหารจัดการบริการเสริมที่วิ่งบนโครงข่าย (Over the top : โอทีที) ที่ถือเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามาเป็นช่องทางในการเผยแพร่เนื้อหาสำคัญและกำลังได้รับความนิยม
ส่วนกิจการกระจายเสียง ซึ่งมี พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญกรรมการ กสทช. กิจการกระจายเสียง กำลังผลักดันประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาต ให้ใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติในการให้บริการในประเทศ (Landing Right) และ ปลอดล็อกปัญหารบกวนสัญญาณกิจการวิทยุกระจายเสียง
ในส่วนอำนาจหน้าที่ของ เลขาธิการ กสทช. มีดังต่อไปนี้
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า ตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.มีบทบาทในการคุมขุมทรัพย์คลื่นความถี่มือถือ-ดาวเทียม และ กิจการโทรทัศน์ เพราะก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่า การประมูลคลื่นความถี่ 3จี,4 จี และ 5 จี มากกว่า 320,333 ล้านบาท รวมถึงการประมูลทีวีดิจิทัล 24 ช่อง มูลค่ารวม 50,862 ล้านบาท และ ล่าสุดประมูลสิทธิในการเข้าใช้ในวงโคจรดาวเทียม ได้เงินเข้ารัฐจำนวน 800 ล้านบาท
นั่นจึงเป็นที่มาที่มีผู้สมัคร จำนวน 9 คน เสนอตัวเข้าสมัครชิงเก้าอี้รายชื่อเลขาธิการ กสทช. ดังรายชื่อต่อไปนี้