“กสทช.” โดดอุ้ม “TRUE-DTAC” ยืนยันคงกฎเหล็กควบรวมกิจการ

19 ธ.ค. 2566 | 15:45 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ธ.ค. 2566 | 16:11 น.

“กสทช.” แจงยิบ “TRUE-DTAC” ปฏิบัติตามกฎหมายและเงื่อนไขหลังรวมธุรกิจ เผยปัญหาอาจเกิดจากการสื่อสารที่ออกไปยังสาธารณะ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดก่อให้เกิดความสับสนของผู้ได้รับข้อมูล

จากกรณีที่ สภาองค์กรของผู้บริโภค และเครือข่ายผู้บริโภคได้ออกมาเรียกร้องภายหลัง TRUE หรือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ DTAC หรือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยทั้งสองบริษัทได้รวมธุรกิจส่งผลให้ประสิทธิภาพคุณภาพสัญญาณและค่าบริการลดลง และ ค่าบริการแพงขึ้น

ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการ กสทช. ได้จัดแถลงข่าวด่วนในวันนี้ 19 ธันวาคม 2566  โดย พ.ต.อ. ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธาน กสทช. ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำประธาน กสทช. ด้านกฎหมาย และ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. ทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการ กสทช. ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

โดย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการและรักษาการเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า จากการติดตามและตรวจสอบควบรวม TRUE และ DTAC คณะอนุกรรมการติดตามตรวจสอบและประเมินตามมาตรการเยียวยาของการควบรวมระหว่าง TRUE และ DTAC ได้มีการดำเนินการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการตรวจสอบจะต้องเสนอรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. รับทราบก่อนจึงจะมีการเปิดเผยได้ ภายหลังรวมธุรกิจฯ TRUE  ได้ส่งรายงานมาแล้วและมีการจัดทำรายงานข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากคณะอนุกรรมการฯ หมดอายุลงในวันที่ 2 พฤศจิกายายนที่ผ่านมา

“หลังควบรวม TRUE และ DTAC ยังปฏิบัติตามกฎหมายและเงื่อนไข แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากการสื่อสารที่ออกไปยังสาธารณะ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดก่อให้เกิดความสับสนของผู้ได้รับข้อมูล อาทิ ประเด็นการลดเสาสัญญาณ ทำให้คุณภาพสัญญาณแย่ลง ซึ่ง TRUE ได้มีการชี้แจงข้อมูลในประเด็นที่มีการร้องเรียนเรื่องของเสาสัญญานที่มีจำนวนมาก หลังรวมธุรกิจทำการโยกย้ายสถานีฐาน (Cell Site) ไปในจุดที่สัญญาณดีกว่า  และ ยืนยันว่าคุณภาพการส่งสัญญาณยังคงเดิม แต่ได้มีการตำหนิ TRUE เกี่ยวกับการแจ้งดำเนินการยุบเสาสัญญาณและโยกย้าย Cell Site ต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการรับทราบก่อน”

TRUE-DTAC

 

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับอัตราค่าบริการที่เฉลี่ยลดลง 12% จะใช้วิธีการเฉลี่ยราคาใหม่ด้วยการถ่วงน้ำหนักตามจำนวนผู้ใช้บริการแต่ละรายการส่งเสริมด้านการขายภายใน 90 วัน หลังจากที่ได้มีการรวมธุรกิจ ทาง TRUE ได้ส่งข้อมูลให้สำนักงาน กสทช.ตรวจสอบ โดย กสทช.ได้ทำการสุ่มตรวจสอบข้อมูล ซึ่งการลดราคาในการลดค่าเฉลี่ยว่าแพ็กเกจไหนประชาชนใช้เยอะ กสทช.จะนำมาเฉลี่ยผลลัพธ์ออกมา จากการตรวจสอบก็พบว่า TRUE ยังทำตามมาตรฐานที่ได้กำหนด

สำหรับการเฉลี่ยราคาโดยการถ่วงน้ำหนักจากแพ็กเกจที่มีผู้ใช้มาก ที่ว่าลดลง 12% นั้น ค่าเฉลี่ยนั้นคือราคาเท่าไหร่นั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ต้องเสนอคณะกรรมการ กสทช. รับทราบก่อน

ขณะที่ประเด็นของแพ็คเกจราคา 299 บาท และมีแพ็กเกจอื่นๆ ที่หายไปก็ยืนยันว่าปัจจุบันยังมีการให้บริการอยู่ เมื่อครบกำหนดใช้บริการ 30 วัน แพ็กเกจจะหมดอายุ ผู้ให้บริการจะให้ผู้บริโภคเลือกว่าจะต่อแพ็กเกจเดิม หรือใช้แพ็กเกจใหม่ที่กำหนดได้ไม่มีการบังคับการเลือกใช้แพ็คเกจ รวมถึงข้อร้องเรียนเกี่ยวกับคุณภาพสัญญาณที่ก่อนควบรวมธุรกิจ TRUE-DTAC มีจำนวน 944 เรื่อง แบ่งเป็นของ TRUE  637 เรื่อง และDTAC 307 เรื่อง และหลังควบรวมธุรกิจมี 836 เรื่อง โดยมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคุณภาพสัญญาณแค่ 17 เรื่อง

ด้าน พ.ต.อ. ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธาน กสทช. ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำประธาน กสทช. ด้านกฎหมาย กล่าวว่า TRUE  ดำเนินตามเงื่อนไขหลังควบรวมทั้งสิ้น 19 ข้อ

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้เป็นข้อมูลของประธานอนุกรรมการผู้บริโภค ซึ่งเป็นประธานอนุกรรมการติดตามฯ โดยเป็นเหตุที่ทำให้คณะกรรมการ กสทช.ทั้ง 4 ท่าน ทำเรื่องเสนอประธาน กสทช. นำเรื่องเข้าที่ประชุม โดยเรื่องการติดตามหลังควบรวมธุรกิจฯ ได้ถูกบรรจุในวาระการประชุมมาโดยตลอด แต่การประชุมครั้งที่ผ่านๆมา ยังไม่มีการพิจารณา ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ นำเรื่องดังลก่าวเข้าที่ประชุมบอร์ด กสทช.