เปิด Xiaomi HyperOS เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง เชื่อม “ดีไวซ์-รถ-สมาร์ทโฮม”

27 ต.ค. 2566 | 17:17 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ต.ค. 2566 | 17:39 น.

เสียวหมี่ เปิดตัว Xiaomi HyperOS ระบบปฏิบัติการที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ออกแบบและปรับแต่งเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ส่วนบุคคล รถยนต์ และผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮมในสมาร์ทอีโคซิสเต็ม

เสียวหมี่จัดงานเปิดตัวภายใต้ธีม "Leap Beyond the Moment" เพื่อประกาศเปิดตัว Xiaomi HyperOS ซึ่งจะเข้ามาขับเคลื่อนสมาร์ทอีโคซิสเต็มของอุปกรณ์ส่วนบุคคล รถยนต์ และผลิตภัณฑ์ในบ้าน โดยมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายหลักสี่ประการ ได้แก่ การปรับโครงสร้างในระดับต่ำ (Low-level Refactoring), การเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบ Cross-End (Cross-End Intelligent Connectivity), ระบบอัจฉริยะเชิงรุก (Proactive Intelligence), และการรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร (End-to-End Security) ซึ่ง Xiaomi HyperOS มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์แบบใหม่ให้กับผู้ใช้แบบงาน

เปิด Xiaomi HyperOS เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง เชื่อม “ดีไวซ์-รถ-สมาร์ทโฮม”

ทั้งนี้ Xiaomi HyperOS จะทำการติดตั้งล่วงหน้าในอุปกรณ์ที่เปิดตัวใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Xiaomi 14 Series, Xiaomi Watch S3, Xiaomi TV S Pro 85" MiniLED และอุปกรณ์อื่นๆ ในตลาดภายในประเทศจีน

เสียวหมี่ประสบความสำเร็จในการเติบโตอย่างน่าทึ่งในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา โดยสามารถขยายฐานผู้ใช้งานจาก 100 รายเป็นจำนวนผู้ใช้งานที่มากถึง 1.175 พันล้านรายทั่วโลก ทั้งยังมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายที่ครอบคลุมมากกว่า 200 หมวดหมู่ ในยุคของ Internet of Things เสียวหมี่ได้เผชิญกับความท้าทายในการดำเนินการผ่านความซับซ้อนที่เกิดขึ้นจากระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ที่หลากหลาย และความท้าทายในการทำงานร่วมกันระหว่างอีโคซิสเต็มต่างๆ และด้วยประสบการณ์นี้จึงเป็นแรงผลักดันให้เสียวหมี่สร้างสรรค์นวัตกรรมอันล้ำหน้าที่ไม่เคยมีมาก่อนจนเกิดเป็น Xiaomi HyperOS

ซึ่ง Xiaomi HyperOS นั้นได้รับการพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2560 โดยถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ IoT ต่างๆ ทั้งนี้ภารกิจของบริษัทคือการรวมอุปกรณ์ในอีโคซิสเต็มทั้งหมดให้เป็นระบบที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยเป้าหมายสูงสุดคือการทำให้อุปกรณ์ทั้งหลายทำงานด้วยประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมประสบการณ์ผู้ใช้งานที่มีเสถียรภาพและสอดคล้องกัน และอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อที่ราบรื่นในทุกอุปกรณ์ของเสียวหมี่

ทั้งนี้แกนหลักของ Xiaomi HyperOS นั้นถูกสร้างขึ้นจาก Linux และ Xiaomi Vela ซึ่งเป็นระบบที่เสียวหมี่พัฒนาขึ้นเอง ส่งผลให้ระบบทำงานด้วยกันอย่างสอดคล้องรวมไปถึงความสามารถในการจัดการทรัพยากรของระบบที่แม่นยำทำให้ทุกอุปกรณ์สามารถมอบประสิทธิภาพอย่างเหนือระดับ เลเยอร์พื้นฐานของ Xiaomi HyperOS นั้นรองรับแพลตฟอร์มโปรเซสเซอร์มากกว่า 200 แพลตฟอร์ม และระบบไฟล์มาตรฐานมากกว่า 20 ระบบ ครอบคลุมอุปกรณ์หลายร้อยประเภทและ SKU หลายพันรายการ โดยที่ระบบจะเข้ามาช่วยในการกำหนดค่า การทำงาน และการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นตามข้อกำหนดของฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ช่วงขนาดของ RAM ของอุปกรณ์นั้นยังรองรับครอบคลุมตั้งแต่ขนาดเล็ก 64KB ไปจนถึงขนาดใหญ่ถึง 24GB ทั้งนี้การทำงานตามหลักการของการกำหนดค่าทรัพยากรที่จำเป็นตามฮาร์ดแวร์ที่แตกต่างกันออกไป ควบคู่ไปกับการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนของไฟล์และการบีบอัดสแต็ก IO พื้นฐาน จึงทำให้ Xiaomi HyperOS มีน้ำหนักเบา โดยระบบเฟิร์มแวร์บนสมาร์ทโฟนจะใช้พื้นที่เพียง 8.75GB เท่านั้น ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงที่สำคัญเหนือคู่แข่ง

Xiaomi HyperOS นั้นมีความสามารถในการกำหนดเวลาที่ได้รับการปรับปรุงซึ่งสามารถสั่งฮาร์ดแวร์และการดำเนินการได้อย่างแม่นยำในสถานการณ์ที่หลากหลายและซับซ้อน ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีทางเทคนิคต่างๆ เช่น การปรับลำดับความสำคัญของเธรดแบบไดนามิก และการประเมินระบบงานแบบไดนามิก ส่งผลให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและประสิทธิภาพในการใช้พลังงานอย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้การเล่นเกมที่ใช้ทรัพยากรมากมายบนสมาร์ทโฟนที่ได้รับติดตั้ง Xiaomi HyperOS แล้วจะช่วยให้อัตราเฟรมมีเสถียรภาพมากขึ้นและสิ้นเปลืองพลังงานน้อยลงเมื่อเทียบกับ stock Android และระบบปฏิบัติการอื่นๆ ที่ได้รับการปรับแต่งอย่างมาก ทั้งนี้ในอุปกรณ์รุ่นพื้นฐานที่มีพลังการประมวลผลจำกัด ข้อดีในการตั้งเวลาของ Xiaomi HyperOS จะยิ่งเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยจะรองรับการแบ่งงานระหว่างหน่วยประมวลผลหลายหน่วยเพื่อการประมวลผลร่วมกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ให้สูงสุด

นอกจากนี้ Xiaomi HyperOS ยังได้รับการปรับโครงสร้างโมดูลทางเทคนิคใหม่อย่างครอบคลุม ซึ่งรวมไปถึงระบบไฟล์ การจัดการหน่วยความจำ ระบบย่อยของการถ่ายภาพ และระบบเครือข่าย ทั้งหมดนี้เพื่อมุ่งเป้าไปที่การควบคุมและเพิ่มประสิทธิภาพความสามารถด้านฮาร์ดแวร์ที่แตกต่างกันของอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

นอกเหนือจากการแสวงหาความเป็นเลิศในด้านประสิทธิภาพแบบ single-end แล้ว Xiaomi HyperOS ยังทำลายข้อจำกัดของสถาปัตยกรรมระบบแบบเดิมๆ โดยหัวใจหลักคือ HyperConnect ซึ่งเป็นโครงสร้างการเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบ Cross-End ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มาช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบเรียลไทม์ระหว่างอุปกรณ์จำนวนมาก ด้วยการเปิดตัวศูนย์กลางของอุปกรณ์แบบครบวงจร ผู้ใช้สามารถควบคุมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันได้เกือบทั้งหมด ทำให้พวกเขาสามารถตรวจสอบและจัดการระบบอีโคซิสเต็มที่เชื่อมต่อระหว่างกันได้อย่างง่ายดายจากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน บนท้องถนน หรือที่ออฟฟิศ นี่ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของความสะดวกสบายและประสิทธิภาพขั้นสูงสำหรับผู้ใช้งาน เนื่องจากพวกเขาสามารถระบุและใช้งานอุปกรณ์ทั้งหมดภายในอีโคซิสเต็มของเสียวหมี่ได้อย่างราบรื่น

Xiaomi HyperOS ผสานอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทั้งหมดเข้าด้วยกันและช่วยให้ซอฟต์แวร์สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้งาน โดยที่สามารถสลับแหล่งที่มาของกล้องได้อย่างราบรื่นในระหว่างการประชุมทางวิดีโอ การเข้าถึงกล้องในรถยนต์จากโทรศัพท์ของคุณ หรือเข้าถึงกล้องด้านหลังของสมาร์ทโฟนในขณะที่คุณใช้แท็บเล็ตหรือแล็ปท็อปได้ หรือแม้แต่เชื่อมต่อแท็บเล็ตกับอินเตอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถย้าย แอป เนื้อหาบนคลิปบอร์ด และการแจ้งเตือนระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายตามที่ต้องการ

ในยุคของ Internet of Things การเชื่อมต่อข้ามอุปกรณ์และการบูรณาการความสามารถถือเป็นสิ่งสำคัญ Xiaomi HyperOS นั้นก้าวขึ้นไปอีกขั้นด้วยการผสมผสานระบบย่อยของ AI ที่รองรับเทคโนโลยี AI ขั้นสูง จึงทำให้อุปกรณ์สามารถช่วยเหลือผู้ใช้งานในเชิงรุกได้